ข่าว

 "อดีตนางงามโบลิเวีย เส้นทางสายวิบากที่เลือกเดิน"

"อดีตนางงามโบลิเวีย เส้นทางสายวิบากที่เลือกเดิน"

12 ก.ย. 2553

"แม่เห็นว่า ฉันเอาแต่บ้าเล่นกีฬา ไม่มีความเป็นผู้หญิง ก็เลยส่งเข้าคอร์สนางแบบตอนอายุ 16 ซึ่งฉันก็ชอบนะ" ปูมหลังสั้นๆ ของ เจสสิก้า แอน จอร์แดน เบอร์ตัน อดีตนางงามโบลิเวียคนนี้ ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าสุดท้าย เธอจะเข้ามาคลุกคลีกับการเมืองโบลิเวีย

จอร์แดน เกิดที่เขตซอมเมอร์เซ็ต เมืองบาธ ประเทศอังกฤษ พ่อเป็นวิศวกรน้ำมันชาวอังกฤษ แม่เป็นชาวโบลิเวีย เด็กหญิงจอร์แดนย้ายตามแม่กลับไปโบลิเวียหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน ได้สวมมงกุฎนางงามโบลิเวียเมื่อปี 2549  เพียง 4 ปีต่อมา อดีตนางแบบและอดีตนางงามกลับกลายเป็นผู้รับผิดชอบด้านการพัฒนาจังหวัดเบนี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโบลิเวีย

 เบนี เป็นพื้นที่ที่ได้ชื่อว่ายากจนข้นแค้น ส่วนหนึ่งเพราะบริการและโครงสร้างพื้นฐานไม่พัฒนา และโคเคนคือธุรกิจครอบงำเศรษฐกิจท้องถิ่น

 แต่ละวัน จอร์แดนจะออกตรวจเยี่ยมพื้นที่ต่างๆ ในเมือง พบปะพูดคุยกับผู้คนในหลายแวดวง ก่อนทำรายงานเสนอแนะไปยังรัฐบาลกลางว่า ควรจะลงทุนที่ไหนและอย่างไรบ้าง ก่อนตัดสินใจจัดสรรงบประมาณด้านพัฒนา 700 ล้านดอลลาร์

 เส้นทางสู่การเมืองของจอร์แดน น่าจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนเตรียมตัวไปประกวดนางงามจักรวาล ซึ่งทำให้เธอได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดีของประเทศ อีโว โมราเลส และเธอรู้สึกประทับใจมาก

 "ฉันบอกกับท่านว่า รู้สึกชื่นชมในความสำเร็จของท่าน" จอร์แดนย้อนให้ฟังและว่า โมราเลสเป็นคนที่เคยจนสุดๆ แต่ตอนนี้ได้เป็นถึงประธานาธิบดี

 จอร์แดนพลาดมงกุฎนางงามจักรวาล แต่เธอได้รับการสนับสนุนจากนายโมราเลส ที่ในเวลาต่อมา ได้ยุให้เธอลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการจังหวัดเบนี แข่งกับนายเอร์เนสโต ซอเรส ซึ่งทุกคนรู้ดีว่ามันยากมาก และผลก็ออกมาตามนั้น เธอพ่ายไปด้วยเสียงต่างกัน 2,900 คะแนน แต่ก็ต้องถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่สูสีพอสมควร

 หลังแพ้เลือกตั้ง ประธานาธิบดีโมราเลสได้ชวนจอร์แดนไปนั่งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาจังหวัดเบนี เธอตอบรับเพราะถือว่าตนเองก็มีความชอบธรรมระดับหนึ่งด้วยได้คะแนนเสียงตอนเลือกตั้ง 40%

 แต่การแต่งตั้งครั้งนี้ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาจังหวัดเบนี เป็นตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งจะมีขึ้นมาหลังจากที่จอร์แดนแพ้เลือกตั้ง และถูกตั้งคำถามว่าตั้งขึ้นมาเพื่อแข่งบารมีกับผู้ว่าการที่มาจากการเลือกตั้งและมาจากพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ นอกจากนี้ จอร์แดนยังถูกวิจารณ์เรื่องไม่มีประสบการณ์การเมืองมาก่อน มีแต่รูปโฉมและชื่อเสียง

 จอร์แดนมิได้หวั่นไหว เธอบอกว่าบางที การเลือกที่รักมักที่ชัง ก็มีสาเหตุเพียงแค่ คุณยังอ่อนหัดเกินไป คุณเป็นผู้หญิง เสียงวิจารณ์นั่นมีแต่เรื่องภายนอก มันเคยส่งผลกระทบต่อเธอบ้างในตอนเริ่มต้น แต่ตอนนี้ไม่มีการพูดถึงอีกต่อไป เพราะเธอได้พิสูจน์แล้วว่าเธอทำได้ และกำลังทำอยู่

 จอร์แดนบอกว่าตัวอย่างจากประธานาธิบดีโมราเลส แสดงให้เห็นแล้วว่าคนที่มีความรักต่อประเทศของตนเอง สามารถทำอะไรๆ ได้มากกว่าคนที่คิดแต่ตอบสนองความทะยานอยากของตนเอง

 และหากจะมาติติงเรื่องของประสบการณ์ จอร์แดนก็มักโต้ว่า ถ้าเช่นนั้นช่วยบอกหน่อยว่า ประสบการณ์ของคนที่ทำงานให้แก่จังหวัดเบนีมานานเป็นสิบปีอยู่ที่ไหน เพราะจนถึงขณะนี้ พวกเราก็ยังไม่มีบริการพื้นฐานที่ควรจะมีเลย เศรษฐกิจก็ย่ำแย่ ทั้งที่เรามีทรัพยากรธรรมชาติมากมายที่เราสามารถทำให้มันออกดอกออกผลได้    

 จอร์แดนฝันสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่จังหวัด แต่นั่นหมายถึงเธอจะต้องประสบความสำเร็จในการกวาดล้างการตัดไม้ทำลายป่า การทำเหมืองและยากที่สุดคือ การค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย

 การตั้งสาวสวยวัย 26 มานั่งตำแหน่งที่จะต้องต่อกรกับแก๊งค้ายา นอกจากสร้างความตื่นตะลึงให้แก่คนโบลิเวียแล้ว ยังทำให้นานาชาติหันมามองสถานการณ์ยาเสพติดในโบลิเวียอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่สหรัฐและสหประชาชาติ ประเมินว่ามีการปลูกโคคาผิดกฎหมายในโบลิเวียประมาณ 87,500 ไร่ มีรายงานว่า การผลิตโคเคน กำลังกลายเป็นแหล่งรายได้ใหญ่อันดับสามของโบลิเวีย รองจากก๊าซและการทำเหมือง

 เมื่อไม่นานมานี้ บาทหลวงบาเลนติน เมคีโยเนส ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองอินเดียนไอมาราเช่นเดียวกับประธานาธิบดีโมราเลส และเป็นผู้ให้ศีลให้พรนายโมราเลสในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี ถูกจับกุมพร้อมกับชาวโคลัมเบียสองคน และโคเคนเหลวของกลาง 240 กิโลกรัม กลายเป็นเรื่องที่สร้างความอับอายอย่างยิ่งให้แก่ประธานาธิบดี

 นายโมราเลส ซึ่งเคยเป็นเกษตรกรปลูกโคคา เคยขับเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสหรัฐสองคนออกจากประเทศ โดยยืนยันว่านโยบายของตนที่อนุโลมให้เกษตรกรปลูกใบโคคาเพื่อใช้ทางการแพทย์และสืบสานประเพณีท้องถิ่น จะช่วยแก้ปัญหายาเสพติดได้ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้ยอมรับว่าการทดลองของตนเองที่ว่านี้ซึ่งเป็นการตีจากนโยบายการกวาดล้างที่สหรัฐเป็นสปอนเซอร์ให้ กำลังมีปัญหา

 แล้วสตรีผู้มีประสบการณ์น้อยนิดจะทำอะไรได้ เสียงวิจารณ์ดุเดือดจากฝ่ายค้านดังขึ้นตลอดเวลา แต่ดูเหมือนไม่มีใครตั้งคำถามเรื่องความกล้าหาญของเธอ

 แต่ไม่ว่าเสียงติติงจะดุเดือดแค่ไหน คงเทียบไม่ได้เลยกับความเสี่ยงที่ผู้หญิงคนนี้ต้องเผชิญขณะพยายามสะสางปัญหายาเสพติดที่เกาะกินจังหวัดแห่งนี้มานาน  เพราะทันทีที่แตะเรื่องนี้ นั่นหมายถึงเธอก็มีศัตรูรอเล่นงานอยู่ 

 "แน่นอน ชีวิตฉันตกอยู่ในอันตราย ความพยายามลอบฆ่ามาพร้อมกับงานนี้ แต่ฉันคิดว่า ที่เสี่ยงมากกว่าคือเมืองของเธอ คนเราเกิดมาตายหนเดียว เราจะต้องทำงานให้ดีที่สุดเพื่อทิ้งสิ่งดีๆ เอาไว้เบื้องหลัง เพราะตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้" จอร์แดนกล่าว

 จอร์แดนไม่ห่วงชีวิตตัวเองก็จริง แต่ครอบครัวแทบนอนไม่หลับ ทุกครั้งที่เห็นข่าวของหลานในทีวี คุณยายของจอร์แดนซึ่งอยู่ในอังกฤษได้แต่พร่ำบอกให้ระวังตัว และสารภาพว่า ดีใจที่หลานแพ้เลือกตั้ง

 แต่คุณยายหารู้ไม่ว่าอาจจะต้องหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้งใน 2 ปีครึ่งข้างหน้า เมื่อหลานสาวกำลังนั่งนับวันนับคืนเมื่อไหร่ผู้ว่าการจังหวัดคนปัจจุบันจะหมดวาระ เพราะเธอมีแผนจะลงชิงตำแหน่งผู้ว่าการเมืองอีกครั้งหนึ่ง

 การเปรียบเทียบจอร์แดนกับซินเดอเรลลาภาคพิสดาร คงจะไม่เกินเลย ด้วยว่าเธอเกิดในครอบครัวมีอันจะกิน  ไปร่ำเรียนในไมอามี สหรัฐอเมริกา ไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุดในซาร์ดิเนียแหล่งตากอากาศอันเลื่องชื่อในอิตาลี เคยเป็นนางแบบโลดแล่นบนแคทวอล์ก แต่มาวันนี้ กลับต้องเดินย่ำอยู่บนพื้นดินเฉอะแฉะ ดูแลการสร้างโรงเรียน สร้างถนน แต่เจ้าตัวเหมือนจะพอใจกับการเริ่มยอมรับของผู้คนว่า รูปโฉมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการที่ได้มายืนตรงนี้อีกต่อไป เธอได้พิสูจน์แล้วว่าเธอทำได้

อุไรวรรณ นอร์มา
ที่มา : เดอะ การ์เดียน, บีบีซี