
อุทธรณ์ยกฟ้องภคพรคดีรีดทรัพย์-หมิ่น"สมบัติ"
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ยกฟ้อง ภคพร อดีตลูกจ้าง สนง.ผังเมือง-โยธาธิการ จ.ตราด ไม่ผิดรีดทรัพย์- หมิ่นประมาท สมบัติ อุทัยสาง อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวหาถูกข่มขืน แต่ให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ฐานแจ้งความเท็จ
(9พ.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ ด.940/2546 ที่นาย สมบัติ อุทัยสาง อายุ 74 ปี อดีต รมช.มหาดไทย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส. ภคพร สันทาลุนัย อายุ 34 ปี อดีตลูกจ้างประจำสำนักงานผังเมือง และโยธาธิการจังหวัดตราด เป็นจำเลยความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ , รีดเอาทรัพย์ , แจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา338 , 172 , 174 ม.326 และ 328 พร้อมขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย จากการกระทำละเมิดจำนวน 50 ล้านบาท
โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า ระหว่างวันที่ 10 พ.ย. 2545 - 14 ม.ค. 2546 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยขู่เข็ญโจทก์ว่าจะเปิดเผยเรื่องที่โจทก์กับจำเลยร่วมประเวณีกัน ที่โรงแรมประดิพัทธ์ ย่านสะพานควาย แก่ภรรยาและคนอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง หากโจทก์ไม่จ่ายเงินตามที่เรียกร้อง ซึ่งภายหลังทราบว่าว่า จำเลยเตรียมกระดาษทิชชูเช็ดเอาคราบอสุจิที่ตกค้าง อยู่ภายในอวัยวะเพศไปเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่ามีการร่วมประเวณีกับโจทก์ เพื่อต่อรองเรียกร้องเงินจำนวน 1 ล้านบาท การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และยืนยันว่าถูกข่มขืน ศาลชั้นต้นมีพิพากษา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.48 เห็นว่า น.ส.ภคพร จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง ให้จำคุก 4 ปี ฐานรีดเอาทรัพย์ มาตรา 338 , ฐานแจ้งความเท็จ มาตรา 172 จำคุก 2 ปี , ฐานหมิ่นประมาท ฯ มาตรา 326 และ 328 จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 3 ข้อหา เป็น 7 ปี ส่วนข้อหาอื่นให้ยก และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จากการกระทำละเมิด ที่ไม่ได้รับโอกาสดำรงตำแหน่งที่สำคัญทางการเมือง เป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้อง และให้จำเลยลงโฆษณา คำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รวม 4 ฉบับ เป็นเวลา 10 วันด้วย ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์
อย่างไรก็ดีเมื่อถึงเวลานัดอ่านคำพิพากษา ศาลได้มีคำสั่งให้ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ออกจากห้องพิจารณาเนื่องจากเป็นคดีส่วนตัว โดยวันนี้ น.ส.ภคพร เดินทางมาพร้อมทนายความและญาติเพื่อรอฟังคำพิพากษา ขณะที่ฝ่ายโจทก์คงมีเพียงเสมียนทนายความเท่านั้นที่เดินทางมาศาล
ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว นาง รัศมี ไวยเนตร ทนายความของ น.ส. ภคพร เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง น.ส.ภคพร ในข้อหารีดทรัพย์ และหมิ่นประมาท ฯ เนื่องจากเห็นว่า การนำเสนอเรื่องดังกล่าวเป็นการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน แต่ศาลอุทธรณ์ยังคงให้จำคุก น.ส.ภคพร ฐานแจ้งความเท็จเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวไม่ใช่การข่มขืน อย่างไรก็ดีฝ่ายตนยังจะยื่นฎีกาสู้คดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ญาติ น.ส.ภคพร ได้แสดงความดีใจด้วยการตบไหล่ให้กำลังใจ น.ส.ภคพร