ข่าว

 แฉ"แก๊งซูมแผ่นผี"จ้างเด็กไฮเทค...ทำเจ๊ง7พันล้าน

แฉ"แก๊งซูมแผ่นผี"จ้างเด็กไฮเทค...ทำเจ๊ง7พันล้าน

17 ก.ย. 2553

"ผู้ผลิตหนังไทย" มีหน้าที่สร้างหนังดีๆ ทำรายได้โกยเงินให้ทะลุ 100 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่อีกด้านหนึ่ง "ผู้อำนวยการซูมหนังไทย" มีหน้าที่ค้นหากลยุทธ์ เพื่อพิชิตหนังไทยมาอยู่ในแผ่นผีซีดีเถื่อนอย่างรวดเร็ว ด้วยการซูมให้เร็วและชัดที่สุดเช่นกัน !!

 ธุรกิจมืดของแก๊งลักลอบแอบถ่ายหรือ "ซูม" หนังไทยจากโรงภาพยนตร์มาขายนั้น ไม่ใช่เรื่องจะทำกันง่าย ๆ หากอยากได้ผลงานดี ต้องครบเครื่องด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น มีไฮเทคโนโลยี มีเส้นสายเครือข่าย มีเด็กซูมมือดี และต้องมีนักเลงคุ้มกันด้วย สุดท้ายคือ มีนายทุนใจถึง กล้าทุ่มเงินซื้อหนังรอบแรกอย่างไม่อั้น

 คนทั่วไปอาจไม่รู้ว่าแผ่นหนังซีดีเถื่อนราคา 50-100 บาท ที่วางขายในตลาดนัด หรือแผงลอยร้านค้าทั่วไปนั้น แบ่งเป็น 2 ตลาดคือ ตลาดหนังฝรั่งกับตลาดหนังไทย สำหรับตลาดหนังฝรั่งนั้น ส่วนใหญ่จะก๊อบปี้มาจากต่างประเทศ ซื้อแผ่นปลอมมา 1 แผ่นแล้วปั๊มขายเลย แต่ก็มีแก๊งซูมหนังบางกลุ่มเจาะลูกค้าที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง โดยแก๊งนี้จะเลือกเข้าโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังฝรั่งพากย์ไทย เพื่อซูมให้ได้เวอร์ชั่นพูดภาษาไทย

  แต่ตลาดใหญ่และเป้าหมายทำเงินของแก๊งซูมหนังยังคงเป็น "หนังไทยรอบแรก" หมายความว่า วันที่หนังไทยเปิดตัวฉายในโรงภาพยนตร์วันแรก สมาชิกแก๊งซูมหนังพร้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคจะถูกส่งไปประจำตำแหน่งตามโรงภาพยนตร์เครือต่างๆ เช่น เมเจอร์ เอสเอฟ อีจีวี พร้อมภารกิจสำคัญ คือ ต้องแอบถ่ายหนังให้ชัดสุดในรอบแรกของวันแรกที่หนังเปิดตัว ก่อนจะนำไปปั๊มเป็นซีดีเถื่อนขายชนกับโรงภาพยนตร์ แบบที่เด็กขายซีดีถามว่า "แผ่นชนโรงไหมพี่ๆ ๆ ๆ"

 "อภิชาต คงชัย" รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ถอนหายใจก่อนตัดพ้อให้ฟังว่า กำหนดการเปิดตัวหนังไทยวันแรกส่วนใหญ่คือวันพฤหัสบดี โรงหนังทั่วประเทศจะฉายรอบแรกพร้อมๆ กันประมาณ 10.30-11.30 น. ถือเป็นรอบปฐมฤกษ์ที่แก๊งซูมหนังโปรดปราน เพราะลูกค้าไม่เยอะ เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ เมื่อซูมหนังได้ก็จะส่งให้ฝ่ายปั๊มซีดีเถื่อน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน ก็ผลิตวางขายได้ทั่วกรุงเทพฯ เมื่อแผ่นผีออกมาตั้งแต่วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ยอดขายตั๋วในโรงภาพยนตร์จะหดหายไปในทันที

  "รอบแรกฉายเสร็จ พวกซูมหนังจะส่งไปประกวดกัน คนที่ตัดสินใจคือนายทุนปั๊มซีดีเถื่อน เงินรางวัลล่อใจเริ่มตั้งแต่ 2-5 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับความดังและความแรงของหนังไทยเรื่องนั้น ตามปกติทุกอาทิตย์จะมีหนังไทยเปิดตัวใหม่อย่างน้อย 1 เรื่อง รวมเป็นปีละ 50 กว่าเรื่อง ทำให้พวกนี้มีรายได้ต่อเนื่องทุกอาทิตย์ ทำให้มีเงินลงทุนซื้ออุปกรณ์ไฮเทคใหม่ๆ ตลอดเวลา ล่าสุดเราจับได้ว่ามีการใช้กล้องรูเข็มติดกับกระดุมเสื้อหรือติดกับแว่นตา เพื่อเข้าไปแอบซูมหนัง เครื่องมือพวกนี้ตรวจจับได้ยาก แค่เจ้าหน้าที่ขออนุญาตเปิดกระเป๋าลูกค้าตรวจดูยังโดนด่า ถ้าขอค้นตัวลูกค้าคงเป็นปัญหาวุ่นวายกว่านี้"

 ผู้เชี่ยวชาญจับแก๊งซูมหนังประจำเมเจอร์ บอกว่า ในอดีตพวกนี้จะใช้กล้องวิดีโอแฮนดี้แคมทั่วไป ทำให้จับได้ง่าย แล้วก็เริ่มเปลี่ยนเป็นกล้องวิดีโอขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ ซึ่งก็พอจะค้นกระเป๋าเจอ แต่ปัจจุบันที่นิยมใช้จะเป็น "กล้องรูเข็ม" หรือที่เรียกว่า "กล้องสปายแคม" กับ "กล้องโทรศัพท์มือถือ" เพราะมือถือรุ่นใหม่มีช่องให้ใส่เมโมรี่การ์ด หรือหน่วยความจำเพิ่มเติม การถ่ายหนัง 2 ชั่วโมงจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป ฝ่ายอำนวยการต้องคอยอัพเดทหรือถ่ายทอดเรื่องราวของอุปกรณ์ไฮเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เจ้าหน้าที่ประจำโรงหนังทั่วประเทศได้รับรู้ตลอดเวลา เพื่อให้ทันเกมแก๊งซูมหนังเจ้าเล่ห์ !?!
 
 แต่ปัญหาใหญ่ที่สร้างความปวดหัวให้เจ้าหน้าที่คือ การใช้เด็กวัยรุ่นหรือเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มาฝึกให้ซูมหนัง เพราะถ้าเกิดพนักงานจับได้แล้วส่งตำรวจ เด็กเหล่านี้จะได้รับโทษตามกฎหมายน้อยมาก ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่โดนโทษหนักกว่าหลายเท่า และค่าจ้างก็ถูกเพียง 1-2 หมื่นบาท เด็กๆ ก็แฮปปี้แล้ว กลุ่มเด็กซูมหนังจะมากันหลายคน ช่วยกันนั่งปิดๆ บังๆ ถ้าพนักงานเข้ามาซักถามก็จะรุมโวยวาย ทำให้ตรวจจับได้ยากขึ้น กลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก

 "ในแต่ละปีเครือเมเจอร์จับแก๊งซูมหนังได้หลายสิบคน แต่ปัญหาคือ ขบวนการพิจารณาลงโทษ เพราะต้องส่งให้ตำรวจแล้วก็ส่งศาล ส่วนใหญ่จะปรับเงินไม่กี่บาทแล้วปล่อยไป พวกนี้มีเครือข่ายผู้มีอิทธิพลดูแล การปราบปรามไม่ค่อยได้ผล ได้ยินข่าวว่าจะมีกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการควบคุมแอบถ่ายในโรงหนัง ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าไม่น่าจะได้ผลอะไรมากนัก ถ้าตำรวจไม่เอาจริง เราตามจับแทบตายส่งให้ตำรวจ สุดท้ายเขาก็ปล่อยไป คดีเงียบหาย" อภิชาติกล่าวทิ้งท้าย

 ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในแต่ละปีมีการละเมิดลิขสิทธิ์ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยหลายด้าน สร้างความเสียหายสูงถึงปีละ 7.3 พันล้านบาท นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวไว้เมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ คณะกรรมการทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ ได้ยกร่าง "พ.ร.บ.แอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ พ.ศ...." เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนผ่านการเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะผลักดันให้มีผลบังคับใช้ภายในปี 2553 

 สาระสำคัญของร่าง "พ.ร.บ.แอบถ่ายฯ" คือ หากผู้ใดบันทึกภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์โดยมิชอบ (ซึ่งหมายถึงคนลักลอบซูมหนัง)ให้ถือว่ามีความผิด และมีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ถ้าทำผิดร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1-8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 กรณีที่แก๊งซูมหนังนิยมจ้างเด็กวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปีนั้น กฎหมายฉบับนี้เตรียมแก้ลำ โดยกำหนดว่า หากผู้ใดบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมหรือใช้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะโดนโทษหนักเพิ่มเป็น 2 เท่า

 สุดท้ายนี้ คงต้องรอดูผลงานของตำรวจ เพราะคนช่วยจับก็มีแล้ว กฎหมายก็มีแล้ว หากแก๊งซูมหนังยังทำงานได้อย่างลอยนวล ผู้ผลิตหนังไทยคงต้องเปลี่ยนจากบทลงโทษในกฎหมาย เป็นเพิ่มเงินรางวัลให้ตำรวจแทน !??