“พท.”ถาม“มาร์ค”ยึดกฎเหล็ก9ข้ออยู่หรือไม่ | คมชัดลึก

(14ต.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง การบริหารราชการแผ่นดินที่ไร้ระบบธรรมาภิบาล ว่าขณะนี้มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลชุดนี้ทุจริตหลายเรื่อง แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย อาจเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังออกกฎเหล็ก 9 ข้อ และก่อนที่ ครม.จะรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พารัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าทำงานว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต อาทิ การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ

 ซึ่งป.ป.ช. ได้ชี้มูลเบื้องต้นว่าข้าราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของนักการเมือง โครงการการเช่าซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อจัดทำระบบงานทะเบียน ที่ดีเอสไอ. ระบุว่ามีมูลทุจริตจริง ส่วนโครงการบัตรสมาร์ทการ์ด ประชาชนกว่า 1 ล้านคนต้องเดือดร้อนในการใช้บัตรเหลือง อยากถามนายกรัฐมนตรีว่าถ้าใช้วิจารณญาณอย่างวิญญูชนท่านเชื่อหรือไม่ว่า โครงการเหล่านี้มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง เพราะหลายคนเป็นห่วงว่าจะเอาผิดได้แต่ข้าราชการประจำ สุดท้ายนักการเมืองก็ลอยตัวตามเคย ทำไมนายกรัฐมนตรีไม่ใช้กฎเหล็ก 9 ข้อ ตามที่ได้ประกาศไว้ เพราะมีเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลกลัวจะพังมากกว่ากลัวประเทศเสียหายใช่หรือไม่ และท่านจะทำให้การถวายสัตย์ปฏิญาณที่ว่าจะยึดความซื่อสัตย์สุจริต ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ไม่ใช่ทำเแค่รูปแบบเท่านั้น

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ที่มีคนพูดถึงกฎเหล็กนั้น ตนยังคงปฏิบัติสม่ำเสมอไม่มีเคยมีแนวคิดที่จะเอาเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นตัวตั้ง แต่ตนจะต้องเอาความถูกต้องเป็นตัวตั้งทั้ง 3 โครงการที่ระบุมา กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของฝ่ายต่างๆ ไม่ได้มีการเพิกเฉยทั้งสิ้น แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ได้ข้อยุติ หากได้ข้อยุติเมื่อไหร่ ตนก็ต้องดำเนินการไม่มีปัญหาอะไรเลย หากมีการรายงานมาอย่างเป็นทางการจะไปทำเป็นอย่างอื่นไม่ได้

 นายชวลิต ถามต่อว่า เท่าที่ได้ฟังนายกรัฐมนตรีตอบ ดูท่านจะทำตามขั้นตอนกฎหมายมากกว่ายึดหลักจริยธรรมทางการเมือง ไม่เหมือนตอนที่ท่านได้อภิปรายไว้ในสภาฯ ว่าความรับผิดชอบทางการเมืองย่อมมาก่อนกฎหมาย ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ท่านเปลี่ยนแปลงไป คำพูดนั้นสำคัญพูดออกไปแล้ว คำพูดเป็นนายเรา ถึงแม้ ป.ป.ช.ยังจะไม่สรุปผลสอบ แต่เมื่อมีการชี้มูลความผิดชัดเจนอย่างนี้ ถ้าผู้ที่มีสำนึกทางการเมืองจริง ต้องคิดได้แล้ว ขนาด พระมหาวุฒิชัย หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี ยังออกปากว่า คนทั้งประเทศยังรู้ว่าใครทุจริต แต่ไม่สามารถจัดการได้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงนี้ นายชัยประธานในที่ประชุมได้กล่าวทักท้วงว่า ควรตั้งคำถามได้แล้วเพราะใกล้หมดเวลา ไม่ใช่นำคำสัมภาษณ์มาอ่านแบบนี้

 นายชวลิต ได้ถามต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยเรียกประชุมผู้ว่าฯทั่วประเทศ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรางน้ำ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าที่แห่งนั้นเป็นรังของใคร พอ รมว.มหาดไทยกล่าวเปิดงานเสร็จได้สั่งให้นักข่าวออกนอกห้อง จากนั้นก็มี “ผู้มีอำนาจเหมือนรมว.มหาดไทย” มาให้นโยบายต่อในเรื่องของสถาบัน

 นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมช่วงนี้ถึงมีแต่ข่าวการทุจริตสารพัดเรื่องโยนมาที่พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะการที่ ป.ป.ช.ออกมาสรุปผลการจ้างก่อสร้างและจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์บริษัท ห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร จำกัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (เซ็นทรัลแล็บ) ที่เกี่ยวข้องกับแกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทยก็ออกมาในช่วงนี้ ถือว่าเหมาะเจาะจะมีการไปสั่งการองค์กรใดหรือไม่ ตนมองว่าเป็นเกมของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจะบีบอะไรหรือไม่ อยากรู้ว่าจะเป็นการเอาจริงเอาจังหรือสุดท้ายก็ถูลู่ถูกังกันต่อไป

 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คำพูดในเรื่องความรับผิดชอบทางการเมือง ย่อมสูงกว่ากฎหมายนั้น ตนยังยึดหลักการนี้เหมือนเดิม แต่ท่านสับสนไปเอง แต่เราต้องดูข้อเท็จจริงในแต่ละเรื่องและต้องแสวงหาข้อเท็จจริง ถ้าจะให้ใช้ดุลยพินิจมาตัดสินคงไม่เหมาะสม ที่ตนจะออกมาพูดในตอนนี้

 “ผมจะไม่รอให้มีผลทางกฎหมายเพียงแต่รอความชัดเจนเท่านั้น ก่อนที่จะใช้ดุลยพินิจตัดสินอะไร ที่บอกว่าผมปล่อยปละละเลยใครหรือไม่นั้น ผมอยากบอกว่าดูหนังยังไม่จบอย่างเพิ่งตัดสิน ความเชื่อของผมว่ามีการทุจริตจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าข้อเท็จจริง ผมต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพราะไม่เหมาะที่จะมาบอกว่า ความเชื่อของผมเป็นอย่างไร และยืนยันว่าไม่มีขบวนการอะไรทั้งสิ้น รัฐบาลไม่สวามารถไปสั่งการองค์กร อย่าง ป.ป.ช. ได้เพราะเขาเป็นอิสระ เรื่องนี้ไม่มีเกมการเมือง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน รมช.มหาดไทย กล่าวยืนยันว่า ข้อกล่าวหาต่างๆอาทิ การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ขณะนี้ข้าราชการ 145 คนได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจาก ป.ป.ช.แล้ว ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าผลการสอบสวนเป็นอย่างไร ต้องปล่อยเป็นเรื่องของหน่วยงานตรวจสอบ ดำเนินการไป ส่วนเรื่องการเช่าซื้อคอมฯ ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา 1 ชุด มีรองปลัดเป็นประธาน และมีคนนอกมาร่วมสอบสวน โดยจะทำให้เสร็จภายใน 30 วัน อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการอย่างที่พวกท่านปรารถนา ส่วนเรื่องบัตรสมาร์ทการ์ด ในวันที่ 11 ต.ค.ก็ได้ข้อสรุปและส่งไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารไปจัดทำ โดยยืนยันว่าไม่เกิน 60 วัน จะสามารถทำบัตรสมาร์ทการ์ดให้กับประชาชนได้