ข่าว

สูตร 5-2-3 ตั้งพ่อเมือง-มานิตจัดให้

สูตร 5-2-3 ตั้งพ่อเมือง-มานิตจัดให้

29 ก.ย. 2553

ก่อนรายชื่อคลอดบรรดาบิ๊กคลองหลอด สิงห์เฒ่า ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ต้องกางบัญชียึดสูตร 5-2-3 โดยมีพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พรรคร่วม และทหาร ได้อานิสงส์จากการแต่งตั้งครั้งนี้ ขณะที่มีคู่พี่น้องคู่แฝดอย่าง ‘เนวิน-สุเทพ’ ทำหน้าที่ "ผู้กำกับ" ดูแลควา

 ภาพที่ปรากฏจึงเป็นลักษณะทำอะไรตามใจคือไทยแท้ ยึดหลักพรรคและพวก ส่งผลให้เบื้องหลังงานสร้างแต่งตั้งบิ๊กคลองหลอดในตำแหน่งพ่อเมือง 48 เก้าอี้ ระดับ ‘รองผู้ว่าฯ-รองอธิบดี’ ซี 9 ได้มีโอกาสก้าว "พาสชั้น" นั่งเป็นผู้ว่าฯ ถึง 21 คน จาก 167 คน คัดรอบแรก 72 คน รอบสอง 95 คน จากการสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 23-24 กันยายน

 คลี่ดูบัญชีรายชื่อตั้งแต่อันดับ 1-48 ที่มีผลการแต่งตั้งให้มีผลภายในวันที่ 1 ตุลาคม ในบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้ ไม่อาจปฏิเสธได้เกิดจากฝีมือของ "มานิต วัฒนเสน" ปลัดกระทรวงมหาดไทยเจ้าของหนังสือ "ปลัดคิก คิก" ที่นับถอยหลังจะเกษียณเหลือเพียงแค่ 2 วัน แต่งานนี้เร่งสปีดแบบเต็มที่ ราวกับจะให้ชาวสิงห์ได้รับรู้กัน

 ผลก็คือ สิงห์มีนายได้ดิบได้ดีถ้วนหน้า

 นับจากเก้าอี้ใหญ่หัวเมืองภาคอีสานที่เป็นพื้นที่โซนสมรภูมิเลือกตั้งฐานการเมืองใหญ่ของพรรคภูมิใจไทยก็ปักชื่อ ‘ระพี ผ่องบุพกิจ’ ผู้ว่าฯ สุรินทร์ ได้เลื่อนชั้นเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา ถือเป็น สิงห์แดง เป็นคนบุรีรัมย์บ้านเดียวกับนายเนวิน จบรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมรุ่นสถาบันเดียวกันกับ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ น้องรักของ เนวิน ถือเป็นพื้นที่เกรดเอ ในภาคอีสาน เพราะมี ส.ส.มากเป็นอันดับ 2 รองจาก กทม.และเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันทางการเมืองสูง

 นอกจากนี้ เป็นที่รู้กันดีว่า บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กำลังถูกกดดันในพื้นที่อย่างหนัก หลังจาก ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน จับมือกับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จากพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่มีข่าวว่าสองคนนี้จะกลับมารวมเป็นพรรคเดียว รวมถึงกลุ่มเพื่อไทยในพื้นที่ นำโดย พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ที่เตรียมจับมือสกัดพรรคภูมิใจไทย

 งานนี้ก็ต้องดูใจ ระพี ที่ข่าวว่า อาสามาลุยเอง !

 คณะทำงาน รมว.มหาดไทยอีกคน ‘ธานี สามารถกิจ’ ที่ขยับจากรองผู้ว่าฯ ชลบุรี มาเป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานี คนนี้ถือว่าเป็น "มือขวา" ของ ‘ศักดิ์สยาม’ จึงได้มาดูพื้นที่สีแดงในภาคกลาง ขณะที่ ‘สุทธิพงษ์ จุลเจริญ’ รองผู้ว่าฯ นครนายก ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าฯ ก็เคยนั่งเป็นคณะทำงาน รมว.มหาดไทยเช่นเดียวกัน

 ที่เหลือเป็นพื้นที่โซนการเลือกตั้งไม่ดุ แม้ไมใช่เป็นพื้นที่หลัก แต่ก็เป็นพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาล ปรากฏมีชื่อของ ‘สมชัย หทยะตันติ’ ผู้ว่าฯ พิจิตร โยกไปเป็นผู้ว่าฯ เชียงราย พื้นที่ของ สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ภาคเหนือ ขณะที่ ‘เริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี’ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี ไปเป็นผู้ว่าฯ นครพนม ไม่ต้องบอกว่า ‘ศุภชัย โพธิ์สุ’ รมช.เกษตรฯ จะยิ้มแย้มแค่ไหน แล้วโยก ‘สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต’ ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ไปเป็นผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ‘สมบัติ ศรีวัฒน์สุวรรณ’ ผู้ว่าฯ สกลนคร ก็ให้ไปเป็นผู้ว่าฯ ขอนแก่นแทนที่เป็นพื้นที่ของ ‘ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ’ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย

 ขณะที่ ‘กิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์’ รองผู้ว่าฯ ราชบุรี ไปเป็นผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เพราะเป็นพื้นที่ของ ‘สุชาติ ตันเจริญ’ โดยให้ ‘วิชิต ชาตไพสิฐ’ แม้จะเป็นสิงห์ทองจบรัฐศาสตร์ รามฯ มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง 10 ไปรักษาการผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ได้รับแต่งตั้งเป็น ผู้ว่าฯ ชลบุรี เพราะเกิดที่ อ.หนองมน ก็น่าจะเป็นปลื้มให้แก่ ‘สนธยา คุณปลื้ม’ แกนนำภูมิใจไทยภาคตะวันออก แล้วโยก ‘เสนีย์ จิตเกษม’ ผู้ว่าฯ ชลบุรี ไปเป็นผู้ว่าฯ น่าน แทน แล้วให้ ธวัชชัย เทิดเผ่าไทย ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ไปเป็นผู้ว่าฯ ระยอง ดูแลพื้นที่ของ สาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์

 พลิกดูโซนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีรายชื่อ ธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ขยับไปเป็นผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ในอดีตเคยเป็นอดีตนายอำเภอเกาะสมุย มีความใกล้ชิดกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับเลือกตั้งซ่อมที่จะเกิดขึ้นพอดิบพอดี ขณะเดียวกัน ธำรง เจริญกุล รองผู้ว่าฯ สงขลา ไปเป็นผู้ว่าฯ พังงา โดยมี ตรี อัครเดชา รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ขยับไปเป็นผู้ว่าฯ ภูเก็ต เป็นพื้นที่ของ อัญชลี วานิช เทพบุตร

 การแต่งตั้งให้ พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ไปเป็นผู้ว่าฯ อุดรธานี เพราะต้องการให้ไปคุมเสื้อแดง เช่นเดียวกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าฯ นครปฐม ที่ถูกโยกไป จ.เชียงใหม่ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นพื้นที่หลักของการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่มีการกระทำลักษณะที่หมิ่นเบื้องสูงอยู่บ่อยครั้ง ฝ่ายการเมืองจึงวางตัว ม.ล.ปนัดดา เพื่อไปควบคุมการชุมนุมของคนเสื้อแดง

 แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดหญิงรายเดียว น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง รองผู้ว่าฯ กำแพงเพชร ไปเป็นผู้ว่าฯ ตราด ข่าวว่าได้แรงหนุนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่ผู้บัญชาการทหารบก

 ส่วนการเด้งผู้ว่าฯ เข้ากรุผู้ตรวจ น่าสังเกตว่า ล้วนเป็นพื้นที่สีแดง เช่น ศุภกิจ บุญญฤทธิพงษ์ ผู้ว่าฯ ลำปาง ปรีชา บุตรศรี ผู้ว่าฯ ปทุมธานี ธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด และ วันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ

 มีบางคนบอกว่า นี่จะเรียกได้ไหมว่า การเมืองกำลังใช้ข้าราชการแก้ปัญหาการเมือง...แม้วันนี้ยังตอบได้ไม่ชัด แต่อีกไม่นานความกระจ่างจะบังเกิด !