ข่าว

ถิ่นฐานรุ่งอรุณใหม่ของชาวไทยย้อ ที่ท่าอุเทน

ถิ่นฐานรุ่งอรุณใหม่ของชาวไทยย้อ ที่ท่าอุเทน

24 ก.ย. 2553

“ท่าอุเทน” หมายถึง ท่าแห่งอุทัย คือท่าน้ำแห่งแรกที่พบความรุ่งเรือง ความสว่างและความสุขสมบูรณ์

 อ.ท่าอุเทนเป็นเมืองเก่า ขึ้นกับ จ.นครพนม ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณปากน้ำสงครามเชื่อมออกสู่แม่น้ำโขง ตรงข้ามเมืองหินบูน แขวงคำม่วง ของลาว เล่ากันว่า เดิมอยู่ตรงข้ามกับปากน้ำหินบูน สายน้ำไหลพุ่งตรงมายังเมืองเหมือนกับถูกแทงอยู่เสมอ จึงอพยพย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่ลำน้ำสงคราม เรียกเมืองที่ตั้งใหม่ว่าชัยบุรี (ปัจจุบันคือ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน) ภายหลังมีชาวเมืองจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอพยพมาทางฝั่งขวา มาถึงเมืองเก่านี้เห็นเป็นทำเลดีจึงขนานนามท่านั้นว่า "ท่าอุเทน” (ประวัติผู้ไทย โดย ถวิล เกษรราช กรุงเทพฯ : กรุงสยามการพิมพ์, 2512) 

 สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงเมืองท่าอุเทน เมื่อคราวเสด็จตรวจราชการมณฑลอุดรและมณฑลอีสาน เมื่อ พ.ศ.2449 ในหนังสือเรื่องเที่ยวที่ต่างๆ ว่า “ที่เมืองท่าอุเทนนี้มีราษฎร 20,000 เศษ มีญวนมาจากเมืองติงเง้ (เมืองเว้) มาตั้งบ้านเรือนอยู่ประมาณ 20-30 หลัง จำนวนคนราวสัก 100 คน พวกญวนเหล่านี้เดินยกมาทางเมืองคำเกิดคำมวน ...หาเลี้ยงชีพด้วยการซื้อของจากเมืองหนองคายมาขาย ไม่ได้ตั้งทำไร่นาอันใด และมีจีนพ่อค้าประมาณ 10 คนรับสินค้าจากเมืองหนองคายมาขาย และบรรทุกสินค้าไปขายเมืองหนองคาย สินค้ามีเร่วแลยางกะตังกะติ้วกับเขาหนังเป็นต้น...ส่วนราษฎรชาวเมืองก็ทำนาแลผสมโคขาย ชาวเมืองท่าอุเทนนี้ว่าเป็นคนชาติย้อโดยมาก แต่แต่งตัวอย่างชาวเมือง ภาษาพูดก็เหมือนๆ กัน เปนแต่สำเนียงเพี้ยนกันบ้าง พระศรีวรราชเล่าว่าพวกย้อนี้เดิมอยู่เมืองไชยบุรีเมื่อครั้งขึ้นเมืองเวียงจันทน์ ครั้นเสียเมืองพวกย้อก็หนีไปตั้งอยู่เมืองหลวงโปงเลง ทางคำเกิดคำมวน เมื่อเจ้าพระยาบดินทรเดชาไปตั้งอยู่ที่เมืองยโสธร ได้แต่งคนลงไปเกลี้ยกล่อมพวกย้อลงมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองท่าอุเทน...”

 ท่าอุเทนจึงเป็นหลักแหล่งชาวย้อและกลุ่มชนอื่นๆ หลากหลายที่รวมกันตั้งเป็นบ้านเมือง ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของท่าอุเทนจนทุกวันนี้

"เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"

ภาพประกอบ
 พระธาตุท่าอุเทนศูนย์รวมศรัทธาของชาวไทยย้อ พระอาจารย์ ศรีทัตถ์เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2455 (http://www.thaidphoto.com/forums/showthread.php?t=2157)