ข่าว

ดอกไม้แห่งดวงใจ แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์

ดอกไม้แห่งดวงใจ แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์

23 ต.ค. 2553

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 ขณะที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานเป็นครั้งแรก ชาวบ้านใน จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง ที่ทราบข่าวแห่กันมารอเฝ้าตั้งแต่เช้า ทุกคนหวังจะได้เห็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นคร

  เมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปถึงสามแยกชยางกูร-เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คุณยายตุ้ม จันทนิตย์ หญิงชราวัย 102 ปี จากบ้านธาตุน้อย ถือดอกบัวสายสีชมพูจำนวน 3 ดอก ที่เด็ดมาจากสระหลังบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเตรียมทูลเกล้าฯ ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่คุณยายรัก

 ดอกบัวสีชมพูที่อยู่ถึงช่วงบ่ายเหี่ยวโรยยับยู่ยี่ แต่หัวใจความจงรักภักดีของคุณยายตุ้ม กลับเบิกบานพองโต เมื่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปถึง และตรงเข้าไปที่หญิงชรา คุณยายตุ้มยกดอกบัวขึ้นเหนือศีรษะ แสดงความจงรักภักดีถวายในหลวงอย่างสุดซึ้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโน้มพระวรกายลงมา พระพักตร์เกือบชิดกับหน้าคุณยายตุ้ม แย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน พระหัตถ์แตะกับมือกร้านคล้ำของชาวนาอีสานอย่างนุ่มนวล ไม่มีใครรู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งคำใดกับคุณยายตุ้ม ที่เฝ้ารอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาชั่วชีวิต แต่แน่นอนว่า คุณยายตุ้มคงปลาบปลื้มใจที่ได้สัมผัสพระหัตถ์ในหลวงด้วยความอบอุ่น

 เมื่อเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ สำนักพระราชวังได้ส่งภาพรับเสด็จของคุณยายตุ้ม ผ่านทาง อ.ธาตุพนม มอบให้คุณยายตุ้มและครอบครัวเก็บไว้เป็นที่ระลึก ภาพนี้จึงได้ชื่อว่า ดอกไม้แห่งหัวใจ ที่ทำให้คุณยายตุ้มมีความสุข มีอายุยืนยาวต่อมาถึง 3 ปี

 ดอกไม้แห่งหัวใจ จึงเป็นสัญญาใจที่พระมหากษัตริย์ทุ่มเทพระวรกายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวอีสาน ด้วยโครงการในพระราชดำริ เพื่อพลิกฟื้นแผ่นดินอันแห้งแล้ง ให้เป็นดินแดนเกษตรกรรมที่ยิ่งใหญ่ ปลูกข้าวหอมมะลิ แคนตาลูป ยางพารา ส่งขายทั่วโลก สร้างชื่อเสียงและทำรายได้ให้พี่น้องชาวอีสานอยู่ดีกินดีมาจนถึงทุกวันนี้

ทรงพระเจริญ
 3-6 ธันวาคมนี้ อ.ไชยแสง พาชิมพาเที่ยว ชมโครงการพระราชดำริดอยตุง จ.เชียงราย นมัสการ พระธาตุ 9 จอม ศาลจี้กงใหญ่ที่สุดในโลก เมืองโบราณเวียงกาหลง วัดครูบาน้อยเกจิดัง ชิมอาหารพื้นเมือง โชว์วัฒนธรรมล้านนา ติดต่อโทร.0-2973-7732

ขาหมูแม่เหียน บ้านแพงนครพนม
 เมื่อแผ่นดินเวียดนามลุกเป็นไฟ ชาวเวียดนามพาครอบครัวหนีร้อนไปพึ่งเย็นบนผืนแผ่นดินไทย ได้รับพระเมตตาจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้อยู่กินอย่างมีความสุข ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามจึงรักเคารพในหลวงและพระราชินีมาก ขยันทำมาหากินและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ยินดีพลีกายเพื่อปกป้องทั้งสองพระองค์

 นางวิไล เบญญทิพย์ ฟังแม่เล่าถึงชีวิตที่ต้องลี้ภัยมาจากแผ่นดินเวียดนาม ได้น้ำพระราชหฤทัยจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้มีโอกาสตั้งต้นชีวิตที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม วิไลต้องช่วยแม่หาปลาในแม่น้ำโขง ปลาเนื้ออ่อน ปลาโจก ปลาแค่ ปลาคัง ปลาบึก จับเอามาขายในตลาดสดบ้านแพง เมื่อปลาในแม่น้ำโขงลดปริมาณลง วิไลจึงหันหาอาชีพใหม่ ไปเรียนการทำหมูยอจากอา แล้วไปกู้เงินมา 8 หมื่นบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรบดเนื้อหมู ฝึกทดลองทำหมูยอมาเกือบปี ต้องเอาหมูยอที่ไม่มีคุณภาพ ไปแอบทิ้งให้ปลาในแม่น้ำโขงกิน จนได้เคล็ดลับการทำหมูยอที่อร่อย จึงทำหมูยอห่อใบตองสดขาย

 จากหมูยอเนื้อล้วนๆ มาเป็นหมูยอใส่หูหมู เวลาเคี้ยวกินจะได้ความกรอบ ให้อร่อยแปลกกว่าหมูยอหนังเจ้าอื่น แล้วมาทำหมูยอแผ่นสำหรับใส่ก๋วยเตี๋ยวหมูยอขายในตลาดบ้านแพง และพาลูกสาวตระเวนขายตามตลาดนัดทั่วเมืองนครพนม จนลูกสาว ตรีทิพย์ เบญญทิพย์ โตเป็นสาว ช่วยงานแม่ได้คล่องขึ้น

 เมื่อวิไลไปกินเลี้ยงโต๊ะจีน ได้ชิมขาหมูยัดไส้ที่เสิร์ฟมาเป็นออเดิร์ฟจานแรก วิไลจึงคิดค้นทำ ขาหมูยัดไส้ หัดถลกหนังหมู เลาะกระดูกขาหมูออกให้หมด ใส่เห็ดหูหนูเห็ดหอมผสมเนื้อหมูสด ยัดกลับเข้าไปในหนังขาหมู ทำขาหมูยัดไส้ที่อร่อยกว่าเจ้าอื่น ปรากฏว่า ขาหมูยัดไส้กลายเป็นอาหารอร่อย จนเป็นสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาว

 ต่อมา วิไล กับ ตรีทิพย์ ช่วยกันทำ กุนเชียงหมู เพื่อขายคู่กับหมูยอ แล้วเอาไส้ใหญ่ที่เหลือมาทำ ไส้กรอกอีสาน พอถึงช่วงหน้าน้ำมีปลาจากแม่น้ำโขงเหลือมาก ทั้งสองแม่ลูกจะเอามาทำ ปลาส้ม เก็บไว้ พอถึงงานสำคัญๆ ทุกจังหวัด จะนำสินค้าทั้งหมดตระเวนขายไปทั่วภาคอีสาน

 วันนี้ แม่เหียน ได้รับเชิญจากทางการประเทศลาว ให้นำ หมูยอ ขาหมูยัดไส้ กุนเชียง ไส้กรอกอีสาน และปลาส้ม ไปขายไกลถึงกรุงเวียงจันทน์ เดือนธันวาคมนี้ แม่เหียนและลูกสาว จะนำสินค้าไปขายใน งานโอท็อปซิตี้ ที่เมืองทองธานี หรือจะสั่งซื้อไปกินก่อน ติดต่อ โทร.0-4259-1075 แม่เหียนยินดีส่งให้ทันที