'พระปราโมทย์'ปัดตอบลูกศิษย์เรื่องข่าวฉาว | คมชัดลึก

(18ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระปราโมทย์ ปาโมชโช เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ถูกร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเทเงินบริจาคซื้อที่ดินสำนักสงฆ์ 100 ล้านบาท เข้าบัญชีนางอรนุช สันตยากร อดีตภรร ยา ที่ขณะนี้บวชชีอยู่สำนักสวนสันติธรรมนั้น ล่าสุดพระปราโมทย์งดรับกิจนิมนต์ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับมีการคุมเข้มความปลอดภัย เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย

 โดยเช้าวันนี้บรรยากาศภายในสวนสันติธรรมพระปราโมทย์ยังออกเทศน์ตามปกติ โดยลูกศิษย์เดินทางมาฟังเทศน์จำนวนมาก สังเกตจากบริเวณลานจอดรถแน่นขนัด จนลูกศิษย์บางคนต้องนำรถไปจอดนอกรั้ว ขณะที่ทางวัดจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากเฝ้าตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะลานจอดรถจะมีตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะรถนักข่าวที่จะเข้ามาภายในสวนสันติธรรม 

 ส่วนการเทศนาสังเกตได้ว่า มีการเทศน์เกี่ยวกับการรักษาศีลและการทำสมาธิ และเรื่องเกี่ยวกับ กิเลส ที่ทำให้กลุ่มคนมีการแบ่งพวกพ้องหาประโยชน์ใส่ตน ที่สำคัญมีอยู่ทุกวงการ โดยประเด็นธรรมเรื่องกิเลสนี้ ลูกศิษย์ของพระปราโมทย์ต่างเข้าใจกันว่าอาจหมายถึงกลุ่มของชาวพุทธรักศาสนา

 กระทั่งเวลาประมาณ 08.30 น. หลังถวายภัตตาหารเช้า พระปราโมทย์เปิดโอกาสให้ลูกศิษย์สอบถามพูดคุยถึงเรื่องธรรมะ แต่มีลูกศิษย์รายหนึ่งพยายามที่จะถามถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในขณะนี้ พระปราโมทย์พูดปรามว่า ช่วงเวลาฟังธรรมต้องฟังธรรม ดังนั้นการถามต้องถามเรื่องธรรมะอย่าถามเรื่องอื่น หากอยากจะถามเรื่องนี้ให้ไปถามคนอื่น

 ศิษย์พระปราโมทย์รายหนึ่งบอกว่า พระปราโมทย์ไม่ได้พูดถึงเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น บอกเพียงว่าให้มาร่วมกันปฏิบัติธรรมกันอย่างปกติ และก็แสดงธรรมตามปกติเหมือนเช่นเคยว่าให้ทำแต่ความดี ละเว้นการทำชั่ว ชีวิตก็จะเป็นสุข ส่วนเรื่องที่เป็นข่าวใหญ่โตนั้น ตนไม่เชื่อ คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งทำลายชื่อเสียงมากกว่า เนื่องจากเป็นพระปฏิบัติสายธรรมยุตที่เคร่งครัด ไม่จับต้องเงินทอง และมีลูกศิษย์ทั่วประเทศที่เลื่อมใสในการแสดงธรรมจำนวนมาก

 "การแสดงธรรมท่านก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องอวดอุตริ หรือบอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์แต่อย่างไร การแสดงธรรมจะอยู่ในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแทบทั้งสิ้น ซึ่งการแสดงธรรมในแต่ละครั้งประมาณ 30-45 นาทีเป็นอย่างต่ำ โดยจะมีลูกศิษย์เดินทางมาปฏิบัติธรรมและฟังธรรมครั้งละไม่ต่ำกว่า 100 คนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์" ลูกศิษย์รายหนึ่งกล่าว 

 วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของสวนสันติธรรมชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า การเข้าฟังธรรมและการปฏิบัติธรรมในสวนสันติธรรมนั้น ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันในการเข้าฟังธรรมตามวันเวลาที่เปิด โดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า และไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งยังมีหนังสือและซีดีแจกให้ฟรีด้วย ซึ่งในแต่ละอาทิตย์ที่สวนสันติธรรมเปิดก็จะมีประชาชนเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อปราโมทย์เข้าไปฟังการแสดงธรรมจำนวนมาก ส่วนที่ต้องจองคิวนั้นเป็นเรื่องการจองที่พักเพื่อเข้าพักปฏิบัติธรรมในสวนสันติธรรม ซึ่งเปิดให้ทุกคนมีสิทธิ์เข้าพักได้ตามจำนวนที่พักที่มีอยู่ แต่ที่พักมีจำกัด จึงเป็นเหตุให้คิวจองที่พักยาวไปถึงปี 2561 และคณะกรรมการของสวนสันติธรรมจำเป็นต้องระงับการจองที่พักไว้ก่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเกินไป

 นอกจากนั้น เหตุผลที่สวนสันติธรรมต้องกำหนดวันเปิดปิดและกำหนดเวลาเข้าฟังธรรมไว้นั้น ก็เพื่อไม่ให้ศิษย์ต้องผิดหวังที่อาจมีแล้วไม่ได้พบ เพราะหลวงพ่อปราโมทย์มีกิจนิมนต์ที่อื่น ประกอบกับสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ไม่มีกำลังพอที่จะพบปะสนทนาธรรมได้ทุกวันด้วย สำหรับการกำหนดเวลาแสดงธรรมไว้เป็นการแน่นอน ก็เพื่อให้สาธุชนได้ฟังธรรมไปพร้อมๆ กันและเท่าเทียมกัน โดยไม่ต้องเริ่มแสดงธรรมใหม่เมื่อมีบุคคลคณะใหม่เข้าพบ ซึ่งเกินกำลังที่หลวงพ่อจะทำได้

  ส่วนการเปิดปิดประตูสวนสันติธรรมนั้น เดิมเมื่อพ้นกำหนดเวลาที่เปิดให้สาธุชนเข้าฟังธรรมแล้ว สวนสันติธรรมจะปิดประตูไว้โดยไม่ได้ใส่กุญแจ เพื่อป้องกันสุนัขจรจัดเข้าไป อันเป็นวิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับวัดกรรมฐานอื่นๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งผู้ที่มีธุระสามารถเปิดประตูเข้ามาได้ด้วยตนเอง แต่หลังจากเกิดการปองร้ายของกลุ่มลูกศิษย์กลุ่มหนึ่ง จึงเสนอให้ปิดประตูใส่กุญแจไว้ เพื่อรักษาความปลอดภัยในหลายๆ ด้านในช่วงวันที่ไม่ได้เปิดแสดงธรรม ที่สำคัญระยะนี้พระปราโมทย์งดกิจนิมนต์ภายนอกสวนสันติธรรมและจะไม่รับแขกแต่อย่างใด แต่จะขึ้นศาลาเฉพาะวันที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาปฏิบัติธรรมเท่านั้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดการของพระปราโมทย์ มีกำหนดการรับนิมนต์ไปที่ศาลากาญจนาภิเษก (ศาลาลุงชิน) ซอยแจ้งวัฒนะ 14 ในวันที่ 19 กันยายน แต่จากการตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ www.wimutti.net <http://www.wimutti.net/> ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่กลุ่มลูกศิษย์จัดตั้งขึ้น ระบุว่า พระปราโมทย์ ได้ประกาศงดรับกิจนิมนต์ในวันที่ 19 กันยายน และในวันที่ 26 กันยายน ที่โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งสถานที่อื่นๆ ด้วย 

 นายยุติศักดิ์ เอกอัคร นายอำเภอศรีราชา กล่าวว่า หลังได้รับคำสั่งจากนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าฯ ชลบุรี ให้เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมสวนสันติธรรม ก็ได้มอบหมายให้นายบุญเชิด สรแสง ปลัดอำเภอศรีราชา เป็นผู้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่ดินและเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องภายใน 7 วัน 

 ด้านนายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฐานะผู้ติดตามข่าวเกี่ยวกับสวนสันติธรรม บอกถึงความคืบหน้าการรวบรายชื่อให้ตรวจสอบพระปราโมทย์เพื่อเตรียมส่งให้ดีเอสไออีกครั้งว่า ยังมีอดีตลูกศิษย์พระปราโมทย์ส่งรายชื่อเข้าร่วมกับกลุ่มชาวพุทธรักศาสนาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะเข้าไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแล้ว กลุ่มจะเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีนี้ ด้วยการนำเอาพยานหลักฐานต่างๆ มาเปิดเผยต่อสาธารณชนถึงพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมของพระปราโมทย์ ตั้งแต่ยังไม่ได้บวชและหลังบวช

 "ตอนนี้ทางกลุ่มเก็บรวบรวมเอกสารได้มากแล้ว คาดว่าจะสามารถนำมาเปิดเผย รวมถึงยื่นให้ดีเอสไอในช่วงสัปดาห์หน้า และจะดูอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการวันใด นอกจากนี้ มีข่าวว่ามหาเถรสมาคมจะประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย" นายเทิดศักดิ์กล่าว