
กีฬามา ยาเสพติดหาย ?
เสียเหงื่อเพราะกีฬา ดีกว่าเสียน้ำตาเพราะยาเสพติด และ ลานกีฬาต้านภัยยาเสพติด เป็นคำขวัญที่ได้ยินกันมานานในประเทศไทย ทำให้เราเชื่อกันมานานนักหนาว่า กีฬาเป็นสิ่งที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ลดน้อยลงไปได้ และมีการขับเคลื่อนตามแนวทางดังกล่าวนี้ทั้ง
และหากวัดกันด้วยความแพร่หลายของกีฬาชนิดต่างๆ ทั้งกระแสตอบรับจากกลุ่มคนที่ติดตามเฝ้าชมเฝ้าเชียร์ และกระแสของคนที่หันมาเล่นกีฬากันมากขึ้นเกือบทุกชนิด
จนทำให้ธุรกิจกีฬาประเภทจัดสร้างสนามเพื่อให้คนเช่าเล่นกัน มีเกิดขึ้นดาษดื่นทั่วทุกหัวระแหง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามไดรฟ์กอล์ฟ, คอร์ตสำหรับเล่นแบดมินตัน และสนามฟุตบอลทั้งในร่มและกลางแจ้ง ก็ยิ่งทำให้เกิดแง่คิดตามความเชื่อดังกล่าวว่า แล้วทำไมยาเสพติดจึงยังคงแพร่หลาย โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงไป
เมื่อพิจารณาถึงกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายของปัญหายาเสพติดพบว่า คนที่อยู่ระหว่างวัยรุ่นหรือวัยเรียนเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ในการที่จะตกเป็นเหยื่อของผู้ค้ายาเสพติดทั้งหลาย โดยผู้ที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 15 ถึง 25 ปี โดยเฉพาะที่อยู่ในครอบครัวที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจหรือขาดความอบอุ่น จะถูกชักโยงให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากกว่าคนที่อยู่ในกลุ่มอื่น
แต่คนที่เข้าไปใช้เวลาอยู่ในสนามกีฬาที่กำลังนิยมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสนามไดรฟ์กอล์ฟ, คอร์ตแบดมินตัน และสนามฟุตบอลทั้งในร่มและกลางแจ้ง กลับเป็นคนที่มีอายุระหว่าง 25 ปีขึ้นไปจนถึง 45 ปี และอยู่ในวัยทำงานและมีครอบครัวแล้ว มากกว่าที่จะพบเห็นคนที่อยู่ในกลุ่มวัยเสี่ยง หรือหากจะมีอายุอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่เข้าไปอยู่ในสนามกีฬา ก็จะเป็นคนในระดับอายุกลุ่มเสี่ยงซึ่งอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะพอที่จะจ่ายได้ และอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงต่อปัญหายาเสพติดน้อย
เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด เข้าไปใช้ชีวิตในสนามกีฬาน้อย เป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการเล่นกีฬาแต่ละชนิดสูงเกินกว่าคนกลุ่มนั้นจะรองรับได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าสนามฟุตบอลหรือค่าอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ แม้ว่าจะมีข้ออ้างว่าหากเยาวชนเหล่านั้นหันไปใช้สนามกีฬาสาธารณะจำพวกลานกีฬาที่จัดสร้างกันทั่วไป ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการเล่นเพื่อออกกำลังไม่มากนัก หรือหากจำเป็นต้องมีก็จะไม่สูง เท่ากับที่ไปเล่นตามสนามที่ทันสมัยทั้งหลาย
แต่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอาจจะหลงลืมไป คือการสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดความรู้สึก ให้อยากเข้ามาใช้เข้ามาเล่นด้วยวิธีการทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การสร้างทัวร์นาเมนต์การแข่งขันขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ โดยมีของขวัญของรางวัลล่อใจให้เด็กและเยาวชนในกลุ่มเสี่ยง รู้สึกว่าการเข้ามาเล่นในลานกีฬาต่างๆ ก็สามารถทำให้ตนเองมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนอื่น
หรือจะบอกว่าเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเป็น Somebody เป็นฮีโร่ได้รับการยอมรับและมีที่ยืนที่โดดเด่นในสังคมของเขา มากกว่าที่จะเป็นคนไร้ชื่อเสียงเรียงนามไม่มีคนรู้จัก หรือเป็น Nobody ที่ไร้ค่าไม่มีความหมาย จนต้องไปแสวงหาชื่อเสียงเพื่อยืนในสังคมในทางที่ผิดๆ เช่นที่เกิดขึ้นทุกวันนี้
การทำเพียงแค่สร้างลานกีฬาขึ้นมาให้ชุมชนแล้วทิ้งขว้างไป จึงไม่ใช่วิธีการนำเอากีฬามาช่วยแก้ปัญหาของสังคมอย่างแท้จริง แต่ต้องหาวิธีการสร้างแรงจูงใจให้คนในกลุ่มเสี่ยง เข้าไปใช้งานให้สมกับวัตถุประสงค์ที่สร้างมันขึ้นมาด้วย มิฉะนั้นลานกีฬาชุมชนก็คงทำหน้าที่ได้แค่เพียงลานตากมันหรือลานตากข้าวเปลือก มากกว่าที่จะทำหน้าเป็นลานกีฬาต้านภัยยาเสพติดตามหน้าที่ของมันครับ
พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ