
6ชนกลุ่มน้อยจับมือต้านรบ.ทหารพม่า
กองกำลังชนกลุ่มน้อย 6 กลุ่มในพม่า จับมือเป็นพันธมิตรต้านรัฐบาลทหาร ด้านยูเอ็นเอชซีอาร์.ย้ำผู้ว่าฯตาก ส่งผู้ลี้ภัยกลับขอให้เน้นความปลอดภัย ด้านนักข่าวญี่ปุ่นเก็บตัวอยู่ในแม่สอด เกรงตม.ตากล่าตัว หลังถือหนังสือเดินทางลอบออกนอกประเทศ
(11พ.ย.) ตัวแทนของชนกลุ่มน้อยในพม่า เปิดเผยว่า กองกำลังติดอาวุธ 6 กลุ่ม ได้จับมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อยกระดับความเป็นศัตรูกับรัฐบาลทหาร โดยก่อนหน้านี้ มี 3 กลุ่มในจำนวนนี้ ได้ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลทหาร ที่กำลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ครั้งล่าสุดจากนานาชาติกรณีการเลือกตั้งแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน
นายกัม ซัง ซัง ผู้แทนขององค์กรแห่งชาติคะฉิ่น หรือ KNO เปิดเผยว่า การทำข้อตกลงจับมือเป็นพันธมิตรกันระหว่าง 6 กลุ่มกองกำลังชนกลุ่มน้อยติดอาวุธครั้งนี้ ได้มีขึ้นที่ประเทศไทยก่อนหน้าการเลือกตั้ง 3 วัน ตามด้วยการประชุมที่สำนักงานสหประชาชาติ เมื่อวันอังคาร
KNO เป็นพันธมิตรกับกองทัพคะฉิ่นอิสระ หรือ KIA ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ร่วมจับมือเป็นพันธมิตรด้วย ส่วนกลุ่มอื่นที่เข้าร่วม ได้แก่ พรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNPP,สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU , พรรคมอญใหม่ หรือ MNSP และกองทัพรัฐฉานเหนือหรือ SSA-N และถ้าพวกเขารวมตัวกัน จะมีกำลังรบอย่างน้อย 3 หมื่นนาย
กองกำลังคะฉิ่นMNSP และกองทัพรัฐฉาน เคยลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลทหารพม่ามาแล้วแต่พวกเขาต่างพากันผิดหวังที่ผลการตกลงไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหมายเอาไว้ และไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และความเป็นปรปักษ์กับรัฐบาลทหารจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และลามเข้าไปในเขตเมือง สงครามจะไม่จำกัดอยู่เฉพาะแค่ในป่าอีกต่อไปแล้ว
ทั้งรัฐบาลทหารและกองกำลังชนกลุ่มน้อย ต่างก็เสริมกำลังทหารในพื้นที่ขัดแย้ง มาตั้งแต่การเลือกตั้ง ซึ่งทหารฝ่ายรัฐบาลได้ปะทะกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยมาตั้งแต่พม่าได้รับอิสรภาพเมื่อปี 2491 ขณะที่ตามพื้นที่ตะเข็บชายแดนที่สงครามกลางเมืองยังคงดำเนินอยู่นั้น กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ได้กล่าวหารัฐบาลทหารว่า ใช้ความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมในการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน ที่รวมถึงการข่มขืน , การทรมาน และทำลายบ้านเรือนของชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.นางนาตาเรีย รักษาการแทนหัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) ประ จำ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้กล่าวกับนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในขณะส่งผู้ลี้ภัยกลับไปฝั่งจังหวัดเมียวดีว่าในการที่ฝ่ายไทยส่งผู้ลี้ภัยกลับไปพม่าด้วยความปลอดภัยไปแล้วอย่ามีปัญหาและขอให้กลับไปด้วยความสมัครใจและขอขอบคุณฝ่ายไทยที่ช่วยดูแลผู้ลี้ภัยเป็นอย่างดี ขณะที่นายสามารถ บอกว่า ฝ่ายไทยมีหลักการในการส่งผู้ลี้ภัยกลับอยู่แล้ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์สงบนิ่งไม่มีการสู้รบกัน แต่ชาวพม่าบางกลุ่มยังคงข้ามมาเขตไทย ในช่วงเย็นๆ เพื่อกลับมานอนตามบ้านญาติ วัด และคนที่รู้จัก เพราะยังไม่วางใจสถานการณ์ในสถานการณ์
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายโตรุ ยามาติ ผู้สื่อข่าวอิสระ จากประเทศญี่ปุ่น ที่ลอบข้ามไปบันทึกภาพข่าววันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมาและฝ่ายพม่าได้ปล่อยตัวมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.นั้น ขณะนี้งคงเก็บตัวอยู่กับเพื่อนๆชาวญี่ปุ่นใน อ.แม่สอด โดยไม่ยอมเปิดเผยตัวเอง ขณะที่ทางตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก กำลังติดตามหาตัวเพื่อจับกุมไปดำเนินคดีในข้อหาลอบออกนอกราชอาณาจักร ในฐานบุคคลต่างด้าว ที่ถือหนังสือเดินทางโดยไม่ได้รับอนุญาต