
ขโมยซ้ำเติมลักเครื่องสูบน้ำออกจากนา
ขโมยซ้ำเติมชาวนาลักเครื่องสูบน้ำขณะสูบน้ำออกจากนา น้ำชียังเพิ่มระดับต่อเนื่องอย่างน่าเป็นห่วงเพราะหมู่บ้านใกล้ชีน้ำท่วมถึงหน้าต่างบ้าน พระก็อพยพด้วย โรงปั้นอิฐริมชี 30 แห่งจมน้ำ ผวจ.เตือน 4 อำเภอพื้นที่ตอนล่างต่อจาก อ.จังหารเตรียมรับมือ "ชวน-พี่ชาย" มอบถ
(7พ.ย.) นายบุญสม พรมมา อยู่บ้านเลขที่ 1/1 ม.7 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้ร้องเรียนนาย ธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอสามโคก ขณะออกตรวจสภาพน้ำล้นถนนเข้าท่วมพื้นที่ด้านหลังของอำเภอสามโคก โดยน้ำได้ไหลมาจากคลองพระอุดม ที่คลองนี้ได้มีการผันน้ำมาจากคลองพระยาบันลือ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าคลองควาย ไร่นาข้าว ที่กำลังจะเก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่
นายบุญสม ได้นำเครื่องสูบน้ำยันม่า ขนาด 10 แรงม้า นำมาตั้งสูบอยู่ริมทางตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่อสูบน้ำออกจากแปลงนา ที่จะเก็บเกี่ยวในปลายเดือนนี้ และได้มาพบว่า เครื่องสูบได้ถูกขโมยหายไปเมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 7 พ.ย.53 นี้ ทำให้ตอนแรก ที่สามารถดูดน้ำป้องกันนาข้าวไม่ท่วมไว้ได้ในระดับหนึ่งจึงทำให้น้ำท่วมข้าวทันที
ด้าน นายธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอสามโคก ได้แนะนำให้นายบุญสมไปแจ้งความที่ สภ.สามโคก เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับคนร้าย
น้ำชียังเพิ่มอพยพพระหนีน้ำท่วมร้อยเอ็ด
ระดับน้ำยังเพิ่มไม่หยุด น้ำที่บ้านหนองแค ต,ม่วงลาด ที่มีการอพยพออกมานอกหมู่บ้าน ปรากฏว่าน้ำยังขึ้นต่อเนื่อง จนท่วมบ้านเรือนในหมู่บ้านบางจุดสูงกว่า 2 เมตร การเดินทางเข้าออกและติดต่อกันต้องใช้เรือท้องแบนของตนเอง ในขณะที่ป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยอำเภอจังหารนำเรือติดเครื่องยนต์ไปประจำไว้ 2 ลำ เพื่อเตรียมความพร้อมหากสถานการณ์คับขัน ก็จะใช้เพื่อลำเลี่ยงชาวบ้านที่เหลือเฝ้าบ้านหลังคาเรือนละ 1 คน และพระสงฆ์ในวัดบ้านหนองแค ที่ถูกน้ำท่วม ให้ออกมาในที่ปลอดภัยได้ทันท่วงที
ส่วนที่บ้านดินแดง ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร ร้อยเอ็ด หมู่บ้านอีกแห่งที่ติดลำน้ำชี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 10 ซม.มาเพิ่มระดับน้ำสูงขึ้นอีก จนต้องมีการลำเลียงขนของไว้บนที่สูงและลำเลียงออกมาบนพนังกั้นน้ำชีนอกหมู่บ้านกันทั้งหมด และได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 148 หลังคาเรือน รวมทั้งวัด 1 แห่งก็ท่วมสูงกว่า 1 เมตร พระในวัดก็ต้องอพยพออกมาทั้งหมด ในขณะที่โรงงานปั้นอิฐแดง ของบ้านดินแดงที่พนังกั้นลำชีขาดเมื่อวานนี้ น้ำได้เอ่อท่วมโรงงานปั้นอิฐแดง จมหายไปในน้ำแล้วกว่า 30 แห่ง ชาวบ้านต้องขนสัมภาระเท่าที่จะขนได้ออกมากองไว้ริมถนนสายร้อยเอ็ด-กาฬสินธิ์เพื่อหนีน้ำ ซึ่งยังขึ้นไม่หยุด
ขณะที่ทางด้านนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งได้ออกไปแจกจ่ายถุงยังชีพระลอกที่ 2 เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยในเขตพื้นที่อ.จังหาร และพื้นที่ อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากสถานการณ์ตามข้อมูลของชลประทานประเมินว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำจะยังไม่นิ่งและยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกในวัน-สองวันนี้ ซึ่งได้คือมีการให้นายอำเภอทุกพื้นที่ซึ่งจะรับน้ำจากลำน้ำชี ต่อจาก อ.จังหาร อีก 4 อำเภอ คือ อำเภอโพธิชัย,เชียงขวัญ,ทุ่งเขาหลวง,เสลภูมิ ให้มีการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำที่ไหลลงไปจาก อ.จังหารและให้เกาะติดสถาณการร์โดยใกล้ชิดตลอดเวลา
ชวน หลีกภัย"ร่วมแจกของน้ำท่วม
เมื่อเวลา 14.30 น.ที่วัดไพรสณฑ์ ม.4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง นยชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.พร้อมด้วยนายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง นพ.สุกิจ อัฒโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง เขต 1 และนายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันนำถุงยังชีพ จำนวน 1,088 ถุงและข้าวสารอีก 1,000 ถุง ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ต.นาตาล่วงและต.หนองตรุด ซึ่งเป็นความร่วมมือของ อบจ.ตรัง ตำรวจ ภ.จว.ตรัง ตร.น้ำและมูลนิธิกุศาลสถานตรัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังได้มอบเครื่องกรองน้ำอีก 2 ชุดให้กับ ร.ร.วัดไพรสณฑ์ไว้ใช้อีกด้วย
ต่อมานายชวน พร้อมด้วยนายกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพนังกั้นแม่น้ำตรังในพื้นที่ ม.4,6 ต.นาตาล่วง และ ม.6 ต.นาท่ามเหนือ ซึ่งได้พังทลายลงในช่วงที่เกิดฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่ ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเจ้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน 2 ตำบล ซึ่งทางราชการ อปท.ผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ช่วยกันนำกระสอบทรายมากั้นเป็นแนว เพื่อไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรได้อีก
ด้านนายชวน กล่าวกับประชาชนที่มารับมอบถุงยังชีพที่วัดไพรสณฑ์ว่า จากการที่พื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้เกิดภาวะน้ำท่วมอย่างหนัก สร้างความเสียหายให้กับภาคเศรษฐกิจอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เสียหายมากกว่า จ.พัทลุง ซึ่งผู้เดือดร้อนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้สูงสุดในภาคใต้ ได้เกิดลมพายุพัดกระหน่ำทำให้สวนยางพาราหลายพื้นที่ขาด 2 ท่อนเสียหายทั้งแปลง เกษตรกรต้องหมดเนื้อหมดตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะชดเชยให้ แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า สวนยางพาราที่เสียหายรัฐบาลจะหามาตรการชดเชยเช่นไร ซึ่งคาดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในสภา เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป
ในส่วนของ จ.ตรัง แม้ว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมด้วยนั้น แต่เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นใกล้เคียงก็ถือว่ายังเดือดร้อนน้อยกว่า เนื่องจากภาคราชการ อปท.และชาวบ้านมีความเข้มแข็งในการช่วยเหลือตัวเอง โดยเฉพาะการป้องกันน้ำท่วม จากการที่พนังกั้นแม่น้ำตรังได้พังทลายลงมา และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 2 พื้นที่ ทั้งนี้หากไม่ช่วยกัน เชื่อว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลนครตรังจนกลายเป็นทะเลอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมพนังกั้นแม่น้ำตรังให้มีความแข็งแรงแรงและมั่นคงกว่านี้ เพราะในอนาคตจะได้ช่วยป้องกันน้ำท่วมได้
นายชวน กล่าวต่อไปว่า ต่อไปในอนาคต จ.ตรัง จะมีน้ำทะเลหนุนรวมทั้งมีการใช้น้ำจากต้นน้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบไม่มีน้ำใช้ได้ ดังนั้นจะหวังพึ่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำท่างิ้ว ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด อย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์น้ำ โดยเฉพาะขณะนี้นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 2 ได้นำโครงการแก้วิกฤตน้ำกินน้ำใช้ เข้าสู่สภาและผ่านการอนุมัติงบ 15 ล.เพื่อใช้ในการขุดลอกอ่างเก็บน้ำบริเวณ รร.หาดสำราญ ซึ่งคาดว่าดำเนินการในปีนี้
นอกจากนี้ ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.กล่าวต่อไปอีกด้วยว่า สำหรับที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้จะประสบภาวะน้ำท่วมอย่างหนักกว่าปี 2543 แต่ยังถือว่าโชคดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำริให้ขุดลอกคลองอู่ตะเภา เพื่อระบายน้ำจากตัวเมืองลงสู่ทะเลสาบสงขลา โดยใช้งบฯ 13,000 ล.เพื่อขุดลอกคลองในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งในปัจจุบันงบฯยังใช้ไม่หมด เนื่องจากไม่สามารถขยายพื้นที่ของคลองได้ เนื่องจากชาวบ้านไม่ยอมขายที่ดินให้ หากไม่มีโครงการนี้ เชื่อว่า อ.หาดใหญ่จะประสบปัญหาน้ำท่วมหนักกว่านี้