
ฉลามเซ็งนำ2-0 โดนพีอีเอไล่เจ๊า
"ฉลามชล" ชลบุรี สุดเซ็งนำก่อน 2 ลูกแต่สุดท้ายโดน บุรีรัมย์-พีอีเอ ตามตีเสมอ 2-2 ด้าน แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดรังพ่าย ทีโอที แคท 1-2 ร่วงไปดิวิชั่น 1 เป็นทีมที่สอง ส่วน ศรีสะเกษ เมืองไทย ยำใหญ่ ทีทีเอ็ม พิจิตร 4-0 ยังได้ลุ้นหนีตกชั้นกับราชนาวี-ระยอง ที่ตามตี
ศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ 29 หรือนัดรองสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม มีดวลกัน 7 คู่ บิ๊แมทช์อยู่ที่สนามสถาบันการพลศึกษาชลบุรี เพราะ “ฉลามชล” ชลบุรี ทีมอันดับ 2 มีคิวดวลกับ "ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์-พีอีเอ ทีมอันดับ 3 นัดนี้ได้รับความสนใจจากแฟนบอลเข้ามาชมเต็มความจุของสนามราว 1.2 หมื่นคน
เปิดเกมมาแค่ 5 นาที อาทิตย์ สุนทรพิธ เปิดลูกเตะมุมไปให้ พิภพ อ่อนโม้ โฉบเข้าโขกที่เสาแรกตุงตาข่ายเป็นประตูให้ชลบุรีออกนำรวดเร็ว 1-0 หลังจากนั้นทั้งสองทีมเปิดเกมสู้กันอย่างสนุก เกมเล่นมานาที 26 สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เตะเปิดเกมโด่งมาให้ เนย์ ฟาบิโน โขกต่อให้ พิภพ อ่อนโม้ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงบวกสกอร์ให้ชลบุรีนำห่าง 2-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมต้องเล่นกันท่ามกลางสายฝน นาที 55 ดักลาส การ์โดโซ หลุดเข้าไปยิงตีไข่แตกให้บุรีรัมย์-พีอีเอ ไล่มา 1-2 ถัดไปนาที 70 แผงหลังชลบุรีสกัดบอลผิดเหลี่ยมมาเข้าทาง โคเน เซย์ดู กระโดดลอยตัวยิงบอลพุ่งเสียบตาข่ายเป็นประตูตีเสมอ 2-2 ของทีมเยือน หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูเพิ่มได้อีก จบเกมเสมอกัน 2-2 แบ่งไปทีมละแต้ม ชลบุรีเตะไป 29 นัดมี 59 คะแนน ส่วนบุรีรัมย์เพิ่งเตะไป 28 นัดมี 57 คะแนน
ที่สนามศรีนครลำดวน “กูปรีอันตราย” ศรีสะเกษ เมืองไทย ทีมอันดับ 13 เปิดบ้านพบ “สิงห์เหนือ” ทีทีเอ็ม พิจิตร ทีมอันดับ 11 เกมนี้เจ้าถิ่นเหนือกว่ามาก จึงเอาชนะไปสบายๆ 4-0 จาก วิคเตอร์ อามาโร นาที 25, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น นาที 46, ไพโรจน์ อนันตณรงค์ นาที 60 และ ทัตพงษ์ หล้าธรรม นาที 81 ทำให้ “กูปรีอันตราย” มีเพิ่มเป็น 26 แต้มยังได้ลุ้นหนีตกชั้น
ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง “นิลมังกรนาวี” ราชนาวี-ระยอง ทีมอันดับ 13 ไล่ตีเสมอ “บีจี” บางกอกกล๊าส ทีมอันดับ 5 ไปแบบสุดมัน 3-3 โดยพีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ยิงให้ทีมเยือนนำนาที 3 แต่นาที 29 เจ้าบ้านตีเสมอ 1-1 ได้จากการสังหารจุดโทษของ วิลซัน เดอ ซานโตส ครึ่งหลังนาที 47 ไมเคิล เบิร์น ยิงจุดโทษให้บีจีนำ 2-1 ก่อนที่นาที 78 พอล เบคอมโบ เอคโคโล จะยิงให้ทีมเยือนนำห่าง 3-1 ทว่าท้ายเกม วิลซัน เดอ ซานโตส มาซัดอีก 2 ประตูจากจุดโทษในนาที 90 และอีกลูกนาที 94 ให้ราชนาวีไล่ตีเสมอเป็น 3-3 แบ่งไปทีมละ 1 แต้ม ราชนาวียังต้องไปหนีตกชั้นในเกมสุดท้ายต่อไป
ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต “สุภาพบุรุษโล่เงิน” อินทรีเพื่อนตำรวจ อันดับ 10 พบ “พลังเอ็ม” โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี อันดับ 8 เจ้าถิ่นพับสนามบุก แต่นาทีที่ 14 มาร์ซิโอ ดา ซิลวา เขกโล่งๆ ให้ พลังเอ็มพลิกนำ 1-0 แต่นาทีสุดท้ายครึ่งแรก ชาคริต บัวทอง มายิงตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนที่ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นยังบุกหนัก ทว่านาทีที่ 69 ชาง ซุง วอน พุ่งสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง เป็นประตูชัยให้ พลังเอ็มเฉือนชนะ 2-1 ขึ้นไปอยู่อันดับ 7 ขั่วคราว
ที่สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ “โลมาฟ้าขาว” พัทยา ยูไนเต็ด อันดับ 7 ที่ไม่ชนะมา 8 นัดรวด พบ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ปรากฏว่า อนุชา กิจพงษ์ศรี แบ็กซ้ายเจ้าบ้าน หนุนขึ้นมายิงประตูแรกให้ตัวเองและทีมขึ้นนำก่อนนาทีที่ 17 ก่อนที่ ลูโดวิค ทาคาม ยิงจุดโทษเป็นประตูที่ 16-17 ของฤดูกาลให้ หนีเป็น 3-0 ก่อนที่ ดักลาส โคโบ มาตีไข่แตกให้ทีมเยือนช่วงทดเวลา นาทีที่ 91 จบเกม โลมาฟ้าขาว ชนะ 3-1
ที่แพท สเตเดี้ยม “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย ทีมอันดับ 4 ไล่ถล่ม “กงจักรพิฆาต” ทหารบก ทีมบ๊วยที่ตกชั้นไปแล้ว 5-0 จากการยิงของ ใหญ่ นิลวงศ์ นาที 6, 83 ศรายุทธ ชัยคำดี นาที 15, 61 เอกชัย สำเร นาที 74 ส่วน ที่สนาม ม.กรุงเทพ รังสิต “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด พ่าย "วิหคเพลิง” ทีโอที แคท 1-2 ทำให้แบงค็อก ยูไนเต็ด ตกชั้นตามทหารบกเรียบร้อย
สำหรับลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี บางกอก แพ้ ชัยนาท 1-4 , สมุทรปราการ เสมอ ภูเก็ต 0-0 และเลย ซิตี้ แพ้ ระยอง 1-4