
จับอดีตนักกรีฑาทีมชาติฆ่ากิ๊กหมกป่าหนีผิด
จับอดีตนักกรีฑาทีมชาติ ลวงกิ๊ก ม.6 ซ้อน จยย.จากลำพูนไปนอนในกระท่อมกลางป่าเชียงใหม่ ยัวะสาวหึงหวงคว้าไม้ฟาดหัวดับ ถอดชุดนักเรียนเผา อุ้มร่างเปือยฝังริมห้วยอำพรางคดี ตร.สืบ 6 เดือนเจอหลักฐานมัด จนมุมสารภาพหมดเปลือก อ้างคิดฆ่าตัวตามแต่ใจไม่กล้าพอ
เหตุพิศวาสฆาตกรรมอำพรางหนุ่มเชียงใหม่สังหารโหดนักเรียนสาวรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 กันยายน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน (ผบก.ภ.จว.ลำพูน) พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยทีมสืบสวน บก.ภ.จว.เชียงใหม่ และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ควบคุมตัวว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ปู่ทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ 1 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ไปยังป่าสน บริเวณหมู่ 9 ต.บ่อหลวง เพื่อขุดหาศพ น.ส.รุ่งนภา ไชยวงศา อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 ต.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ อ.เมือง จ.ลำพูน
คดีนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ฆ่า น.ส.รุ่งนภา จากนั้นนำไปฝังที่ริมห้วยกลางป่าสน ห่างจากถนนเชียงใหม่-แม่สะเรียง ประมาณ 4 กิโลเมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ขุดหาศพพบเพียงโครงกระดูก ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว ที่กะโหลกศีรษะมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนยุบและแตกหลายจุด หลังตรวจสอบแพทย์นิติเวชเก็บรวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย พาเจ้าหน้าที่ไปยังกระท่อมกลางป่า ห่างจากจุดพบโครงกระดูกประมาณ 4 กิโลเมตร โดยระบุว่าเป็นจุดลงมือฆ่า น.ส.รุ่งนภา เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานเป็นคราบเลือด พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พ.ต.ท.นริช สอนดิษฐ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ลำพูน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา นายสมาน ไชยวงศา อายุ 41 ปี พ่อของ น.ส.รุ่งนภา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ว่าลูกสาวหายตัวไปหลังเลิกเรียนวันที่ 15 มีนาคม โดยเพื่อนของลูกสาวบอกว่าเห็น น.ส.รุ่งนภาไปกับว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย
ต่อมาทีมสืบสวนพยายามแกะรอยกระทั่งมีหลักฐานเชื่อมโยงว่า น.ส.รุ่งนภาไปกับว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยในวันดังกล่าว จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.60/2553 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2553 ในข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจ และได้จับกุมดำเนินคดีได้ในวันเดียวกัน แต่ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย ไม่ยอมบอกที่อยู่ของ น.ส.รุ่งนภา อ้างว่าไม่เจอกันมานานหลายเดือนแล้ว
กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 6 กันยายน เรือนจำกลางลำพูนได้ปล่อยตัวว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัย เนื่องจากอัยการทำฟ้องไม่ทัน แต่ตำรวจมั่นใจว่าผู้ต้องหาต้องมีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปนานเกือบ 6 เดือนของ น.ส.รุ่งนภา จึงคุมตัวจากเรือนจำมาสอบสวนอีกครั้ง เมื่อถูกเค้นอย่างหนักตลอดทั้งคืน ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยจึงยอมสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า น.ส.รุ่งนภา แล้วนำศพไปฝังไว้กลางป่า
จากการสอบสวน ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยให้การว่า เรียนจบปริญญาตรีจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อดีตเคยเป็นนักกรีฑาทีมชาติ ประเภทวิ่งมาราธอน ลงแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตนักกีฬารักบี้เยาวชนทีมชาติ และนักมวยปล้ำทีมชาติ ต่อมาได้ทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ ที่โรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่
"ก่อนหน้านี้ผมมีเมีย 3 คน มีลูก 2 คน เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้รู้จักกับ น.ส.รุ่งนภา เนื่องจากโทรศัพท์มาผิดเบอร์ จึงเริ่มชวนคุยและคบหากัน ต่อมาวันที่ 15 มีนาคม น.ส.รุ่งนภาโทรศัพท์ให้ไปรับที่หน้าโรงเรียนจึงยืมรถจักรยานยนต์เพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลสวนปรุงขี่ไปรับ มายังหอพักของผมที่ถนนสามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แต่เมียมาเห็นจึงมีปากเสียงกัน ผมจึงพา น.ส.รุ่งนภาขี่รถออกไป ตั้งใจจะไปส่งที่บ้านใน อ.ป่าซาง จ.ลำพูน แต่ น.ส.รุ่งนภาไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อไม่มีที่ไป ผมจึงขี่รถพาไปที่บ้านใน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ แต่เมียอีกคน และลูก 2 คนอยู่ที่บ้าน จึงพา น.ส. รุ่งนภาไปนอนค้างในกระท่อมกลางป่าซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ" ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยกล่าว
ผู้ต้องหารายนี้กล่าวอีกว่า หลังจากนอนค้างในกระท่อมถึงเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 16 มีนาคม ได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับ น.ส.รุ่งนภา เนื่องจากฝ่ายหญิงเกิดอาการหึงหวง จึงเดินออกจากกระท่อม แต่ น.ส.รุ่งนภาวิ่งมาฉุดเอาไว้ ด้วยความโมโหจึงคว้าท่อนไม้ตีที่ศีรษะจนแน่นิ่ง จากนั้นอุ้มร่างไปนอนกอดไว้จนรุ่งเช้าจึงรู้ว่า น.ส.รุ่งนภาเสียชีวิตแล้ว
"ผมตัดสินใจถอดชุดนักเรียนของ น.ส.รุ่งนภาออกทุกชิ้น แล้วอุ้มร่างเปลือยเปล่าออกจากกระท่อมไปฝังไว้ริมห้วยห่างจากกระท่อมราว 4 กิโลเมตร เพื่อหนีความผิด ก่อนกลับมาเผาเสื้อผ้าของ น.ส.รุ่งนภา และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุมในที่สุด" ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ภาณุเดชกล่าวว่า ระหว่างที่ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยอยู่ในเรือนจำ ทีมสืบสวน บก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ บก.ภ.จว.ลำพูน ทำงานร่วมกันอย่างหนัก ในการสืบหาพยานหลักฐานหลายอย่างที่ยืนยันว่า ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยมีส่วนในการหายไปของ น.ส.รุ่งนภา จึงตัดสินใจคุมตัวไปสอบสวนทันที หลังพ้นประตูเรือนจำ ว่าที่ ร.ต.เฉลิมชัยบอกด้วยว่าหลังลงมือฆ่า น.ส.รุ่งนภา ตั้งใจกินยาตายตามแต่ไม่กล้า