
เบื้องหลัง"ผู้กองโหด"ยิงโหด...ทหารหญิง
กว่า 48 ชั่วโมง...ที่อดีตตำรวจฝ่ายอำนวยการ บก.น.7 ยังไม่มีการติดต่อเข้ามอบตัว หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิงเพื่อนสาว ซึ่งเป็นทหารชั้นประทวน เสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนฝูงที่นั่งดื่มสุราภายในร้านขายอาหารอีสานฝั่งตรงข้ามปั๊มเชลล์ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 แขวงและบางซื่
ถึงแม้ว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. หัวหน้างานกฎหมายของ บช.น. และรับผิดชอบดูแลงานในพื้นที่ บก.น.7 ได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัยร้ายแรง โดยผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเซ็นคำสั่ง บก.น.7 ที่ 287/53 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ให้ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ รองสารวัตรฝ่ายอำนวย กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ออกจากราชการทันที หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ยิง จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา ใจสงัด ทหารในสังกัดกองพลาธิการ กรมยุทธบริการทหาร เสียชีวิต
เหตุการณ์ที่ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ ก่อเหตุฆาตกรรม จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะข้าราชการตำรวจและกลุ่มเพื่อน ที่เพิ่งเข้ามานั่งรับประทานอาหารภายในร้าน
ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน...กลุ่มเพื่อนของ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ และกลุ่มเพื่อนของ จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา รวมทั้งหมด 8 คน สั่งอาหารและเครื่องดื่มภายในร้าน โดยพูดจาเฮฮาตามประสาพี่น้องผองเพื่อนราว 30 นาที แต่แล้วจู่ๆ ก็เกิดการโต้เถียงกันภายในกลุ่มเพียงไม่กี่คนทำนองว่า
เพื่อนของ จ.ส.ต.(ญ.) เกสรา...เมื่อวานกลับบ้านตอนตีสาม
จ.ส.ต.(ญ.) เกสรา...ตีสามยังอยู่ข้างถนนอยู่เลย
ร.ต.อ.นพฤทธิ์...ไปไหนมา ไหนบอกว่าอยู่บ้านไง
ร.ต.อ.นพฤทธิ์...ถามว่าไปไหนมา
จ.ส.ต.(ญ.) เกสรา...ไปกินเบียร์มา
ทันทีที่ จ.ส.ต.(ญ.) เกสราพูดจบประโยค ร.ต.อ.นพฤทธิ์ออกอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง พร้อมกับชักอาวุธปืนที่พกติดอยู่ข้างเอว ออกมาจ่อยิง จ.ส.ต.(ญ.) เกสรา 1 นัดเข้าเหนือคิ้วซ้ายจนหน้าหงายเสียชีวิตคาเก้าอี้ แล้วหลบหนีออกจากร้านอาหารขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุทันที
หลังเกิดเหตุการสอบสวนเพื่อนของ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ และเพื่อนของ จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา ให้ข้อมูลต่อชุดสืบสวนสอบสวนว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ประมาณหลังเที่ยงคืน ร.ต.อ.นพฤทธิ์ ซึ่งเป็นเพื่อนชายของ จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา พยายามโทรศัพท์เพื่อติดต่อ จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา แต่ปรากฏว่า จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา ไม่ยอมรับโทรศัพท์มือถือด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ
จนกระทั่งช่วงสายก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง ร.ต.อ.นพฤทธิ์ สามารถติดต่อ จ.ส.อ.(ญ.) เกสรา ได้และสอบถามทำนองว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำไมไม่รับโทรศัพท์ จ.ส.อ.(ญ.) เกสราตอบกลับไปว่า นอนหลับอยู่ในบ้าน จนกระทั่งช่วงเย็น มีนัดรับประทานอาหารในหมู่เพื่อน ซึ่งไม่มีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะเบาะแว้งใดๆ แต่บังเอิญเพื่อนคนหนึ่งพูดถึงเวลากลับบ้านเมื่อคืนนี้ แล้วคำตอบของ จ.ส.อ.(ญ.) เกศรา ทำให้ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ ไม่พอใจอย่างรุนแรง ด้วยความโกรธ จึงชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิง จ.ส.อ.(ญ.) เกศรา จนเสียชีวิตคาเก้าอี้
ด้านผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานของ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ บอกต่อ “คม ชัด ลึก“ ทำนองว่า ร.ต.อ.นพฤทธิ์ เวลาทำงานจะเป็นคนที่เงียบขรึม ค่อนข้างเก็บอารมณ์ เพราะบ่อยครั้งมักมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาแต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก และในช่วงวันพระ วันเข้าพรรษา ร.ต.อ.นพฤทธิ์จะไม่แตะต้องดื่มสุรา แต่ช่วงก่อนเข้าพรรษาก็ดื่มบางครั้ง ทั้งนี้ สมัยที่อยู่ สน.ธรรมศาลา ร.ต.อ.นพฤทธิ์ เคยดื่มหนักจนกระทั่งผู้บังคับบัญชาสั่งขัง และเคยถูกให้ออกจากราชการ เพราะถูกกล่าวหาในคดีพรากผู้เยาว์ ซึ่งการสอบสวนทางวินัยจบแล้ว เนื่องจากผู้เสียหายนั้นไม่ติดใจเอาความ และทราบว่า ร.ต.อ.นพฤทธิ์แต่งงานกับผู้เสียหายและมีบุตรด้วยกัน ส่วนคดีอาญาไม่แน่ใจว่าจบหรือไม่ หลังจากนั้น ร.ต.อ.นพฤทธิ์พยายามวิ่งเต้นกลับเข้ารับราชการ จนกระทั่งได้ย้ายมาอยู่ที่ฝ่ายอำนวยการ บก.น.7
พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามจับกุม ร.ต.อ.นพฤทธิ์ ตามหมายจับในข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ขณะนี้ยังไม่มีผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด หรือแม้กระทั่ง ร.ต.อ.นพฤทธิ์ ติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้เร่งรัดติดตามเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน