ข่าว

เส้นทางฮัจญ์สู่ความแรงกล้าแห่งศรัทธา

เส้นทางฮัจญ์สู่ความแรงกล้าแห่งศรัทธา

05 พ.ย. 2553

ฮัจญ์คือบทบัญญัติในหลักการอิสลามข้อสุดท้ายประการที่ 5 บังคับให้มุสลิมทุกคนที่มีความสามารถด้านการเงิน (โดยไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินของผู้อื่น) มีสุขภาพร่างกายดีและมีความปลอดภัยในการเดินทางทั้งไปและกลับ

 มุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีภาคบังคับดังกล่าวนี้จะต้องเข้าใจดีว่าข้อบัญญัติอื่นๆ ในข้อแรกถึงข้อที่สี่ครบสมบูรณ์คือประการแรกเป็นการเอ่ยนามการยอมรับในความเป็นเอกของพระเจ้าและการเป็นศาสนทูตของนบีมูฮำมัดรอซูลุลลอฮ. ประการที่สองคือการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันละ 5 เวลา ประการที่สามคือการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนปีละหนึ่งเดือนตามปฏิทินจันทรคติ (29-30 วัน) ประการที่สี่คือการจ่ายซากาต (ศาสนบริจากภาคบังคับ) และประการที่ห้าคือการไปประกอบพิธีฮัจญ์ในเมืองมักกะฮ. ประเทศซาอุดีอาระเบีย

มีรายละเอียดบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์คือ กรณีเป็นบุตรที่ไม่บรรลุศาสนภาวะ (ชายเมื่อมีอาการฝันเปียก หญิงเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกหรือตั้งแต่ 9 ขวบขึ้นไป) เขาเหล่านี้ต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองหรือร่วมเดินทางไปกับผู้ปกครอง เช่นเดียวกันกับภรรยาที่จะเดินทางคนเดียวไม่ได้ต้องมีสามีหรือได้รับอนุญาตจากสามีก่อนหรือร่วมเดินทางไปพร้อมกับญาติสนิทที่ไม่อนุญาตให้แต่งงานได้เช่นพี่ชาย น้องชาย น้องพ่อ พี่พ่อ ปู่ ตา ทั้งฝ่ายหญิง (ภรรยา)และฝ่ายชาย (สามี) หรือลูกหลานชายที่เป็นแม่นมร่วมกัน

การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์จะมีกระบวนการและขั้นตอนที่ละเอียดมากขึ้น ตั้งแต่การเตรียมตัวเรื่องความรู้ ความเข้าใจในการประกอบพิธีทั้งระบบ ความสมบูรณ์ของร่างกาย จิตใจของแต่ละคน การลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงกับกรมศาสนา การเข้าสังกัดบริษัทที่จัดการเรื่องฮัจญ์โดยเฉพาะ การจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ประกอบด้วยค่าเดินทางทั้งในประเทศและระหว่างการใช้ชีวิตช่วงการประกอบพิธีเช่นค่าที่พัก อาหารการกิน ค่าจัดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของการประกอบพิธีซึ่งรัฐบาลของประเทศซาอุดีอาระเบียจะต้องจัดการในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ไปประกอบพิธีได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบเพื่อให้การประกอบพิธีได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ. (ฮัจญ์มับรูร.)

การพัฒนาการเรื่องการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของมุสลิมในประเทศไทย ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคนครรัฐที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมาหลายร้อยปีแล้ว มีงานเขียนที่กล่าวถึงการเดินทางในสมัยก่อนมากมายหลายเล่มเช่นได้กล่าวไว้ว่าคนมลายูมุสลิมในแหลมมลายูเวลาจะเดินทางไปมักกะฮ. (Makkah) (หรือเมกกะ (Mecca) ในความเข้าใจของคนไทย) โดยส่วนใหญ่จะเดินทางไปรอเรือซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือสินค้าที่เมืองเตมาสิก (สิงคโปร์ปัจจุบัน) บางคนโชคดีสามารถเดินทางตามประสงค์และมีไม่น้อยต้องรอเรือเป็นเวลานานจนต้องอาศัยอยู่ถาวรหรือต้องเจ็บไข้ได้ป่วยถึงชีวิตในเมืองเตมาสิก บ้างได้ขึ้นโดยสารเรือแต่ต้องประสบกับภัยมรสุมระหว่างการเดินทางในมหาสมุทรอินเดียต้องพลัดพราก ติดค้างตามเกาะแก่งและเมืองต่างๆ ในเส้นทางตั้งแต่เกาะซีลอน หลายเมืองบริเวณตอนใต้ของอินเดียหรืออาจจะถูกมรสุมในมหาสมุทรซัดเหวี่ยงไปไกลถึงเกาะมาดากัสการ์ในแอฟริกาใต้ ซึ่งปัจจุบันมีลูกหลานที่ใช้ภาษามลายูมากมายในพื้นที่ดังกล่าว คนแก่คนเฒ่าบางท่านเล่าให้ฟังว่ามีบางคนเดินเท้าออกจากบ้านข้ามประเทศพม่า อินเดียโดยใช้เวลาแรมปีจนไปถึงเมืองมักกะฮ.ก็มี

จึงไม่แปลกเวลาใครผู้ใดจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์แล้วจะมีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทไปรับและส่งกันมากเป็นพิเศษ เพราะการเดินทางไปและกลับถือเป็นความสิริมงคลทั้งผู้ไปและผู้รับส่งด้วย ที่สำคัญการเดินทางไกลครั้งนี้อาจจะเป็นการพบครั้งสุดท้ายของบางคนก็เป็นได้ จึงจำเป็นต้องกล่าวอโหสิกรรมกันทุกฝ่าย เหล่านี้คือวิถีที่ปฏิบัติกันมานับแต่เก่าก่อนเป็นร้อยๆ ปี

ความหมายของการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวมุสลิมในประเทศไทย จะเหมือนกันกับมุสลิมทั่วโลกคือการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งศาสนาให้สมบูรณ์ ดังนั้นผู้บริหารประเทศมีความจำเป็นต้องจัดการเพื่อสนองตอบความศรัทธาของประชาชนอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประการหนึ่งคือการตั้งองค์กรที่มีคุณภาพและรัฐบาลให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกและการจัดการอย่างชาญฉลาด โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพราะการประกอบพิธีฮัจญ์ของประชาชนพลเมืองแต่ละปีกว่า 3 ล้านคนทั่วโลกคือหน้าตาและศักดิ์ศรีของประเทศ

ที่น่าเสียใจและน่าเสียดายที่ความศรัทธาและเป้าประสงค์ของมุสลิมในประเทศไทยในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ต้องสะดุดทุกครั้งทุกปีนับเกือบครึ่งศตวรรษเพราะข่าวคราวการจัดการ การเมือง ผลประโยชน์ การคอรัปชั่น การหลอกลวง ความเห็นแก่ตัว ความไม่รู้และอวิชชาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องมาโดยตลอด อย่างนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากรัฐบาล (การเมืองและอำนาจ) ผู้นำองค์กรมุสลิม (ที่ห่างไกลการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตน) และนักวิชาการ (ที่รู้จริงและศรัทธาบริสุทธิ์)ต้อง...กล้าจะหักดิบ...แก้ปัญหานี้อย่างทันที มิเช่นนั้นท่านทั้งหลายจะเป็นส่วนหนึ่งทีทำให้ความเลวร้ายทั้งหลายดำรงอยู่และ...ท่านจะต้องรับผิด...ตลอดไปด้วย

อัฮหมัด สมบูรณ์  บัวหลวง [email protected]