
ชาวหนองคาย มีอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ
จ.หนองคาย เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนทั่วไป แต่ยังอาจมีคนที่ไม่รู้จักสถานที่จัดการแข่งขันแม่น้ำโขงไตรกีฬาและทวิกีฬา ชิงแชมป์นานาชาติ เมื่อวันที่ 27-29 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ ลานหน้าอนุสาวรีย์ปราบฮ่อ อ.เมือง จ.หนองคาย อยู่อีกเช่นกันว่า ชาวฮ่อและชาวหนองคายเกี่ย
อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในสงครามปราบจีนฮ่อที่ก่อการกบฏ ล้มล้างราชวงศ์แมนจู เมื่อปี 2046 ที่ยกกองทัพมารุกรานมณฑลลาวพวน หนองคาย ปี 2429 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ปี 2420 เมื่อครั้งพระปทุมเทวาภิบาล (เคน) เป็นเจ้าเมืองหนองคาย แต่ขณะนั้นได้มอบให้ท้าวจันทร์ศรีสุราชรักษาเมืองแทน พวกฮ่อได้ยกกองทัพเข้าตีเมืองเวียงจันทน์ของลาว ราษฎรจึงพากันอพยพหนีออกจากเมือง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ ทรงทราบข่าวศึกฮ่อยกกองทัพเข้าตีเมืองหนองคาย จึงมีรับสั่งให้พระยามหาอำมาตย์ที่ไปปราบฮ่อที่เมืองอุบลราชธานี ยกทัพเข้าเมืองหนองคายและสั่งให้จับท้าวจันทร์ศรีสุราช กับพระยาพิไสยสรเดชประหารชีวิต เมื่อพวกฮ่อพ่ายแพ้ พากันหนีเข้าป่าไป พระยามหาอำมาตย์จึงกวาดต้อนผู้คนจากเวียงจันทน์ลงมาที่เมืองหนองคาย แล้วยกทัพกลับกรุงเทพฯ
ปี 2427 พวกฮ่อรวบรวมกำลังกันขึ้นอีก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้มหาดไทยเมืองนครราชสีมายกกองทัพไปปราบพวกฮ่อจนแตกหนีไปตั้งมั่นอยู่ที่เมืองขวาง และทุ่งเชียงคำ ปีถัดมาจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชนุกูล และพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร ยกกองทัพขึ้นไปปราบพวกฮ่อที่ทุ่งเชียงคำ และให้กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมคุมกองทัพขึ้นไปสมทบยิงปืนใหญ่เข้าไปในค่ายของพวกฮ่อ จนแตกหนีไป โดยกรมหลวงประจักษ์ฯ สั่งให้จัดสร้างอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิของเหล่าทหารที่เสียชีวิตในการต่อสู้หลังจากสงครามสิ้นสุดลง
นอกจากเรื่องราวของชาวฮ่อแล้ว ชาวหนองคายยังได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งมีการถ่ายเทผู้คนจากหนองคายไปเมืองอื่น และชาวเวียงจันทน์มาตั้งรกรากที่หนองคาย เป็นเรื่องในอดีตที่ทำให้เห็นชาวไทย-ลาว ชาวอีสาน เป็นเครือญาติพี่น้องเกี่ยวข้องกัน โดยมีสถานการณ์บ้านเมืองเป็นส่วนผลักดันให้เกิดการเคลื่อนย้ายกลุ่มคนเกิดขึ้น!
"เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"