น้ำท่วมรพ.หาดใหญ่ย้ายคนไข้ขึ้นชั้น5 | คมชัดลึก

(2พ.ย.) นพ.สุรชัย ลำเลิศกิตติกุล รักษาการผอ.รพ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า น้ำเอ่อท่วมพื้นรพ.แล้ว ระดับเหนือหัวเข่า ขณะที่ถนนหน้ารพ.อยู่ที่ระดับหน้าอก ฝนหยุดตกมา 5 ชั่วโมงแล้ว แต่น้ำยังไหลมาเรื่อยๆและไหลแรง ระดับน้ำจะยังสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ทางรพ.ได้อพยพคนไข้ที่อยู่ชั้นล่าง จากชั้น 1 ไปชั้น 5 ทั้งหมดแล้ว คนไข้ในรพ.ทีทั้งหมด 559 คน ญาติ 662 คน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่และแพทย์อีก

 ด้านนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ ว่า หนักกว่าปีพ.ศ.2543 และอาจเรียกว่าหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ของอำเภอหาดใหญ่ก็ว่าได้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาช่วงสองวันที่ผ่านมามีปริมาณกว่า 500 มม. ขณะนี้ประชาชนหลายพื้นที่ และในอีกหลายจุดมีความต้องการความช่วยเหลือย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ล่าสุดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผ.อ.ศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย แจ้งตนว่าได้ส่งเรือท้องแบนมาทางเครื่องบินซี 130 มาให้แล้ว

 เมื่อถามว่า ประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขณะนี้ได้อพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วมแล้วหรือยัง นายไพร กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่บ้านตัวเองกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมย้ายออกจากบ้านของตนเอง เนื่องจากเป็นห่วงบ้าน ซึ่งเทศบาลเองได้แจ้งเตือนประชาชนมาตั้งแต่ห้าโมงเย็นวานนี้(1พ.ย.) เรื่องนี้เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ทุกคนที่มีความเป็นห่วงบ้านตนเอง แต่เมื่อถึงตอนนี้เราจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าฝนจะหยุดตกบ้างแล้วในบางพื้นที่ แต่ระดับน้ำก็ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปริมาณไหลหลากมาจากพื้นที่อื่น

 "สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่การค้าในตัวเมืองตอนนี้ถูกน้ำท่วมหมดแล้ว สำหรับน้ำประปา และไฟฟ้า ทั่วเมืองหาดใหญ่ในตอนนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตัดน้ำ และไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว สำหรับตัวเลขจากการประมาณการคาดว่าจะมีประชาชนที่ติดอยู่ที่บ้านพักของตนเองอาจจะมีตัวเลขสูงขถึง 1 แสนคน และคนที่รอการความช่วยเหลือเร่งด่วนอีกไม่น้อยกว่าหมื่นคนดังนั้นขณะนี้สิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากที่สุด คือ อาหารแห้ง และเรือ มากที่สุดจึงอยากจะเรียกร้องขอความช่วยเหลือส่วนนี้ก่อนเป็นอันดับแรก" นายไพร กล่าว     

 นายไพร กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลตอนนี้ยังสามารถที่จะให้บริหารได้ ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากจุดที่ตั้งโรงพยาบาลอยู่ในพื้นที่สูง และเป็นตึกสูง และมีความพร้อมทั้งบุคลากรเครื่องมาก

 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่า จากสภาพฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมาติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนทำให้พื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีมีน้ำท่วมขังรวมทั้งในเขตตัวเมืองสุราษฎร์ธานีโดยในพื้นที่ เขตเทศบาลนคร สุราษฎร์ ธานีถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขังเนื่องจากระบายไม่ทันประกอบกับที่ฝนตกหนักตลอด ทั้งคืน จึงทำให้น้ำท่วมสูงโดยที่โรงเรียนหลายแห่งประกาศปิดไม่มีกำหนด

 ขณะที่เรือโดยสารกลางคืนข้ามฟากไปเกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่าได้งดเดินเรือตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเนื่องจากท้องทะเลมีคลื่นลมแรง

 ส่วนตามอำเภอรอบนอกที่ถูกน้ำท่วมขังส่วนใหญ่น้ำท่วมถนนภายในหมู่บ้านเช่นกัน รวมทั้งบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ที่ราบลุ่ม ส่วนใหญ่ได้อพยพขนย้ายข้าวของตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไปอยู่ในที่ปลอดภัย

 นายพิสิษฐ์ บุญช่วง ผวจ.พัทลุง กล่าว่า มี 4-5 อำเภอของพัทลุง ซึ่งอยู่ใกล้กับ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบหนัก โดยพื้นที่พัทลุงฝนตกหนัก มีพายุลมแรงพัดหลังคาบ้านเรือนพังไปล้วหลายพันหลัง  มีการอพยพประชาชนมาพื้นที่ปลอดภัยและอาศัยอยู่ตามบ้านญาติ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือประกอบอาหารเลี้ยง ยืนยันว่าไม่มีประชาชนติดค้าง เพราะติดตามข่าวสารตลอด มีการเตรียมพร้อมรับมือและอพยพได้ทัน

 รายงานข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศทั่วไปบนท้องฟ้ายังมีเฆมฝนแพร่กระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาอย่างหนักถึงหนักมากเป็นช่วงๆเป็นเวลา 4 วันติดต่อกัน ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือแม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนราและแม่น้ำสายบุรี มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งและไหลทะลักท่วมบ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกสร้าง อยู่ตลอดแนวริมตลิ่งและพื้นที่ราบลุ่ม ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 9 อำเภอ จำนวนกว่า 1,000 ครัวเรือน

 อำเภอตากใบน้ำท่วมหนักสุดที่บ้านโฆษิต ม.4 ต.โฆษิต โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูง 50-60 ซ.ม.อำเภอรือเสาะ น้ำท่วมหนักสุดที่บ้านท่าเรือ ม.1 ต.รือเสาะ รองลงมาที่บ้านบาตง ม.3 ต.บาตง โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูง 60-70 ซ.ม.อำเภอบาเจาะ น้ำท่วมหนักสุดที่บ้านจำปากอ ม.1 บ้านกาเยาะมาตี ม.3 โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูง50-60 ซ.ม.อำเภอระแงะ น้ำท่วมขังหนักสุดที่หัวสะพานทางเข้าบ้านซีโปร์ ม.1 ต.ตันหยงมัส โยมีระดับน้ำท่วมหนักสุด 100-120 ซ.ม.

 อำเภอเมือง น้ำท่วมหนักสุดที่บ้านมะนังกาหยี ม.1 ต.มะนังตายอ อำเภอสุคิริน น้ำท่วมหนักสุดที่บ้านเกียร์ ม.1 ต.เกียร์ โดยมีระดับน้ำท่วมสูง 150- 200 เมตร อำเภอแว้ง น้ำท่วมหนักสุดภายในเขตเทศบาลตำบลแว้ง โดยมีระดับน้ำท่วมหนักสุด 40-50 ซ.ม. อำเภอสุไหงปาดี น้ำท่วมหนักสุดที่บ้านตาเซ๊ะเหนือ ม.5 ต.สุไหงปาดี โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูง 60-70 ซ.ม. อำเภอสุไหงโก-ลก น้ำท่วมหนักสุดที่บริเวณชุมชนหัวสะพาน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูง 100-150 ซ.ม.

 นอกจากนี้ภาวะฝนตกยังส่งผลกระทบพื้นที่การเกษตรของราษฎรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มกว่า 15,000 ไร่ ถูกภาวะน้ำท่วมขัง รวมไปถึงสิ่งสาธารณูปโภค อาทิ สะพาน คอสะพาน ท่อระบายน้ำ ถูกภาวะน้ำท่วมขังจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดเสียหายไป จำนวนกว่า 60 จุด ส่วนถนนสายหลักและสายรองภายในหมู่บ้านถูกภาวะน้ำท่วมขัง จำนวนกว่า 80-90 สาย ราษฎรต้องหันมาใช้เรือเป็นพาหนะเพื่อเดินทางสู่โลกภายนอก

 อย่างไรก็ตามภาวะฝนตกยังส่งผลทำให้โรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.นราธิวาสทั้ง 3 เขตกว่า10 โรง ต้องหยุดการเรียนการสอนช่วงเปิดเทอมที่ 2 แล้ว 2 วัน อาทิ โรงเรียนบ้านตาเซ๊ะเหนือ โรงเรียนบ้านคลองตัน โรงเรียนบ้านไม้ฝาด โรงเรียนนิคมพัฒนา 4 เป็นต้น

 นอกจากนี้ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาจากสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก รวมถึงคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงและมีคลื่นสูง 3- 4 เมตร จากภาวะลมมรสุมที่พาดพัดขึ้นที่ จ.นราธิวาส ส่งผลกระทบต่อเรือประมงที่กำลังเข้าเทียบท่าเรือประมงที่อำเภอเมือง นราธิวาส ต้องอัปปางลงจำนวน 1 ลำ ทำให้ลูกเรือประมง 2 คน ต้องลอยคออยู่กลางทะเลเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แต่โชคดีที่เรือตรวจการชายฝั่งของตำรวจน้ำ และเรือยางของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ได้ออกไปทำการช่วยเหลือลูกเรือประมงทั้ง 2 คนได้ปลอดภัย ก่อนที่จะส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบลาลนราธิวาสราชนครินทร์ และทราบชื่อนายวีและนายนันไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นลูกเรือประมงชาวพม่า