ข่าว

อัพเกรดเอฟ16เทียบชั้นบล็อก52เวอร์ชั่นล่าสุด!

อัพเกรดเอฟ16เทียบชั้นบล็อก52เวอร์ชั่นล่าสุด!

25 ต.ค. 2553

อุบัติเหตุเครื่องบินขับไล่รุ่น "เอฟ 16 เอ" ตกกลางหุบเขาที่ จ.ตาก ส่งผลให้ ร.อ.ฐานิกร เหลืองรุ่งวารี นักบินประจำเครื่องเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา สร้างความโศกสลดไปทั้งประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนนักบิน และกองทัพอากาศที่ต้องสูญเสียนักบินชั้นยอดไป

 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่อย่างแท้จริง เพราะถือเป็นเครื่องเอฟ 16 ที่ประสบอุบัติเหตุตกจนทำให้นักบินเสียชีวิตครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี นับตั้งแต่มีเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้ประจำการอยู่ในกองทัพอากาศไทย !?

 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว มีสัญญาณว่าเครื่องบินเอฟ 16 สมควรต้องได้รับการปรับปรุงก็เริ่มปรากฏขึ้น เมื่อกระทรวงกลาโหมเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 เพื่อขอปรับปรุงขีดความสามารถของเอฟ 16

 โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงขีดความสามารถ (อัพเกรด) ของเครื่องบินเอฟ 16 ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 จำนวน 6 เครื่อง ในกรอบวงเงิน 6,900 ล้านบาท ผูกพันระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2556

 ที่น่าสนใจ คือเครื่องเอฟ 16 ฝูงแรกที่กองทัพอากาศขออัพเกรดก็คือเอฟ 16 ฝูง 403 สังกัดกองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นกองบินเดียวกับที่เพิ่งสูญเสีย ร.อ.ฐานิกร นั่นเอง !!

 ก่อนหน้านี้ พล.อ.ท.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ รองเสนาธิการทหารอากาศ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร อธิบายเหตุผลความจำเป็นในการอัพเกรดเอฟ 16 มาแล้ว

 รอง เสธ.ทอ.ระบุว่า โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณผูกพัน 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554-2556 เนื่องจากเครื่องบินเอฟ 16 ที่ประจำการอยู่ในปัจจุบันมีอายุการใช้งานประมาณ 15-20 ปี ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนไปพอสมควรแล้ว

 ส่วนการอัพเกรดเอฟ 16 ที่เคยทำมาแล้ว 2 ช่วง เป็นการปรับปรุงเฉพาะ "โครงสร้างเครื่องบิน" เท่านั้น แต่ไม่ได้อัพเกรดเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบเรดาร์ ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล ระบบการป้องกันตนเอง ฯลฯ ทำให้ขีดความสามารถด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก

 รอง เสธ.ทอ.ระบุอีกว่า กองทัพอากาศมีความต้องการอัพเกรด จำนวน 18 ลำ หรือ 3 ฝูงบิน แต่เนื่องจากมีวงเงินงบประมาณจำกัด จึงจะเริ่มดำเนินการ 6 ลำแรกก่อน ส่วนอีก 12 ลำที่เหลือจะทำการอัพเกรดในเฟสที่ 2 และ 3 ต่อไป โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลารวม 7 ปี

 นั่นคือคำชี้แจงของกองทัพอากาศต่อสาธารณะ แต่แท้จริงแล้ว เบื้องหลังการอัพเกรดเอฟ 16 กลับต้องใช้ลูกล่อลูกชนกันพักใหญ่กว่าที่สหรัฐอเมริกาจะยอมใจอ่อนอัพเกรดเอฟ 16 ให้ไทย

 ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงรายหนึ่ง ให้ข้อมูลลึกๆ กับ "คม ชัด ลึก" ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับสหรัฐแม้จะเป็นมิตรประเทศกับไทย

 "ต้องยอมรับว่า การที่เราซื้อกริพเพนทำให้เขาไม่พอใจมาก พอเราขออัพเกรดเอฟ 16 เขาเลยไม่อยากอัพให้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เราก็พูดกลับไปว่า ถ้าคุณไม่ยอมอัพเกรดให้เรา เราจะนำเงินที่เหลือไปซื้อกริพเพนอีกฝูงทำให้เขาตกใจมากจึงยอมให้เราหมด ประกอบกับนโยบายของเขาต่อภูมิภาคนี้เปลี่ยนไปด้วย เขาจึงกลับมาให้ความสำคัญกับเรามากขึ้น"

 ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่เราจะได้จากการอัพเกรดจะทำให้ศักยภาพของเอฟ 16 เอ/บี บล็อก 15 ของเราในปัจจุบัน เทียบเท่ากับเอฟ 16 ซี/ดี บล็อก 50 หรือ 52 เลยทีเดียว

 พูดง่ายๆ ก็คือ เทียบเท่ากับเครื่องบินเอฟ 16 เวอร์ชั่นล่าสุดที่กองทัพสหรัฐใช้ หรือเทียบเท่ากับ "กริพเพน" ที่กำลังจะได้จากสวีเดน โดยเฉพาะการติดตั้งระบบ "แทคติคอล ดาตาลิงก์" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัวเดียวกับกริพเพนนั่นเอง !!

 ระบบเทคโนโลยี หรือซอฟต์แวร์หลักๆ ที่เราจะได้จากการอัพเกรด คือ

 1.ระบบคอมพิวเตอร์ประมวลผลรุ่นล่าสุดของสหรัฐ คือ MMC (MODULAR MISSION COMPUTER)

 2.เรดาร์รุ่นใหม่ล่าสุด คือ APG 68(V) 9 หรือ "วีไนน์" เทียบชั้นกับเอฟ 16 บล็อก 52 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่กองทัพสหรัฐใช้ในปัจจุบัน

 3.ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (TACTICAL DATALINK) หรือ "ลิงก์ 16" ซึ่งปกติสหรัฐมักจะไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ ที่สำคัญคือ ระบบดังกล่าวสามารถนำไปเชื่อมโยงเข้ากับเครื่องบิน "กริพเพน" หรือกระทั่ง "เรือฟริเกต" ของกองทัพเรือได้

 4.หมวกบินติดจอภาพ หรือ JOINT HELMET MOUNTED CUEING SIGHT (JHMCS) ซึ่งเป็นหมวกที่ติดตั้งจอภาพประมวลผลไว้ที่หน้ากากของหมวกแทนจอเรดาร์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นทั้งข้อมูลการบิน และระบบอาวุธ เหมาะสำหรับการรบในระยะประชิด

 ที่สำคัญ คือมีราคาแพงมาก ส่วนรูปร่างหน้าตานั้น หากใครได้ดูหนัง "สตาร์วอร์ส" คงนึกภาพหมวกไฮเทคนี้ออก !!

 ผู้เชี่ยวชาญรายนี้ย้ำว่า แม้ขั้นตอนในปัจจุบันจะยังอยู่ในขั้นที่ฝ่ายไทยเสนอความต้องการไปให้สหรัฐ และทางนั้นยังไม่อนุมัติลงมา แต่ก็เชื่อว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เราจะได้หลักๆ คงไม่พ้นจากนี้แน่นอน

 เมื่อถามโยงไปถึงเหตุเครื่องบินเอฟ 16 ตกที่ จ.ตาก ซึ่งเผอิญเป็นเครื่องฝูงเดียวกับที่กำลังจะอัพเกรดด้วย เขาก็มองว่า ไม่เกี่ยวกับสภาพเครื่องแน่นอน เพราะถึงแม้จะมีอายุการใช้งานมานาน แต่ก็มีการซ่อมบำรุงตามระยะเวลามาตลอด

 "ผมมองว่า สาเหตุการตกน่าจะเกี่ยวกับสภาพอากาศมากกว่า ต่อให้บินมาเป็น 1,000 ชั่วโมง แต่ถ้าไปเจออากาศแบบนั้นก็คงไม่รอดเหมือนกัน ซึ่งกรณีนี้น่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะนักบินอายุยังน้อย แถมยังเป็นถึงหัวหน้านักเรียนด้วย"

 แม้จะไม่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ แต่ด้วยปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้ แม้ประวัติศาสตร์การบินจะไม่เคยมีการสูญเสียนักบินเอฟ 16 มาก่อน...แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้เลย


ทีมข่าวความมั่นคง