
ศาลสหรัฐตัดสินจำคุกหมอไทยตระกูลดัง6เดือน
ฐานทำแท้งแล้วคนไข้เสียชีวิต พร้อมเงินชดใช้เหยื่อ 62 ล้านบาท แถมสั่งถอดใบประกอบโรคศิลปะ-ห้ามยุ่งเกี่ยวการสอนเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์อีกต่อไป
เมื่อวันที่ 15 กันยายน สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ศาลสหรัฐมีคำพิพากษาจำคุก นพ.ระพินทร์ โอสถานนท์ สูติแพทย์ชาวไทย และนักวิจัยประจำวิทยาลัยการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อายุ 67 ปี เป็นเวลา 6 เดือน ในข้อหาทำแท้งให้แก่คนไข้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2550 ทั้งนี้ เกี่ยวกับคดีดังกล่าวศาลสูงบาร์นสเตเบิล ในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เริ่มการพิจารณาคดีการเสียชีวิตของนางลอร่า โฮป สมิธ อายุ 22 ปี เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา โดยนพ.ระพินทร์สารภาพว่า ทำให้นางสมิธเสียชีวิต ศาลจึงตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 เดือน แต่ นพ.ระพินทร์ถูกกักขังระหว่างรอการพิจารณาคดีแล้ว 24 เดือน จึงเหลือโทษจำคุกเพียง 6 เดือน ทำให้มีโอกาสได้รับพิจารณาทัณฑ์บนหลังจากถูกจำคุกไปแล้ว 3 เดือน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังจาก นพ.ระพินทร์รับโทษจำคุกครบกำหนด 3 เดือน จะต้องถูกติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว เพื่อกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลา 9 เดือน นอกจากนี้ยังถูกถอดใบประกอบโรคศิลปะ รวมถึงห้ามสอนเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์อีกต่อไป
ส่วนที่มาของการเกิดคดีดังกล่าวนั้น รายงานระบุว่า ขณะเกิดเหตุนางสมิธตั้งท้องได้ 13 สัปดาห์ ต่อมาได้เข้าพบ นพ.ระพินทร์ เพื่อขอทำแท้งที่สำนักงานที่เมืองเคปคอด ก่อนจะเสียชีวิตในวันต่อมาคือวันที่ 13 กันยายน 2550 โดยอัยการตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยประมาท พร้อมกล่าวหา นพ.ระพินทร์ไม่ได้ดูแลผู้ป่วยอย่างดีขณะที่ผู้ป่วยสลบ และยังเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินมาช่วยล่าช้าเมื่อหัวใจของนางสมิธหยุดเต้นไป อีกทั้งยังพยายามปกปิดความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันหลังเกิดเรื่องราว นพ.ระพินทร์ได้ตัดสินใจขอยกเลิกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะของตนเองในวันเดียวกับที่คณะกรรมการพิจารณาการออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ตั้งข้อกล่าวหารุนแรงหลายข้อหาเกี่ยวเนื่องกับพฤติกรรม โดยคณะกรรมการระบุว่า นพ.ระพินทร์ไม่ได้ตรวจสอบหัวใจของนางสมิธ และยังไม่มีอุปกรณ์ให้ออกซิเจนหรือเครื่องวัดความดันโลหิตอยู่ในห้องขณะทำแท้งให้นางสมิธ และกล่าวหาว่าไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและไม่เรียกรถพยาบาลในเวลาที่ควร
ด้าน นายพอล ไคเรล ทนายความของ นพ.ระพินทร์ เปิดเผยว่า ลูกความรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตของนางสมิธ โดยก่อนหน้านี้ลูกความเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษที่ 1960 และทำแท้งอย่างปลอดภัยให้แก่หญิงสาวหลายพันคน ก่อนที่จะทำให้นางสมิธเสียชีวิต
ขณะที่ นายเดวิด อันกีรา ทนายความของครอบครัวนางสมิธ กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งให้ นพ.ระพินทร์ชดใช้ในทางแพ่งให้แก่ผู้เสียหายเป็นมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 62 ล้านบาท