ข่าว

ภาพวงจรปิดชัด"สมัย"อยู่ในห้องระหว่างเกิดเหตุ

ภาพวงจรปิดชัด"สมัย"อยู่ในห้องระหว่างเกิดเหตุ

06 ต.ค. 2553

พบแล้วศพที่ 4 เหยื่อบึ้มสมานเมตตาแมนชั่นย่านบางบัวทองใต้ซากปูนจำสภาพเดิมไม่ได้ ขณะที่ผบ.ตร.ยัน ระเบิดบางบัวทองโยงป่วนระเบิดอีก 4 จุด ชี้ "สมัย" เคยถูกดำเนินคดีปาระเบิดที่เชียงใหม่เมื่อปี 2552 เคยร่วมชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์

(6ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าเหตุระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ล่าสุดพบศพผู้เสียชีวิต รายที่ 4 แล้ว เจ้าหน้าที่กำลังตัดแผ่นปูนที่ทับร่างอยู่ คาดว่าใช้เวลา 1-2 ชม.จะนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ ทางสถาปนิกได้มาตรวจสอบพื้นที่ ก่อนสรุปว่าขณะเกิดเหตุตึกได้ทรุดลงมา 5 เซนติเมตร จึงยังสามารถเข้าไปทำงานและอีก2ชั่วโมงจะอนุญาตให้ผู้เช่าห้องอื่นๆ เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินได้ แต่ถ้าทรุด10 เซนติ เมตรจะต้องทุบทันที ซึ่งขณะนี้ผู้เช่าทุกคนรวมถึงทาวเฮาส์ที่ได้รับความเสียหายที่ตึกติดกัน ได้ย้ายออกหมดแล้ว โดยมีกาชาดจังหวัดนนทบุรี ตั้งเต้นท์ให้การช่วยเหลืออยู่

พบศพเพิ่มเติมใต้ซากปูนจำสภาพเดิมไม่ได้

  พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรานนท์ ผบก.จว.นนทบุรี กล่าวว่า  จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชิ้นเนื้อที่เป็นส่วนท่อนแขนซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของนายสมัย วงศ์วรรณ อายุ 48 ปีเจ้าของห้อง แต่จะต้องรอการตรวจพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง ส่วนภาพวงจรปิดที่พบนั้นได้นำไปให้ชาวบ้านดู พบว่าเป็นผู้หญิงที่เคยมาหานายสมัย สำหรับนายสมัยมีหมายจับตามพรก.ฉุกเฉิน และมีหมายจับคดีระเบิด จ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตามในห้องดังกล่าว คาดว่าจุดที่นำระเบิดมาประกอบกัน แต่จะต้องรอตรวจสอบจากกองพิจสูจน์หลักฐาน ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียด

 ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำซากปูน ปรักหักพัง ที่ถล่มลงมาชั้นล่างบริเวณข้างๆ บันไดทางขึ้น หลังจากที่นำปูนออกมาพบสภาพศพดำเป็นตอตะโก ไม่สามารถจำสภาพเดิมได้ ศีรษะขาด แขนขาขาด ตัวงอหงิก ซึ่งเจ้าหน้าที่พบศพดังกล่าวตั้งแต่ตอนเที่ยง แต่ไม่สามารถนำศพออกมาได้ อย่างไรก็ตามสำหรับศพดังกล่าวคาดว่าจะเป็นศพของนายสมัย ที่เดินทางมาเข้าพักในห้องพักตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. ห้องหมายเลข 202 ซึ่งเป็นห้องพักที่พบว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้น

ภาพวงจรปิดระบุชัด"สมัย"อยู่ในห้องระหว่างเกิดเหตุ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภาพวงจรปิดที่ตรวจพบก่อนเกิดเหตุระเบิดที่จ.นนทบุรี ระบุชัดเจนว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 ต.ค.นายสมัย ผู้ตายได้เดินทางมากับผู้ชาย 1 คน โดยภาพจากกล้องระบุเป็นรถกระบะ วีโก้ สีบรอนซ์ ไม่สามารถมองเห็นหมายเลขทะเบียนได้อย่างชัดเจน มองเห็นแต่ จ.นราธิวาส  และได้ขับรถคันดังกล่าวออกไปเมื่อเวลา 12.40 น.วันเดียวกัน  อย่างไรก็ตามสำหรับภาพผู้ชายคนดังกล่าวที่มาพร้อมกับนายสมัยนั้น มีพยานระบุว่า เคยเดินทางมากับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา

 รายงานข่าวระบุว่า ตั้งแต่เวลา 12.40 น. เป็นต้นมานายสมัยได้อยู่ภายในห้องพักตามลำพัง ตลอดเวลาไม่ได้ออกจากห้องแต่อย่างใด สำหรับซิมโทรศัพท์ที่พบนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าซิมดังกล่าวเป็นของใคร เบื้องต้นจากการสอบถามแฟนของนายสมัย ผู้ตายที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พบว่าไม่ได้รับการติดต่อนานถึง 3 เดือนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่าซิมดังกล่าวมีการโทรศัพท์ออกไปหาใครบ้าง

 เมื่อเวลา 14.30 น.นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากเดินทางไปเยี่ยมคนเจ็บที่รพ.พระนั่งเกล้า 2 ราย จากนั้นได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้เยี่ยม น.ส.ผิน สัจจะบรรยงกิจ ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายอภิรักษ์  สัจจะบรรยงกิจ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้น โดยนายอิสสระ ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ 5,000 บาท

 นายอิสสระ กล่าวว่า เบื้องต้นตามหลักเกณฑ์  จะมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียชีวิต รายละ 400,000 ราย ส่วนผู้ที่พิการบาดเจ็บทุพพลภาพ รายละ  200,000 บาท,ผู้บาดเจ็บนอนโรงพยาบาลเกิน 20 วัน รายละ  100,000บาท ,ผู้บาดเจ็บนอนโรงพยาบาลไม่เกิน 20 วัน รายละ 60,000 บาท ,ผู้บาดเจ็บไม่ได้นอนโรงพยาบาล รายละ 20,000 บาท ซึ่งใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการก่อความไม่สงบ ตามพรก.ฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังจัดให้ผู้เดือดร้อนให้มีที่พัก ที่ศูนย์ฝึกอาชีพ สตรีเมืองนนทบุรี ที่ปากเกร็ด

 ขณะที่น.ส.ผิน กล่าวว่า  ตนกับแฟนทำงานอยู่ที่แพปลา ใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุแฟนนั่งเล่นเกมอยู่ที่ชั้น 2 ห้องที่ติดกับระเบิด ระหว่างนั้นตนเดินเข้าห้องน้ำ จากนั้นได้ยินเสียงดังตูม เดินออกไปดูพบว่าแฟนหนุ่มได้หายไปแล้ว มาพบศพห่างจากจุดเกิดเหตุ บริเวณทาวน์เฮ้าส์ข้างแพปลา ห่างที่เกิดเหตุระเบิดประมาณ 30 เมตร สำหรับตนกับแฟนหนุ่มคบหากันมาหลายปี แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนกัน โดยตนเป็นชาวลาว มาจากปากเซ จำปาศักดิ์ หลังเกิดเหตุได้รับความเดือดร้อนมาก ต้องไปพักกับเจ้าของแพปลา และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก

 ทางด้านนายปรีชา สุขสวัสดิ์ อายุ 27 ปี ซึ่ วิศวกร บ.อลงกรณ์ก่อสร้างย่านประชาชื่น  ซึ่งพักอาศัยอยู่ในตึกดังกล่าว กล่าวว่า รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเมืองไทย  ผู้ใหญ่ทะเลาะกันแต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน รู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก อยากให้ทุกคนสามัคคีกัน  เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทำให้ประชาชนเดือดร้อน จริงๆแล้ววันที่เกิดเหตุตนทำงานที่บ. หลังเกิดเหตุได้มีเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานที่เดียวกันโทรศัพท์มาบอกว่า  ตึกเราโดนระเบิด

 "ตอน 18.00 น.ผมรีบมาที่ห้องพัก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าห้องพัก เพราะเกรงว่าตึกจะถล่ม ผมจึงกลับไปนอนที่บริษัท ตอนนี้ผมเหลือแค่เสื้อผ้า กางเกงยีนส์  เสื้อยืด ส่วนห้องก็เข้าไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปในห้อง ในห้องมีทั้งจอคอมพิวเตอร์  การ์ดทีวีเสียบ ตอนนี้โทรศัพท์ก็ไม่มีเครื่องชาร์จ รู้สึกเดือดร้อนมาก เบื้องต้นได้รับการช่วยเหลือ 2,000 บาท และได้รับการช่วยเหลือ ประเภท มุ้ง ข้าวสาร มามา ถุงยังชีพ แต่ก็ต้องไปหาที่อยู่ใหม่" นายปรีชากล่าว

สำหรับความช่วยเหลือ ผู้เสียหายรอบนอกจะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 2,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 5,000 บาท ในส่วนของการจราจร เจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรซอยเมนชั่นที่เกิดเหตุ ห้ามรถผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าออก นอกจากอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างเดียวเท่านั้น

 นอกจากนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่รื้อถอนปูนซากตึกได้พบกระเป๋าต้องสงสัยสีดำเป็นกระเป๋าคาดเอว ภายในมีเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่งเป็นแม็กอาก้า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะหล่นมาจากห้อง202จากแรงระเบิด และยังพบระเบิดลูกเกลี้ยงอีก 2 ลูกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.วิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมตำรวจ มีพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.รอง ผบ.ตร.พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพรามกุล รักษาการ ผบช.ภ 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.ภ1 พร้อมชุดสืบสวนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด พร้อมทั้งผู้บังคับการจังหวัด ที่ยังใช้พรก.ฉุกเฉินอยู่ คือ พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทร์นนท์ ผบก.ภ.นนทบุรี พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.สมุทรปราการ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมให้ชุดสืบสวน ซึ่งเข้าเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดเข้ารายงานพยานหลักฐาน

 พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า จากการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุระเบิดคือห้องหมายเลข 202 สมานเมตตาแมนชั่น ในห้องเกิดเหตุเป็นห้องของนายสมัย วงศ์สุวรรณ ที่เข้าพักพร้อมกับสามีภรรยาคู่หนึ่งยังไม่ทราบชื่อ โดยเข้าพักเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา และก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 13.00 น. เเม่บ้านประจำแมนชั่นเห็นนายสมัยเเละสามีภรรยาคู่หนึ่ง ช่วยกันหิ้วกระสอบประมาณ 2-3 กระสอบ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่าสิ่งที่บรรจุในกระสอบนั้นคืออะไร เเละหลังจากนั้นในเวลา 18.00 น. ก็ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น

 พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่านายสมัยเคยถูกดำเนินคดีปาระเบิดที่เชียงใหม่เมื่อปี 2552 ขณะนี้หลบหนีคดีอยู่ และทราบว่าเคยร่วมชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ ซึ่งจากการตรวจสอบคาดว่าเป็นระเบิดทีเอ็นทีน้ำหนัก 10 กิโลกรัม ส่วนสาเหตุการระเบิด น่าจะเกิดจากความผิดพลาดขณะประกอบระเบิดและ ที่เกิดเหตุพบเเบตเตอรี่ 12 โวลต์ เเละสายไฟจำนวนหนึ่ง เครื่องวัดมัลติมิเตอร์ ชิ้นส่วนถังน้ำยาเเอร์ เเผงวงจรต่อเวลา เเละถังดับเพลิง ซึ่งวัตถุพยานที่เป็นก้อนแบตเตอรี่ สามารถเชื่อมโยงได้ใน 3 คดี คือ ที่หน้ารร.สันติราษฎร์วิทยา ที่ลานจอดรถกระทรวงสาธารณสุข ลานจอดรถห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เเต่ 3 พื้นที่ดังกล่าว สามารถกู้ระเบิดได้
 นอกจากนี้ถังดับเพลิงและชิ้นส่วนถังน้ำยาแอร์ ยังโยงไปยังระเบิดที่สนามม้านางเลิงด้วย อีกทั้งหน่วยเก็บกู้ระเบิดยังรายงานเข้ามาว่า เเผงวงจรต่อเวลาสามารถตั้งเวลาระเบิดได้ ภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคดีนี้สามารถขยายผลได้อีกนับ 10 คดี

 ด้าน พล.ต.อ. ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าศพที่พบเป็นของนายสมัยหรือไม่ ซึ่งต้องชันสูตรศพเเละตรวจดีเอ็นเอให้เเน่ ชัดอีกครั้ง

 ส่วนกรณีที่มีรถส่วนบุคคลติดป้ายทะเบียนจ.นราธิวาส ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสองสามีภรรยาคู่นั้น ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงถึงกับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถเชื่อมโยงถึงเหตุการณ์จับกุม 11 แกนนำชุดดำที่จ .เชียงใหม่ด้วย

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึง เหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอประสานให้นักนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปร่วมสังเกตการณ์การเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุของตำรวจแล้ว โดยเบื้องต้นตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบสืบสวนสอบสวน และแถลงความคืบหน้าต่าง ๆ หากการสอบสวนของตำรวจพบว่าคดีมีความเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบก่อนหน้านี้ จะส่งมอบให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษต่อไป ส่วนการตรวจพบซีดีรัฐไทยใหม่ ในที่เกิดเหตุนั้น ขณะนี้คงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่า จะต้องนำมาพิจารณาถึงความเชื่อมโยงกับคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ เพราะต้องรอให้มีการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงในซีดีอย่างรอบคอบก่อน

 แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ข้อมูลการข่าวของดีเอสไอพบว่า กองกำลังชุดดำใต้ดินพยายามยกระดับความรุนแรงในการก่อเหตุความไม่สงบขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเชื่อว่าหลังจากนี้เหตุการณ์ความไม่สงบจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่มุ่งหวังเพียงการก่อเหตุสร้างความปั่นป่วนให้เกิดภาพเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งข้อมูลการข่าวที่ได้รับสอดคล้องกับการจัดเตรียมและประกอบวัตถุระเบิดร้ายแรงจนเกิดระเบิดขึ้นในแมนชั่นย่านบางบัวทอง