
แผ่นดินทรุดบนดอยแม่สลองลึก80ซม.บ้านรร.พัง
แผ่นดินทรุดตัวบนดอยแม่สลอง ลึกกว่า 80 ซม. บ้านเรือนประชาชน - โรงแรมพังเสียหาย นักวิชาการชี้เหตุฝนตกต่อเนื่องทำหินแกรนิตใต้ดินผุพัง ระบุเป็นจุดเริ่มต้นหากปีหน้าฝนหนักอาจถึงขั้นดินถล่มหายไปทั้งหมู่บ้าน แนะกรมทรัพยากรธรณีเร่งศึกษาและกำหนดจุดเสี่ยงภัยสูงป้องก
วันที่ 1 ตุลาคม ได้เกิดเหตุแผ่นดินทรุดตัวยาวกล่าว 300 เมตร บนดอยแม่สลอง หมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ทำให้บ้านเรือนของประชาชนและโรงแรมที่ใช้ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวได้รับความเสียหายหลายแห่ง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาจีนฮ่อ ได้ทำการอพยพสิ่งของและเครื่องใช้ที่จำเป็นออกนอกพื้นที่เนื่องจากเกรงว่าแผ่นดินดังกล่าวจะได้ทำการถล่มลงมาเนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ใกล้แนวภูเขาที่มีความลาดชั้น และแผ่นดินดังกล่าวได้ทรุดตัวลึกกว่า 80 เซ็นติเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งออกทำการตรวจสอบ พร้อมกับประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย
นายวุฒิพงษ์ สวรรค์โชติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก กล่าวว่า ภายหลังที่ได้เกิดฝนตกติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวันในพื้นที่ ปริมาณน้ำจึงสะสมในชั้นดินเป็นจำนวนมากประกอบด้วยในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่ลาดชั้น ทำให้ดินที่สะสมน้ำมาจำนวนมากอาจจะเกิดการทรุดตัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งได้ประสานไปยังสำนักงานธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมเชียงราย ออกสำรวจพื้นที่แผ่นดินทรุดตัว เข้าไปทำการตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่แท้จริงของการทรุดตัวของดินได้ในครั้งนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำชั้นดินต่างๆ ของพื้นที่ทรุดตัวของดินไปทำการตรวจสอบ พร้อมกับได้มีการประกาศเติอนไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าใกล้พื้นที่เนื่องจากในขณะก็ยังคงมีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดดินโค่นถล่มทำให้พื้นที่ทรุดตัวได้รับแรงกระทบทำให้เกิดการทรุดตัวเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังพบว่าบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินทรุดตัวไปจำนวนกว่า 10 หลังคาเรือน และโรงแรมเว็นทรัลฮิลล์ ซึ่งเป็นสถานที่ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวก็ได้รับความเสียหาย ซึ่งจะต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดถึงสาเหตุและความปลอดภัย จึงจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า พื้นที่เกิดการทรุดตัวในครั้งนี้เป็นพื้นที่อยู่ในเส้นทางของรอยแยกแม่จัน ซึ่งเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศพม่าผ่านเข้ามายังจังหวัดเชียงราย และไปสิ้นสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ หลายฝ่ายจึงคาดการณ์ว่า ส่วนหนึ่งจากมาจากการเคลื่อนตัวของรอยแยกดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนและจะต้องรอการตรวจสอบต่อไป
ชี้เหตุฝนตกต่อเนื่องทำหินแกรนิตใต้ดินผุพัง
ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึง เหตุการณ์แผ่นดินแยกและทรุดตัวทีเกิดขึ้นในหมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ .เชียงราย ว่า ไม่เกี่ยวกับรอยเลื่อนแม่จันที่อยู่บริเวณดังกล่าว แต่สาเหตุเกิดจากพื้นที่บริเวณดังกล่าว เป็นหินแกรนิตซึ่งเมื่อโดนความชื้นมาก ๆ จะเกิดการผุพังเป็นชั้นหนาใต้ดิน ประกอบกับช่วงสองถึง สามเดือนที่ผ่านมามีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ดินเกิดการเคลื่อนตัวและปรากฏรอยแยกเป็น แนวยาวดังกล่าว โดยรอยแยกที่เกิดขึ้นจะขยายตัวไปเรื่อย ๆ และในปีหน้าหากมีฝนตกลงมาอีกก็จะ ซ้ำรอยเดิมและทำให้รอยแยกขยายตัวจนถึงจุดที่พังทลายอย่างรุนแรง
ส่วนข้อกังวลของชาวบ้านที่ระบุว่าประมาณ 20 ปีก่อน พื้นที่บริเวณที่เกิดรอยแยกเคยเป็นบ่อขยะเก่าและมีการถมดินและตอกเสาเข็มภายหลัง ตรงนี้ถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้นอีกทางหนึ่ง เพราะบริเวณที่เป็นดินอ่อนหรือดินที่ไม่มีการบดอัดแม้จะไม่ใช่พื้นที่ลาดชันก็อาจเสี่ยงต่อการพังทลายได้
ดร.สัมพันธ์ ระบุว่า พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและแผ่นดินแยกในภาคเหนือคือชุมชนที่ตั้งอยู่ริมลำห้วย และพื้นที่ที่เป็นหินซึ่งประกอบด้วยหินภูเขาไฟหรือหินแกรนิตซึ่งมีการผุพังเป็นชันหนา หากมีฝนตกหนัก ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มและแผ่นดินแยกสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นที่บ้านน้ำก้อ จ.เพชรบูรณ์
ทั้งนี้ในประเทศไทยถือว่าภัยที่เกิดจากดินถล่มอันตรายกว่าแผ่นดินไหว หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องโดยเฉพาะกรมทรัพยากรธรณี ควรจะทำการศึกษาเพื่มเติมและชี้ให้ชัดเจนว่าพื้นที่ใดที่มี ความเสี่ยงภัยสูงที่จะเกิดอันตรายจากดินถล่ม ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะต้องมีการจัดระบบของการเตือนภัยที่ดีกว่านี้และต้องพยายามรณรงค์สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้เข้าใจถึงปรากฏการณ์เพื่อร่วมกันสังเกตและเตือนภัยกันได้ทันเวลา
ชาวระนองยังผวาไม่เลิกหลุมดินยุบโผล่อีก3หลุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรากฏการณ์หลุมดินยุบในเขตพื้นที่ จ.ระนองยังพบอย่างต่อเนื่องทั้งยังเป็นที่สงสัยของชาวบ้านถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดพบเพิ่มอีก 3 หลุม ขนาดหน้ากว้าง 2 ม. และ 4 ม.ที่บริเวณสวนผลไม้ของชาวบ้านในพื้นที่ ม. 2 บ้านเนินทอง ต.ในวงใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการพบหลุมดินยุบในเขตพื้นที่ดังกล่าว 1 หลุม ที่บริเวณสวนทุเรียนของนายปั่น สิงห์อุดม และหากรวมหลุมดินยุบที่พบในเขตพื้นที่ อ.ละอุ่นตั้งแต่ต้นปี 2553 ที่ผ่านมา พบว่ามีการพบหลุมดินยุบแล้วกว่า 30 หลุม
นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ระนองกล่าวว่า พื้นที่ อ.ละอุ่น หลายพื้นที่มีโพรงน้ำใต้ดิน ประกอบกับเป็นพื้นที่ที่พบหินปูน ดังนั้นการที่มีการพบหลุมดินยุบถือเป็นปรากการณ์ที่เกิดขึ้นได้สำหรับพื้นที่ที่มีแหล่งหินปูน แต่ก็ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังโดยเฉพาะบ้านเรือนบางหลังที่อาจจะสร้างอยู่ในแนวหินปูน หรือโพรงน้ำใต้ดินอาจจะทำให้บ้านทรุดตัวได้หากดินเกิดยุบตัว
นายปั่น สิงค์อุดม ชาวบ้านที่พบหลุมดินยุบ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตนได้ให้บุตรชายชื่อนายสมชาย สิงค์อุดมไปช่วยดูแลสวนและใส่ปุ๋ยต้นทุเรียน และเมื่อบุตรชายได้ไปพบหลุมยุบดังกล่าวก็ตกใจและตนจึงรีบมาแจ้งกำนัน สำหรับหลุมยุบที่เกิดในสวนทุเรียนของตน หลังจากนี้ถ้าน้ำไม่แห้ง จะเลี้ยงปลาและนำน้ำมาใช้ทำสวนทุเรียนต่อไป