ฝันที่เป็นจริงของ"ฮาน่า ลีวิส" | คมชัดลึก

 จากความโดดเด่นทั้งในด้านรูปร่างหน้าตา และวิธีการตอบคำถามที่โดนใจคณะกรรมการ แถมงานนี้เธอยังพ่วงตำแหน่ง “มิส ไอโมบาย ป๊อปปูล่าร์ โหวต” ไปครองอีกหนึ่งตำแหน่งเป็นการตอกย้ำชัยชนะอีกด้วย ขณะที่ตำแหน่งรองอันดับ 1 ตกเป็นของ "พลอย" จุฑามาศ มันตะลสัมพะ ส่วนรองอันดับสอง ตกเป็นของ "โย" ปราณวรินทร์ ปามี "มิ้นท์" วันทนีย์ ฟักแก้ว และ "มายด์" กัญฐณา หล่อเจนจิรานนท์

 สำหรับการประกวดมิสทีนไทยแลนด์ปีนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไดมอนด์ อิน เดอะ สกาย” สวย สง่า มีบุคลิกภาพที่โดดเด่น และกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม เพื่อผลักดันให้กลายเป็นเพชรที่เจิดจรัสอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งในรอบตอบคำถามวัดกึ๋น ฮาน่าได้รับคำถามว่า "คุณได้รับประสบการณ์ใดบ้างจากการเข้าประกวดมิสทีนไทยแลนด์" หลังสิ้นสุดคำถามแม้จะเห็นได้ชัดถึงความตื่นเต้น แต่เธอก็ตั้งสติพร้อมคว้าไมค์มาตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานว่า "การเข้าร่วมประกวดครั้งนี้นอกจากจะได้ความมีระเบียบวินัยแล้ว ยังได้รู้จักเพื่อนๆ จากทุกภาค ทำให้ได้เรียนรู้ว่าแต่ละภาคเป็นอย่างไร แต่ละคนเป็นอย่าไร ซึ่งถือว่าได้ประสบการณ์จากตรงนี้เยอะมากๆ" และนี่เองเป็นจุดตัดสินที่ทำให้เธอคว้ามงกุฎไปครอง

 ฮาน่า ลีวิส หรือ น้องฮาน่า สาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 18 ปี เป็นลูกสาวคนกลางของ คุณพ่อแกรี่ และ คุณแม่ธาริณี เธอเป็นเจ้าของความสูง 168 เซนติเมตร ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ใน ปวช.ปี 3 วิบูลณ์บริหารธุรกิจ กรุงเทพฯ ด้วยความชอบทางด้านกราฟฟิกดีไซน์และการตกแต่ง ทำให้สาวฮาน่าเลือกเรียนสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ ด้วยเธอมีความใฝ่ฝันจะทำงานทางด้านการออกแบบโฆษณานั่นเอง นอกจากนี้สาวฮาน่ายังมีความฝันที่จะทำงานในวงการบันเทิง ด้วยเธอมีศิลปะการแสดงอย่างการรำไทย ที่มีความสวยสง่าและมีความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยอยู่ในสายเลือด โดยมี "เชียร์" ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ อดีตมิสทีน ไทยแลนด์ เป็นไอดอล ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอตัดสินใจเข้าร่วมการประกวดในปีนี้อีกด้วย

 หลังได้รับตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ 2010 สาวฮาน่า เผยว่า ตอนแรกที่เข้ามาร่วมประกวดไม่คาดหวังว่าจะได้รับรางวัล เพราะเพื่อนๆ ต่างก็สวยและมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่ผ่านมาก็ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพราะตั้งใจมาประกวดเวทีนี้ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ทางบ้านยังไม่อนุญาตเพราะเห็นว่ายังเด็กเกินไป แต่มาปีนี้วุฒิภาวะพร้อมมากขึ้นคุณพ่อคุณแม่จึงอนุญาตให้มาประกวดได้ พอได้รับตำแหน่งยิ่งทำให้ความฝันของเธอเป็นจริงขึ้นมาทันที

 "ชีวิตตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปมีคนรู้จักและเข้ามาทักฮาน่ามากขึ้น ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรใครเข้ามาทักก็ยิ้มและให้ความเป็นกันไม่หยิ่งอยู่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนไปคือเรื่องของเวลา ช่วงเวลาความเป็นส่วนตัวอาจจะน้อยลง รวมไปถึงเวลาเรียนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ได้แจ้งให้แก่ทางโรงเรียนทราบแล้ว ทางโรงเรียนก็ยินดีที่เราได้รับตำแหน่งแล้วถ้าเกิดต้องทำภารกิจของการเป็นมิสทีน ไทยแลนด์ จนไม่มีเวลาเข้าเรียน ทางโรงเรียนก็จะจัดคอร์สพิเศษไว้ให้" สาวลูกครึ่งกล่าว

 พร้อมกับกล่าวถึงไอดอลอย่าง "เชียร์" ฑิฆัมพร ว่า รู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกับเธอเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นตัวของตัวเอง และเป็นสาวห้าวส่งผลให้ประสบความสำเร็จทั้งจากเวทีแห่งนี้และในวงการบันเทิง

 "พี่เชียร์เป็นรุ่นพี่ที่มาจากเวทีแห่งนี้ ซึ่งตอนที่พี่เขาประกวดฮาน่าก็ดูอยู่แล้วรู้สึกว่าเราเหมือนเขาจัง เลยเหมือนเป็นแรงผลักดันให้เข้ามาประกวดเวทีแห่งนี้ มีหลายคนจะบอกว่าหน้าฮาน่าหวาน แต่ถ้าคนรู้จักจะรู้ว่าเป็นสาวห้าวๆ พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของการเดิน พี่เลี้ยงจะคอยเตือนอยู่เสมอว่าให้เดินดีๆ เพราะได้รับตำแหน่งแล้ว ก็มีเกร็งๆ บ้างคงต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักหน่อย ส่วนงานในวงการบันเทิงฮาน่าก็อยากทำ อยากเป็นนักแสดงจะให้เล่นบทไหนก็ได้เพราะรุ่นพี่หลายคนที่มาประกวดเวทีนี้ ก็ได้ทำงานในวงการบันเทิงกันเกือบหมด" มิสทีน ไทยแลนด์ คนล่าสุดแจง