
พล.ต.ต.ชัยยะเผยจับ11นักรบแดงฝึกอาวุธจริงหาคนสั่ง
ชัยยะ รรท. ผบช.ภ. 5 เผยจับกุมชายฉกรรจ์11ราย ฝึกอาวุธ จริง แต่กันเป็นพยานเพื่อสาวไปถึงคนบงการ ระบุเชื่อมโยงคดีระเบิด หมิ่นสถาบัน เชื่อคลี่คลายคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ได้ แจงอย่านำไปโยงกับการเมือง ผบ.สส. ปัดทหารเอี่ยวกองกำลังแดงซ้อมอาวุธ ติงจ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รักษาราชการแทน ผบช.ภ.5 กล่าวถึงการจับกุมชายฉกรรจ์จำนวน 11 คน ว่า กรณีดังกล่าวตนเอง ได้รับแจ้งจาก พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ซึ่งได้ทราบจากพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งมีชาย ฉกรรจ์จำนวน11ราย เข้ามาพักอาศัยโดยไม่ได้เป็นคนพื้นที่อำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ หลังรับแจ้งพล.ต.ต.สมหมายกับพวกได้ไปตรวจสอบ ได้พบกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวพักอาศัยอยู่ภายในรีสอร์ทจริง ซึ่งรีสอร์ทดังกล่าวมีเส้นทางเข้าออกพื้นที่จำกัด ก็ได้นำตัวมาซักถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่มาที่ไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เป็นการจับกุม
พล.ต.ต. ชัยยะ กล่าวว่า จาการสอบสวนสรุปข้อเท็จจริงประมวลเรื่องทำให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยว กับคดีด้านความมั่นคงซึ่งในรายละเอียดเป็นเรื่องที่กระทบกับประเทศชาติเป็น อย่างยิ่ง เพราะจากการสอบถามชายฉกรรจ์ ได้ใจความว่ามีกระบวนการที่จ้องทำร้ายประเทศชาติจริง รวมทั้งผู้ก่อการร้ายก็ดี หรือต้องการบั่นทอนความมั่นคงของประเทศชาติ จึงได้ดำเนินการซักถามจนได้รายละเอียด เห็นได้ว่าข้อมูลดังกล่าวที่ได้รับนั้นหน่วยข่าวความมั่นคงต่างๆ ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ยืนยันฐานข้อมูลตรงกันว่าเป็นกระบวนการทำลายความมั่นคงต่อประเทศชาติ เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ ในส่วนนี้เองอยากทำความเข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งบุคคลทั้ง 11 คน ยินดีสมัครใจที่จะเป็นพยานและให้ข้อมูลต่างๆ
พล.ต.ต.ชัยยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนของภ.5 ได้ ดำเนินการตามกระบวนการในการคุ้มครองพยานรวมทั้งขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ เพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบกับผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร ส่วนผู้บริสุทธิ์ก็ขอความร่วมมือให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ต่อทางราชการ ในส่วนของการทำงานของตำรวจสิ่งที่อยากเห็นคือความรักสามัคคีของพี่น้อง ประชาชน ความร่วมมือร่วมใจเป้นหนึ่งอันเดียวกัน สำหรับการมีส่าวนร่วมของประชาชนเราได้ตระหนักดีหากได้รับความร่วมมือจาก ประชาชนคิดว่าประเทศชาติจะมีความมั่นคง ประชาชนก็มีความสุขถ้วนหน้า
เมื่อถามชายฉกรรจ์ทั้ง 11ราย เป็นกลุ่มใด พล.ต.ต.ชัยยะ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ต้องบอกก่อนว่า ตำรวจมองว่าสิ่งใดที่ได้จากการสอบสวนถือเป็นคดีความมั่นคง เป็นคดีอาญา เราจะไม่เอาเรื่องการเมืองมายุ่งเกี่ยว สิ่งใดที่ทำร้ายประเทศ ทำลายผลกระทบความมั่นคง สำหรับกระบวนการกลุ่มนี้ มีหลายกลุ่มหลายพวก หากแยกแยะ กลุ่มนี้เราพอจะรู้เป้าหมายว่าคือกลุ่มใด แต่ข้อปิดเป็นความลับเพื่อสืบสวนไปให้ถึงผู้บงการใหญ่ ขณะนี้ให้รู้ว่ามีกระบวนการจ้องทำลายประเทศชาติ ขอความร่วมมือสื่อและประชาชนเป็นหูเป็นตา และขอย้ำว่า จะไม่นำกลุ่มการเมืองเข้ามายุ่งกับคดีนี้
เมื่อถามว่าเป็นกลุ่มนักรบชุดแดง และมีการฝึกอาวุธด้วยใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ชัยยะ กล่าวว่า ไม่ขอระบุว่าเป็นชุดใด และพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นชายชุดดำหรือไม่ เพราะไม่อยากให้นำการเมืองเข้ามายุ่ง สำหรับการฝึกอาวุธเราก็มีข้อมูลอยู่ ซึ่งทั้งหมดเป็นคดีความมั่นคง ที่มีองค์ประกอบหลายอย่าง อาทิ เรื่องการค้าอาวุธ ยาเสพติด การหมิ่นสถาบัน บ่อนทำลายประเทศชาติ สำหรับกลุ่มชายฉกรรจ์นี้มีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิด คดีหมิ่นสถาบันที่เกิดขึ้นในประเทศ การลอบสังหารบุคคลสำคัญ และเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งใน กทม.และตจว.ซึ่งหลายคดีก็ถูกโอนเป็นคดีพิเศษซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอประมาณ 200 กว่าคดี ถ้านำมาเชื่อมโยงกันเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะนำไปสู่การปรองดองได้หรือไม่
พล.ต.ต. ชัยยะ กล่าวต่อว่า ที่น่าสังเกต คือ กลุ่มชายดังกล่าวเป็นพลเรือนคนไทยแต่ไม่ใช่คนภาคเหนือเลย อุปกรณ์และเครื่องมือที่พบก็มีของเจ้าหน้าที่รัฐรวมอยู่ด้วย เมื่อถามว่าคนกลุ่มนี้เกี่ยวกับเหตุการช่วงเดือนพฤษภาคมหรือไม่ รรท.ผบช.ภ.5 กล่าวว่า กำลังตรวจสอบ
เมื่อถามว่า ยังมีกลุ่มที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ฝึกอยู่ในประเทศอีกหรือไม่ พล.ต.ต.ชัยยะ กล่าวว่า ยังมีอยู่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าที่ใดบ้าง มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และไม่อยากให้ประเด็นนี้ไปกระทบกับการลงทุน อย่างไรก็ตามต้องการให้พี่น้องคนไทยหันมาจับมือกัน ช่วยกันแก้ปัญหามากกว่า
รรท.ผบช.ภ.5 กล่าวตอนท้ายว่า ข้อมูลที่ได้มาจะนำไปสู่หลักฐานการดำเนินคดีในปัจจุบันนี้ที่บ้านเมืองมี ความวุ่นวายไม่สงบสุข คดีนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงการเมือง แต่เป็นการจ้องทำลายสถาบัน จ้องทำลายประเทศชาติ ตนเองไม่ได้มีการพาดพิงกลุ่มไหน ยอมรับว่าบุคคลกลุ่มนี้เชื่อมโยงกับคดีที่เกิดขึ้นทั้งในกทม.และตจว. เชื่อมโยงกันหมดเยอะมาก เราก็ได้ประสานหน่วยข้างเคียงทุกหน่วยในการตรวจสอบข้อมูล คงไม่ช้าจะมีข่าวดี ที่เห็นเป็นรูปธรรมจำนวนมาก และจะทำให้บ้านเมืองเราสงบขึ้น ตอนนี้ต้องเข้าใจว่า คนกลุ่มนี้หนีร้อนมาพึ่งเย็น เราก็ดูแลในฐานะพยานให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อราชการทั้งสิ้น เชื่อว่าไม่ช้าทุกอย่างจะเปิดเผยด้วยหลักฐานและวัตถุพยาน ประจักษ์พยาน ข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ ส่วนค่าตอบแทนที่กลุ่มนี้ได้มีทั้งเงินและสิ่งของ
ผบ.สส.ปัดทหารเอี่ยวกองกำลังแดงซ้อมอาวุธ
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงถึงกรณีที่กองกำลังกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวน 11 คนที่ถูกตำรวจจับในข้อหามีการฝึกซ้อมใช้อาวุธที่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากตำรวจเป็นผู้จับคงไม่ได้รายงานมายังตน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีทหารเข้าไปพัวพันเหตุการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น หากมีรายงานว่า ทหารเข้ามาเกี่ยวข้องต้องทำตามระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานยืนยันในเรื่องตัวบุคคล แต่เจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ตนทราบแล้วว่า เป็นใคร หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหน ให้หน่วยงานนั้นสอบสวนแล้วรายงานขึ้นมา ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่กองทัพทำ หากเป็นกองทัพแสดงว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้นโยบายผบ.เหล่าทัพลงไปทำ ส่วนงานด้านการข่าว เขาจะไม่นำการข่าวมาพูดในทางสาธารณะ การจะติดตามใครไม่จำเป็นต้องมาบอกว่าติดตามใคร
เมื่อถามว่า จะส่งผลกระทบต่อการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง เชื่อว่า คนไทยอีก 63 ล้านคนต้องเป็นห่วงประเทศไทยเท่ากับตน เพราะตนถือเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ใช้สถานะเท่าเทียมกับคนไทยทุกคน
ทหารส่งกำลังลงหาข่าวที่รีสอร์ทแม่ออนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้(4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติ ฉก.ร.7ประมาณ 10 นายนำกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาข่าว ซึ่งข้อมูลล่าสุดแจ้งว่า รีสอร์ทดังกล่าวชื่อว่า "ดอยคู่ฟ้ารีสอร์ท"เบื้องต้นมี นายผจญ สุขติ๊บ อ้างตัวเป็นเจ้าของได้เชิญหัวหน้าชุดทหารเข้าไปพูดคุยในทางลับ
รายงานข่าวแจ้งว่าในการเข้าไปตรวจสอบหาข่าวครั้งนี้มี นายอินทร ชัยสิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสหกรณ์ 6 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่เจ้าของพื้นที่เข้าไปร่วมพูดคุยด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมสังเกตการณ์และถ่ยภาพบ้านพักที่เกิดเหตุได้ แจ้งเพียงว่า จะร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้านแถลงข่าวพรุ่งนี้
ทั้งนี้รีสอร์ทดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ประกอบด้วย บ้าน 3 ซึ่งแบ่งเป็นห้องประชุมใหญ่ 1 หลัง และบ้านพักสำหรับนอนเรียงกันประมาณ10 คนได้อีก 2 หลัง ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มชายฉกรรจ์นักรบแดงจำนวน11 คน เข้าไปพักและรีสอร์ทดังกล่าวก่อนหน้านี้ยังไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักแต่อย่างใด