
สั่งร.ต.อ.ยิงกิ๊กทหารหญิงพ้นราชการ
ออกหมายจับรองสารวัตรธุรการบก.น.7ยิง"กิ๊กทหารหญิง"ดับคาร้านลาบ ต้นสังกัดมีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้ว"อำนวย"ลั่นไม่รอดคุกหลังก่อเหตุซ้ำซ้อน
(2พ.ย.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะกำกับดูแลกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ร.ต.ท.นพฤทธิ์ วิเศษฤทธิ์ รองสารวัตรธุรการ สังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.อ.หญิง เกสรา ใจสงัด เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองพลาธิการทหารยุทธบริการ เสียชีวิตในชุดเครื่องแบบในร้านลาบข้างทาง สามแยกเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมีความชัดเจนว่าเกิดจากปัญหาชู้สาวและความหึงหวงไม่มีเงื่อนงำอย่างอื่น เพราะบุคคลทั้งสองคบหากันอยู่ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุทั้งสองคนและเพื่อนได้ไปกินเที่ยวกันมาก่อนหน้าที่จะมานั่งร้านนี้เป็นร้านที่ 2 จนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันในร้านจากนั้น ร.ต.ท.นพฤทธิ์ ก็ชักปืนมายิงใส่ฝ่ายหญิงจนเสียชีวิตเพราะบันดาลโทสะ
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.เตาปูนได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลแล้วข้อหาฉกรรจ์คือ ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย จากนั้นจะแจกจ่ายหมายจับไปยังพื้นที่ต่างๆ ในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมลงโทษทางวินัยร้ายแรงคือให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดได้เซ็นต์คำสั่ง บก.น.7 ที่ 287/53 ลงวันที่ 2 พ.ย.ให้ออกราชการไว้ก่อนแล้ว และล่าสุดขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวสู้คดีแต่อย่างใด
"สำหรับผู้ต้องหารายนี้มีประวัติก่อคดีอาญามาก่อนข้อหาใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น และเคยถูกให้ออกจากราชการมาแล้ว แต่ยื่นอุทธรณ์กับ กตร.จึงกลับเข้ามารับราชการได้ใหม่ และมาก่อเหตุอีก ซึ่งครั้งนี้คงไม่รอดและไม่ได้กลับมารับราชการแน่ เพราะต้องหาคดีฆ่าคนตายต่อให้ไปร้องที่ไหนก็ไม่มีใครช่วย เพราะเป็นคดีฉกรรจ์ " พล.ต.ต.อำนวยกล่าวในที่สุด
ด้านพ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีดา พนักงานสอบสวน(สบ 3)สน.เตาปูน กล่าวกรณี ร.ต.อ.นพฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ สังกัด บก.น.7 ช่วยราชการ กก.สส.น.7 ใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.อ.เกสรา ใจสงัด สังกัดหน่วยยุทธการบริการ กรมพลาธิการทหาร เสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลออกหมายจับ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาแล้ว โดยผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่และไม่มีการติดต่อเข้ามอบตัวแต่อย่างไร ซึ่งฝ่ายสืบสวนยังเร่งออกติดตามจับกุมตัวเร่งด่วน ตลอดจนผู้บังคับบัญชา ได้กำชับให้เร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจและโหดเหี้ยม
ก่อนหน้านั้น เวลา 01.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.พิสิฐชัย สุนทรธนปรีดา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าร้านฟ้าเมืองทองโลหชัย ถนนประชาราษฏร์ 2 แขวงและเขตเตาปูน กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์,พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชูภู่ รอง ผบก.น.2 ,พ.ต.อ.จิระ วีระ ผกก.สน.เตาปูน เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายลาบน้ำตก พบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีแดง หน้าหงายไปด้านหลัง สวมเสื้อทหารสีขาว นุ่งกระโปรงทหาร มีบาดแผลถูกยิงอาวุธปืนขนาด 9 มม. เหนือคิ้วซ้าย มีเลือดไหลนองพื้น บนโต๊ะมีอาหารและเครื่องดื่มเต็มโต๊ะ ทราบชื่อจ.ส.อ.เกสรา ใจสงัด สังกัดหน่วยยุทธการบริการ กรมพลาธิการทหาร
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายพร้อมเพื่อนทหารและตำรวจรวม 8 คน ไปกินอาหารที่ร้าน"กัญจน์ไก่ย่าง"จากนั้นมาต่อที่ร้านลาบที่เกิดเหตุ จากนั้นประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นหนึ่งในกลุ่มผู้ตายคือ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ วิเศษศักดิ์ สังกัด บก.น.7 ช่วยราชการกก.สส.น.7 ซึ่งนั่งตรงข้ามผู้ตายได้ถามผู้ตายว่า เมื่อคืนทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไปไหนมา จากนั้นก็ชักอาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายทันที ขณะที่เพื่อนๆถามว่าทำไมทำอย่างนี้ แต่ ร.ต.อ.นพฤทธิ์ไม่ฟังก็ได้เดินข้ามถนนไปขับรถเก๋งสีดำหลบหนีไป
นายสาธิต อิ่มผักแว่น เจ้าของร้านลาบ กล่าวว่า กลุ่มผู้ตายมากัน 8 คน ชาย 5 คน หญิง 3 คน ย้ายมาจากร้านไก่ย่าง หลังกินกันได้ประมาณ 30 นาที ผู้หญิงในกลุ่มนั้นก็แซวผู้ตายว่าไปเที่ยวไหนมา ปรากฏว่าคนยิงก็ได้ต่อว่า ไปเที่ยวไหนมา ทำไมไม่รับโทรศัพท์ จากนั้นก็ชักปืนออกมายิงใส่ทันที
พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมากับร.ต.อ.นพฤทธิ์ อาจจะเกิดการหึงหวง แล้วใช้อาวุธปืนผู้ตาย ขณะนี้ได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาผู้ต้องสงสัยให้มามอบตัว