ข่าว

100 ปีสวรรคต...

100 ปีสวรรคต...

23 ต.ค. 2553

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคตในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ดังนั้นในวันนี้ เดือนนี้ ปีนี้ จึงเป็นวาระครบรอบ 100 ปีแห่งการสวรรคต

 ในหนังสือประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เขียนโดยศาสตราจารย์ ดี.จี.อี. ฮอลล์ และมีอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ กับอาจารย์อานันท์ กาญจนพันธ์ เป็นบรรณาธิการแปลนั้น ได้กล่าวถึงสภาพการณ์ของเมืองไทยในขณะที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์เอาไว้ มีความดังนี้ว่า

 "ไม่มีประมวลกฎหมายที่แน่นอน ไม่มีระบบการศึกษาโดยทั่วไป ไม่มีการควบคุมรายได้และการคลังอย่างเหมาะสม ไม่มีบริการไปรษณีย์หรือโทรเลข ไม่มีองค์การแพทย์ดูแลสุขภาพของประชาชน ไม่มีกองทัพที่ทันสมัย ไม่มีกองทัพเรือเลย ไม่มีทางรถไฟและเกือบไม่มีถนนเลย..."

 ในหนังสือเล่มนี้กล่าวว่า เนื่องจากสมเด็จพระราชบิดาเสด็จสวรรคตในขณะที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระเยาว์อยู่ และอำนาจการปกครองก็ตกอยู่ที่ผู้สำเร็จราชการเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้ทรงถือโอกาสนี้เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาวิธีการปกครองในประเทศชวา และอินเดียจนได้

 “การท่องเที่ยวคราวนี้มีผลอย่างลึกซึ้งในพระทัยของพระองค์ พระองค์เสด็จกลับมายังเมืองไทยอย่างผู้ทรงมีความคิดก้าวหน้าและทันสมัยกว่าประชาชนของพระองค์เกือบทั้งหมด” ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ว่า

 และตั้งแต่นั้นมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงเริ่มปรับปรุงปฎิรูปประเทศเป็นการใหญ่ในทันที

 การปฏิรูปประเทศได้ยังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในงานของรัฐทุกด้าน ด้วยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเข้าพระทัยดีว่า ถ้าไทยประสงค์จะรักษาเอกราชไว้แล้ว ไทยจำต้องปรับปรุงบ้านเมืองให้เป็นระเบียบตามแบบอย่างของยุโรปขณะนั้น

 ในด้านการศึกษา เมื่อพระองค์ทรงเห็นว่า ชนชั้นสูงของบ้านเมืองในขณะนั้นยังโง่อยู่ ก็ได้ทรงบังคับให้บุคคลเหล่านี้ส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนตามแบบยุโรปที่พระองค์ทรงตั้งขึ้นในพระราชวัง ผลที่ตามมาก็คือทำให้พระองค์ได้บุคคลที่มีความสามารถมากมายมาช่วยกันปฏิรูปปรับปรุงการงานด้านต่างๆ ของประเทศ

 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการเลิกทาส เกือบจะในทันทีหลังจากที่ได้ทรงประกอบพิธีบรมราชาภิเษกแล้วในปีพ.ศ. 2417 พร้อมกับการปิดบ่อนการพนันทั่วประเทศ ด้วยทรงตระหนักว่า การพนันเป็นส่วนสำคัญในการทำให้คนเป็นทาส

 ในขณะที่พระองค์โปรดให้เลิกการเกณฑ์ไพร่ส่วยเข้าเป็นทหารตำรวจ ก็ทรงทำการปฏิรูประบบกองทัพและตำรวจตามมา ปรับปรุงกฎหมายการศาลโดยการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ มีโรงเรียนวิชากฎหมาย โรงเรียนแพทย์ โรงเรียนนายร้อยทหารบก และนายเรือ ฯลฯ

 ในปีพ.ศ. 2435 หลังจากที่รัฐบาลไทยรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางได้สำเร็จเพื่อการปฏิรูปการปกครองและระบบการจัดเก็บภาษีอากรทั้งในส่วนกลางและหัวเมืองแล้ว ก็มีทางรถไฟสายแรกเกิดขึ้นในประเทศ ตามมาด้วยสายอื่นๆ อีกทั่วประเทศทั้งใต้เหนือ

 "เมื่อคำนึงถึงพื้นฐานของลัทธินิยม ระบบประเพณีเก่าซึ่งฝังรากไว้อย่างลึกซึ้งแล้ว เราอาจจะประเมินความสำเร็จในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่" หนังสือเล่มนี้กล่าวสรุป