โคราชอ่วม'ปากช่อง-ปักธงชัย'หนักสุด | คมชัดลึก

ผลจากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ยังคงทำให้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่ จ.นครราชสีมา

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สามส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำตะคองเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมีน้ำป่าจากเขาไหลมาสมทบ ทำให้ 23 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะ 5 ชุมชนที่อยู่ติดกับลำน้ำลำตะคอง คือ ชุมชนประปา ชุมชนประชานุสรณ์ ชุมชนราชประชา ชุมชนโรงสูบ และชุมชนหนองสาหร่าย เข้าขั้นวิกฤติหนัก น้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร
 เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปากช่องนำเรือท้องแบน 15 ลำ ขนย้ายประชาชนและสิ่งของจำเป็นออกจากชุมชนไปพักอาศัยที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองปากช่อง ศาลาประชาคมอำเภอปากช่อง และบางส่วนอาศัยบ้านญาติพี่น้องในพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเกรงว่าน้ำจากเขาใหญ่จะไหลลงมาสมทบทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้ประชาชนได้รับอันตรายและการช่วยเหลือจะทำได้ยากลำบากมากขึ้น
 ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ที่ได้รับผลกระทบจากคลองส่งน้ำลำตะคอง ระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร โดยมีชุมชนที่ตั้งอยู่ริมคลองได้รับความเดือดร้อน 15 ชุมชน เฉพาะชุมชนมิตรภาพซอย 4 ตรงข้ามห้างโลตัส นครราชสีมา มีไม่ต่ำกว่า 1,000 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงที่สุดในรอบ 20 ปี 
 พื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา น้ำจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงไหลเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนชาวบ้านสูงกว่า 1 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากจนรถยนต์และเรือท้องแบนไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ ประชาชนที่อยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองปักกว่า 100 หลังคาเรือน ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดนครราชสีมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงหน่วยทหารจากกองทัพภาคที่ 2 ได้ระดมกำลังพลเร่งให้การช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ ทำให้อุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือในจังหวัดเริ่มขาดแคลนและไม่เพียงพอที่จะให้การช่วย

สาวโรงงานลุยน้ำหนีหลังติด10ชม.

 วันเดียวกัน พนักงานโรงงานนับร้อยชีวิตที่อยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมนวนคร อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ต้องตัดสินใจลุยน้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมโรงงานและถนนปากทางเข้าออก สูงกว่า 1.30 เมตร ออกมาหน้าโรงงาน หลังติดอยู่ในโรงงานนานกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากรถยนต์ขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปลำเลียงพนักงานออกมาจากโรงงานได้ ขณะที่เรือท้องแบนและอุปกรณ์ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ที่มีอยู่ทุกหน่วยงานของ จ.นครราชสีมา ก็ถูกระดมไปช่วยเหลือประชาชนในหลายอำเภอที่กำลังประสบกับปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก อาทิ อ.ปักธงชัย อ.สูงเนิน อ.โชคชัย อ.เมือง อ.ด่านขุนทด และอ.พิมาย
 ทั้งนี้น้ำที่ไหลบ่าลงมาท่วมเขตอุตสาหกรรมนวนครนั้น เป็นน้ำจาก อ.ปักธงชัย อ.สูงเนิน และอ.สีคิ้ว รวมถึงอุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ตั้งโครงการเป็นพื้นที่ลุ่ม อีกทั้งโดยรอบพื้นที่ก็ถูกน้ำท่วมขังเช่นเดียวกัน จึงทำให้การระบายน้ำทำได้ค่อนข้างลำบาก
 ขณะเดียวกัน การรถไฟแห่งประเทศไทยประกาศหยุดการเดินขบวนรถไฟที่ผ่านเส้นทางระหว่างสถานีรถไฟอำเภอสีคิ้ว ถึงสถานีรถไฟนครราชสีมา เป็นการชั่วคราว เนื่องจากรางรถไฟที่บริเวณสถานีรถไฟตำบลโคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปจนถึงสถานีรถไฟ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.30 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องจัดรถโดยสารปรับอากาศจำนวน 33 คัน เพื่อรับผู้โดยสารจากสถานีรถไฟทั้งสองสถานี ที่จะมีทั้งเที่ยวขึ้น และเที่ยวล่อง รวมจำนวนทั้งหมด 33 ขบวนต่อวัน
 ส่วนการเดินทางจาก จ.นครราชสีมา ไปยังกรุงเทพฯ ก็ยังมีอุปสรรคเนื่องจากถนนมิตรภาพ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ถูกกระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมตั้งแต่ อ.เมือง ไปจนถึงสุดเขตจังหวัดที่ ต.กลางดง อ.ปากช่องตลอดทั้งสาย 

เดือดร้อนแล้วกว่า 1 แสนคน

  วันเดียวกัน นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกนายอำเภอ และผู้บริหารหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัย เข้าประชุมที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า มี 13 อำเภอ 112 ตำบล 1,015 หมู่บ้าน ที่ประสบปัญหาอุทกภัย ประชากรได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 1 แสนคน โดยเฉพาะที่ อ.ปักธงชัย และ อ.เมือง ที่กำลังจะเผชิญกับสถานการณ์น้ำลำตะคองล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนภายในช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยชุมชนในเขตเทศบาลตำบลเมืองปักระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 1.50 เมตร น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 50 ปี

อ่างลำพระเพลิงวิกฤติสุด

 นายไพศาล พันผึ้ง ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ที่อยู่ในการบริหารจัดการของสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา ที่ต้องเฝ้าระวังและน่าเป็นห่วงว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำผืนป่ามรดกโลก ทับลาน-เขาใหญ่ ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จนเต็มความจุ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม มีปริมาณน้ำ 157.58 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำสูงกว่าจุดระบายน้ำล้น หรือสปิลล์เวย์ ประมาณ 4.50 เมตร ตามการออกแบบของการสร้างเขื่อน ที่จะต้องระบายน้ำออก คิดเป็นปริมาณน้ำ 47 ลูกบาศ์กเมตร ที่ต้องระบายออกจากส่วนเกิน เรียกได้ว่า น้ำมาเท่าไรก็ต้องเอาออกไปเท่านั้น จะส่งผลให้ลำน้ำธรรมชาติที่อยู่ใต้เขื่อนในเขต อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำมูล ซึ่งสูงขึ้นเรื่อย และจะวิกฤติที่สุดในรอบ 40 ปี หลังสร้างเขื่อน สำหรับอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 97.6% หรือ 307 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุเต็มที่ 314 ล้านลูกบาศก์เมตร

สนามกีฬา 2 พันล้านพังยับ

 นายบัญชา พิมพ์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกีรยติ 5 ธันวาคม 2550 มลูค่า 2,086 ล้านบาท ประสบปัญหาถูกน้ำฝนที่ตกสะสมในเขตรอบนอกไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำแพงด้านทิศตะวันตกพังเสียหาย แม้จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำรับสถานการณ์ แต่ด้วยปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาพร้อมๆ กันหลายทิศทาง จึงมีน้ำส่วนหนึ่งไหลเข้าท่วมสนามเทนนิส สนามฝึกซ้อมกีฬา และเส้นทางถนนภายในสนาม สูงกว่า 50 เซนติเมตร เป็นพื้นที่กว้าง ส่งผลให้พื้นยางสังเคราะห์ และถนนบางส่วนได้รับความเสียหาย ขณะนี้ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยขอสนับสนุนติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม หากน้ำลดลงสู่สภาพปกติจะเร่งสำรวจความเสียหาย ฟื้นฟูซ่อมแซมโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเปิดการใช้งานได้ตามปกติ จากการประเมินเบื้องต้นน่าจะต้องใช้งบประมาณนับล้านบาท 

น้ำท่วมรางรถไฟสายเหนืออัมพาต

 ที่ จ.นครสวรรค์ ฝนที่ตกหนักหลายวันทำให้น้ำไหลท่วมทางรถไฟ ระหว่างสถานีช่องแค-สถานีจันเสน น้ำท่วมเต็มรางสูงกว่า 1 เมตร จนขบวนรถไม่สามารถเดินทางได้ นอกจากนี้น้ำยังกัดเซาะหินที่ใช้หนุนรองหมอนรถไฟจนรางลอยไม่สามารถเดินทางขึ้นเหนือทุกขบวน การรถไฟฯ ประกาศปิดให้บริการชั่วคราว ขบวนรถไฟที่มาจากกรุงเทพฯ จะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีบ้านหมี่ จ.ลพบุรี ส่วนรถไฟที่มาจากทางภาคเหนือรับส่งผู้โดยสารได้แค่สถานีนครสวรรค์เท่านั้น เจ้าหน้าที่ต้องจัดหารถโดยสารเพื่อขนส่งผู้โดยสารที่ตกค้างเข้ากรุงเทพฯ ประมาณ 500 คน

ระดับแม่น้ำยมสูงกว่าจุดวิกฤติ20ซม.

 จ.พิจิตร ฝนยังตกต่อเนื่องทำให้ประชาชนใน 4 อำเภอ คือ สามง่าม บึงนาราง โพทะเล และโพธิ์ประทับช้าง ต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สถานีวัดน้ำ Y5 อ.โพทะเล สูง 7.15 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 20 เซนติเมตร ชลประทานพิจิตรประกาศแจ้งเตือนประชาชนทั้ง 12 อำเภอ ให้เฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจาก จ.พิจิตร เป็นพื้นที่รับน้ำจากจังหวัดรอบด้าน ทั้งจาก อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และ จ.กำแพงเพชร 

บ้านหมี่ลพบุรีชาวบ้านเผาศพกลางน้ำ

 ที่ จ.ลพบุรี น้ำฝนจากเทือกเขาต่างๆ ไหลเข้าท่วมถนนสายต่างๆ ใน อ.เมือง อ.บ้านหมี่ ถนนสาย 3205 บ้านหมี่-โคกสำโรง น้ำท่วมเป็นช่วงๆ สูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ส่วนถนนพหลโยธิน แขวงการทางลพบุรีเปิดให้รถเดินทางเดียว เพราะน้ำท่วมสูงถึง 50-60 เซนติเมตร
 หลายหมู่บ้านใน ต.ดงพลับ อ.บ้านหมี่ ถูกตัดขาด ต้องใช้เรือท้องแบน และรถไถนาขนาดใหญ่ขับลุยน้ำอพยพชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในหมู่บ้านและติดอยู่บนต้นไม้ออกมาได้ 2 คน หลังถูกกระแสน้ำพัดขณะกำลังเก็บของหนีน้ำ  ส่วนที่วัดดงพลับ ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50-60 เซนติเมตร มีพิธีเผาศพนายสาคร พรหมวาส อายุ 72 ปี ที่เสียชีวิตจากพลัดตกน้ำ และถูกกระแสน้ำพัดหายไป 2 วันจึงพบศพ โดยการเผาศพเป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากเมรุเผาศพถูกน้ำท่วม

ลพบุรีกระแสน้ำพัดวีโก้หาย1คัน

 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.เมือง พบว่ายังคงวิกฤติ แม้จะผ่านไปแล้ว 24 ชั่วโมง แต่น้ำในอ่างเก็บน้ำซับเหล็กที่ล้นออกมาในพื้นที่ ต.นิคมสร้างตนเอง ยังไม่มีทีท่าจะลดน้อยลง ตรงกันข้ามระดับน้ำกลับเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว อีกทั้งกระแสน้ำยังคงไหลแรงกว่าเดิมและเชี่ยวกราก เริ่มขยายวงกว้างเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ และชุมชนขนาดใหญ่ ในเขตเทศบาลตำบลท่าศาลา และเทศบาลเมืองเขาสามยอด ประชาชนหลายร้อยครอบครัวไม่เป็นอันหลับอันนอน เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่าอ่างเก็บน้ำแตก ทุกบ้านจึงต้องคอยเฝ้าระวังติดตามตรวจสอบระดับน้ำตลอดทั้งคืน
 ผู้ว่าฯ ลพบุรีกล่าวว่า ได้ประสานงานร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ เช่น หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดส่งกำลังทหารกว่า 200 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ถนนหลวงหมายเลข 2243 ลำสนธิ-ปากช่อง ถูกกระแสน้ำท่วมสูง พัดคอสะพานบ้านท่าใหญ่ของ อ.ลำสนธิขาด รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ กระแสน้ำยังพัดรถกระบะวีโก้สีบรอนซ์ทองหายไป ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้โดยสารในรถ ซึ่งชาวบ้านเห็นว่ามีผู้โดยสารหลายคน โดยนายฉัตรชัยได้ประสานกับหน่วยประดาน้ำกรุงเทพฯ เร่งค้นหาและช่วยชีวิตเป็นการด่วน
 ขณะเดียวกัน ฝนที่ตกหนักยังทำให้ต้นก้ามปูใหญ่ริมถนนสายบางงา-บ้านหมี่ บริเวณหน้าร้านรับซื้อของเก่านายอ้วน ในเขตเทศบาลท่าโขลง ล้มลงมาทับนายคงศักดิ์ จันทร อายุ 29 ปี เสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน กบจ 231 สิงห์บุรี กลับบ้านผ่านมาถึงตรงจุดเกิดเหตุ

ชาวสุพรรณหวั่นคันกั้นน้ำพัง

 ที่ จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้าน ต.ป่าสะแก ต.วังศรีราช ต.หัวนา และ ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช และอำเภอใกล้เคียง เช่น อ.หนองหญ้าไซ และ อ.สามชุก กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมหนักเป็นครั้งที่ 2 เมื่อฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำไหลบ่าทะลักทางคลองส่งน้ำที่เชื่อมต่อจากห้วยกระเสียวเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือน ระดับน้ำสูงถึงเมตรครึ่ง
 นายบุญส่ง ดวงจินดา นายก อบต.ป่าสะแก กล่าวว่า โครงการชลประทานห้วยกระเสียวระบุว่า ฝนที่ตกหนักเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ทำให้น้ำล้นทะลักออกไป จากเดิมที่ปล่อยน้ำ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ล่าสุดได้ปล่อยน้ำถึง 105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีต่อวินาทีแล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือคันกั้นน้ำตามจุดต่างๆ ไม่รู้ว่าจะเอาอยู่แค่ไหนเพราะน้ำมาแรงทุกขณะ หากคันกั้นน้ำพังจะเดือดร้อนหนักกว่านี้

พระอรัญฯลุยน้ำบิณฑบาต

 ที่ตลาดเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเกิดภาวะน้ำท่วมขังมา 2 วันแล้ว จนในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศและตามถนนสายต่างๆ กลายเป็นทะเล ถนนบางสายรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 13 ปี ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,000 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน พระสงฆ์ต้องเดินลุยน้ำออกมารับบิณฑบาต ส่วนตลาดโรงเกลือ น้ำที่ท่วมสูงมากว่า 1 วัน เริ่มลดลงและใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ
 สถานการณ์ที่ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา น้ำท่วมหนักเช่นกัน ทำให้กัมพูชาสั่งห้ามรถบรรทุกสินค้าจากไทยเข้าไปส่งสินค้าในฝั่งปอยเปตชั่วคราว โดยอ้างว่าในฝั่งกัมพูชามีน้ำท่วมสูง โกดังเก็บสินค้าในฝั่งปอยเปตไม่มีที่เก็บสินค้า
 เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ กล่าวว่า กัมพูชาสั่งห้ามรถบรรทุกสินค้าจากไทยเข้าไปส่งในโกดังสินค้า ฝั่งปอยเปตเป็นวันที่สอง ซึ่งจะมีรถบรรทุกสินค้านำสินค้าส่งออกไปกัมพูชา ผ่านด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว วันละประมาณ กว่า 150 คัน คาดว่าความเสียหายจากการส่งออกสินค้าไม่ได้ประมาณวันละ 50 ล้านบาท

เตือนฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน

 วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัย เรื่อง "ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน" ฉบับที่ 24 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก จะเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
 ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 18-20 ตุลาคม 2553 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

"นายกฯ"เตือนปชช.ตามข่าวพยากรณ์

  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ถึงการตรวจปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ว่า หลายพื้นที่มีปัญหาเรื่องอุทกภัย อีกทั้งในเวลานี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม และน้ำหลากจากปริมาณน้ำป่า จึงอยากให้ประชาชนติดตามข่าวการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรับฟังการแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่
 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัด เช่น หลายอำเภอใน จ.นครราชสีมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ส่วนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนให้ตรวจสอบเส้นทางต่างๆ ในการเดินทาง เนื่องจากมีถนนบางสายได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ดังนั้นจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางรัฐบาล รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

สธ.จัดแพทย์เคลื่อนที่ช่วยปชช.

    นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีน้ำท่วมเส้นทาง อ.สีคิ้ว และอ.สูงเนิน ส่งผลให้การส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการหนักจาก รพ.ปากช่องนานา ไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมือง เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เส้นทางอ้อม ใช้เวลาส่งผู้ป่วยนานกว่าเดิม 2 เท่าตัว ปกติใช้เวลาไปกลับ 3 ชั่วโมง แต่เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) ส่งผู้ป่วย 2 ราย ใช้เวลาเดินทางไป-กลับรายละ 6 ชั่วโมง จึงปรับแผนให้ส่งไปรักษาที่ รพ.สระบุรีแทน ซึ่งเดินทางสะดวก ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
 โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า โกระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้การดูแลสุขภาพประชาชน รวมทั้งแจกยาสามัญประจำบ้านให้ฟรีอย่างเต็มที่ พร้อมให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉินพร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง หากประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรแจ้งที่หมายเลข 1669 ฟรี

บขส.ยันเดินรถตามปกติ

  นายพรสุทธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงานประจำ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ ขณะนี้ส่งผลให้รถไฟไม่สามารถวิ่งในเส้นทางสายอีสานได้ตามปกติ ซึ่งการรถไฟฯ จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะให้บริการเดินรถได้เมื่อไร ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ฝ่ายการเดินรถและฝ่ายช่างกลของการรถไฟฯ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิดแล้ว ล่าสุดพบว่ามีจุดที่น้ำท่วมสูงเพิ่มอีก 2 จุด ส่งผลให้น้ำท่วมรางรถไฟรวมทั้งสิ้น 5 จุด คือ 1.ระหว่างปางอโศก-บันไดม้า ในพื้นที่ อ.ปากช่อง 2.โคกกรวด-สถานีสูงเนิน พื้นที่ อ.สูงเนิน 3.ช่วงคลองไผ่ อ.สีคิ้ว ในส่วนที่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าได้พบพื้นที่น้ำท่วมสูงอีก 2 จุด คือ สถานีชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำท่วมสูงถึง 50 เซนติเมตร และพื้นที่ อ.โคกคีล์ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

 ส่วนการให้บริการเดินรถของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) นั้น แม้ถนนสาย 201 ช่วง อ.สีคิ้ว จ.ชัยภูมิ กิโลเมตรที่ 13-16 บ้านห้วย อ.สีคิ้ว และ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มีน้ำท่วมระดับความสูงประมาณ 1 เมตร รถใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ ทำให้รถ บขส.ต้องใช้เส้นทางเดินรถเลี่ยงเข้า อ.เทพสถิต และออกทาง อ.จัตุรัส และเข้าใช้เส้นทางสระบุรี ถนนสาย 201 เพื่อเข้ากรุงเทพฯ ทำให้การเดินรถเกิดความล่าช้าบ้าง แต่ บขส.ไม่งดการเดินรถ ยังคงเดินรถปกติทั่วประเทศ

จีน-ฟิลิปปินส์พร้อมรับ"เมกี"

 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันเดียวกันว่าจีนและฟิลิปปินส์ ได้เตรียมพร้อมเต็มอัตรารับมือกับพายุไต้ฝุ่น "เมกี" ซึ่งแปลว่า "ปลาดุก" ในภาษาเกาหลี โดยพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ได้ทวีกำลังแรงกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น มีความแรงลมใกล้ศูนย์กลางพายุ 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีความเร็วลมสูงสุดถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งทางเหนือของฟิลิปปินส์ในเช้าวันจันทร์ ก่อนเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกมุ่งสู่ทะเลจีนใต้ในวันเดียวกัน 
 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนได้ออกประกาศเมื่อวันอาทิตย์ เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นเมกีในระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดอันดับสอง ทั้งคาดว่าจะเป็นพายุกำลังแรงสุดที่พัดถล่มจีนในปีนี้ แถลงการณ์ยังเตือนชาวเรือให้กลับเข้าฝั่ง และขอให้ทางการท้องถิ่นเตรียมพร้อมอพยพประชาชน อิทธิพลของพายุลูกนี้จะทำให้คลื่นลมในทะเลจีนใต้มีกำลังแรงและมีคลื่นสูงในระยะ 3 วันข้างหน้า 

ฟิลิปปินส์อพยพคนในพื้นที่เสี่ยงภัย

  กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นเมกี ใน 19 จังหวัดทางภาคเหนือ และขอให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ลาดต่ำและเชิงเขา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ ที่คาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งในจังหวัดคากายัน ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ ในเช้าวันจันทร์
 อิทธิพลของพายุจะทำให้เกิดลมกระโชกแรงขนาดพัดบ้านเรือนที่สร้างด้วยวัสดุไม่แข็งแรงปลิวหาย ต้นไม้ถอนราก ดินถล่ม และคลื่นสูงซัดชายฝั่ง
 ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดคายากัน กล่าวว่า ได้เริ่มอพยพประชาชนจากพื้นที่ล่อแหลมแล้ว หากประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรวมถึงผู้อาศัยตามแนวชายฝั่ง ไม่ฟังคำเตือนให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทางการจะออกเป็นคำสั่งบังคับ
 ที่กรุงมะนิลา ประธานาธิบดีเบนีโญ อาควีโนของฟิลิปปินส์ มีคำสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมสูงสุด ส่วนหน่วยยามฝั่งได้ประกาศห้ามเรือประมงทุกลำออกทะเลทางตอนเหนือ ด้านคณะกรรมการบริหารจัดการและบรรเทาความเสี่ยงจากภัยพิบัติธรรมชาติ ได้เตรียมพร้อมอุปกรณ์กู้ภัย รวมถึงเรือยาง ตลอดจนเวชภัณฑ์และอาหารไว้พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะถูกพายุลูกนี้พัดถล่มไว้แล้วเช่นกัน