ข่าว

รถน้ำท่วมรู้ก่อนกู้ประหยัดเงินก้อน

รถน้ำท่วมรู้ก่อนกู้ประหยัดเงินก้อน

24 ต.ค. 2553

ผลกระทบจากสภาพน้ำท่วมขยายวงกว้างพอสมควร และมีทรัพย์สินเสียหายมากมายโดยเฉพาะรถยนต์ที่จมน้ำทั้งคัน ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าน้ำทะเลหรือน้ำจืดก็กระทบรุนแรงเหมือนกัน โดยเฉพาะระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถ อย่างไรก็ตามรถบางคัน ถ้าโชคดีแม้น้ำเข้าก

 ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์อบรมฮอนด้า ออโตโมบิล บอกกับ "คม ชัด ลึก" ว่า หลายคนเข้าใจว่ารถยนต์หากจอดอยู่แล้วมีน้ำมาท่วมทั้งคัน ไฟฟ้าจะลัดวงจรแล้วเสียหาย แต่ในความเป็นจริงไฟฟ้ายังไม่ลัดวงจรเพราะว่าไม่มีไฟลงกราวน์ แต่ความเสียหายจะเกิดขึ้นหลังจากที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องจมอยู่ในน้ำ และผลกระทบในเรื่องของระยะยาวโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงกล่องอีซียูซึ่งปัจจุบันใช้ระบบกล่องรวม ควบคุมทุกอย่าง

   ไม่ว่าแอร์ ไฟส่องสว่าง และเครื่องยนต์ ข้อห้ามอย่างแรกที่สำคัญคือห้ามติดเครื่องยนต์แม้ว่าจะยกรถมาไล่น้ำออกจากภายในรถหมดแล้วจนกว่าจะเช็กจนแน่ใจว่าไม่มีน้ำค้างในเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้เสียหายรุนแรง รถที่ถูกน้ำท่วมต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวและกรองต่างๆ ออกเพื่อที่จะให้แน่ใจว่าไม่มีฝุ่นหรือดินค้างอยู่ การซ่อมบำรุงรถน้ำท่วมแทบเรียกได้ว่าประกอบรถใหม่ทั้งคันซึ่งจะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญของยี่ห้อนั้นๆ จะเสียหายน้อยที่สุด

  ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอย่าง "นายประโยชน์" คอลัมนิสต์และนักจัดรายการวิทยุในเครือเนชั่น มีคำแนะนำเบื้องต้นเพื่อกู้รถน้ำท่วมด้วยตนเองว่าหลังน้ำลดจนอยู่ในภาวะปกติแล้ว ควรจะทำคือเปิดฝากระโปรงรถถอดแบตเตอรี่ ออกตากแห้งทำความสะอาดเพราะจะเป็นการตัดวงจรไฟฟ้าในรถทั้งคัน

   ถอดเบาะถอดพรมและส่วนประกอบอื่นใดที่ถูกแช่น้ำ เช่น แผงประตู ยางอะไหล่ ที่รองพื้นในห้องสัมภาระท้ายรถ ทำความสะอาดตากแดดทิ้งไว้

  ดูที่เครื่องยนต์โดยใช้หลักการที่ว่า น้ำหนักกว่าน้ำมันเมื่อเข้าไปอยู่ในเครื่อง
เหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องจะเป็นตัวบ่งบอกว่าน้ำเข้าไปมากน้อย ถ้าระดับน้ำมันเครื่องสูงกว่าปกติมาก มุดไปใต้ห้องเครื่องคลายเกลียวนอตถ่ายน้ำมันเครื่อง คลายเพียงหลวมๆ ถ้ามีน้ำ น้ำจะไหลออกมาก่อน ปล่อยให้น้ำไหลจนหมดน้ำมันเครื่องจะตามออกมานิดหน่อยแล้วจึงปิดนอตถ่ายน้ำมันเครื่องขันนอตให้แน่น

 ทำอย่างเดียวกันที่ห้องเกียร์และเฟืองท้าย ในเกียร์ธรรมดาและเฟืองท้าย (ไม่มีเหล็กวัดระดับ) ตรวจสอบว่าน้ำเข้าไปหรือไม่ก็จากนอตถ่ายน้ำมันคลายออกมาหลวมทำเช่นเดียวกับห้องเครื่อง รวมทั้งถังน้ำมันเชื้อเพลิงก็ทำแบบเดียวกัน

 เมื่อแน่ใจแล้วว่าน้ำไหลออกหมดแล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อนติดเครื่อง ตรวจดูกรองอากาศ ถอดออกมาทั้งยวง กรองอากาศเปียกเพราะน้ำเข้าทิ้งไว้ก่อน รุ่นที่ใช้เครื่องดีเซลมีอินเตอร์คูลถอดออกทั้งยวงเช่นเดียวกัน

 เอาน้ำออกจากตัวอินเตอร์คูลและท่อทั้งหมดจะด้วย ลมเป่า หรือคว่ำให้น้ำออกทิ้งไว้จนแน่ใจว่าหมดน้ำ
 
 เครื่องเบนซินต้องถอดหัวเทียนออกให้หมด แต่ก่อนถอดต้องแน่ใจว่าไม่มีน้ำขังอยู่ตามซอกตามมุมในชิ้นส่วนต่างๆ ใช้ลมเป่าไปที่เบ้าหัวเทียนไล่น้ำออกให้หมดแล้วจึงถอดหัวเทียน

 ตรวจดูแผงฟิวส์ตัวฟิวส์ กล่องรีเลย์ต่างๆ รวมทั้งกล่องอีซียู ถอดให้หมด ตากแดดทิ้งไว้ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียง่ายๆ ตรวจดูปลั๊กไฟทั้งหมด ลมเป่าทำความสะอาด

  หรือใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดทิ้งไว้

 กล่องอีซียู รีเลย์ หรือกล่องควบคุมอุปกรณ์ระบบต่างๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อรถจมน้ำ ไม่ได้เสียเพราะไฟช็อต แต่การที่น้ำเข้า ทำให้เปียกให้ชื้น ให้แกะฝากล่องออก (ต้องประณีตนิดหน่อย) ถ้ามีน้ำก็ใช้ลมเป่า ถ้าชื้นก็ตากแดดทิ้งไว้จนแห้ง

 ตรวจแบตเตอรี่ดูระดับน้ำกลั่นถ้าสูงจนล้นเพราะน้ำเข้าอย่าคว่ำหม้อเทน้ำกรดออกโดยเด็ดขาดเพราะทำอย่างนี้แบตจะเสียอย่างถาวร ถ้าระดับน้ำกลั่นสูงกว่าปกติมากจนปริ่มฝาปิดดูดออกจนระดับเท่าปกติ

 ถ้ามีมาตรวัดไฟฟ้าก็วัดว่าไฟมีหรือไม่ ถ้าไม่มีมาตรวัดตรวจเช็กแบบช่างบ้านนอกสายไฟเส้นใหญ่เท่าที่หาได้ยาวเท่ากับแบตเตอรี่เส้นหนึ่ง ปลายเส้นหนึ่งกดให้แน่นที่ขั้วบวก ปลายอีกเส้นขีดผ่าน(ลากผ่าน) เร็วที่ขั้วลบ ถ้ามีประกายไฟออกที่ปลายสายที่ขีดผ่านก็แสดงว่ามีไฟ

 โคมไฟหน้าเลนส์ ไฟท้าย เบาะนั่งพรมปูพื้นยังไม่ต้องรีบใส่แม้ส่วนอื่นจะแห้งดีแล้ว เปิดประตูทุกบานเข็นรถเข้าหาแสงแดดให้แผงหน้าปัดรับแดดให้เต็มที่ไล่ความชื้นตามแผงหน้าปัด

 อย่าเพิ่งห่วงเครื่องทำความบันเทิงเมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างแห้งสนิทดีแล้วใส่ทุกอย่างที่ถอดออกจากในห้องเครื่องเข้าที่ให้หมด ยกเว้นหัวเทียน (เครื่องดีเซลก็ทำเช่นเดียวกันเปลี่ยนจากหัวเทียนเป็นหัวฉีด)

 ยกแบตเตอรี่เข้าที่ก่อนใส่ขั้วแบตเตอรี่ เสียบกุญแจ บิดกุญแจไปจังหวะแรก (ที่เปิดตรวจมาตรวัดต่างๆ ก่อนสตาร์ท) เกย์ตัวไหนทำงานไม่ทำงานอย่าเพิ่งไปสนใจ เปิดสวิตช์คาไว้อย่างนั้นเดินมาที่หน้าห้องเครื่องมีควันมีความร้อนอะไรเกิดขึ้นจากการใช้ไฟจากแบตหรือไม่ เมื่อแน่ใจว่าไม่มี ทุกอย่างปกติดี บิดกุญแจปิด

  เดินมาที่ตรงเบ้าหัวเทียนมีสิ่งกีดขวางอะไรหรือไม่เพราะตอนนี้ยังไม่ใส่หัวเทียน เมื่อเรียบร้อยสตาร์ทเครื่องควรจะเป็นอีกคนหนึ่งที่บิดกุญแจ ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นคอยดูที่รูหัวเทียนเมื่อเครื่องหมุนถ้ามีน้ำจะถูกพ่นออกมาทางรูหัวเทียนสตาร์ทต่อไปจนแน่ใจว่าน้ำหมด ต่อไปก็ใส่หัวเทียนเข้าที่ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะบนบานศาลกล่าวก็ทำซะ แล้วสตาร์ทเครื่อง เทคนิคเบื้องต้นนี้อาจจะช่วยให้ท่านไม่ต้องเสียค่าซ่อมเรือนหมื่นจากภัยน้ำท่วมได้