ผวจ.นราฯรับครูใต้เสียขวัญหนักวันเดียวถูกยิง2ศพ | คมชัดลึก

(7ก.ย.) นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.นราธิวาส  เปิดเผยว่า ภายหลังต้องสูญเสียครูถึง 2 รายในวันเดียวกันทำให้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการประชุมหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงเพื่อเร่งหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ยอมรับว่าสะเทือนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการครูที่ต้องได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม

 "ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อขวัญกำลังใจของครูในพื้นที่อย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นได้คุยกับแกนนำครูบางส่วนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อเสนอต่างๆที่พอจะช่วยให้คุณครูมีขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับภาวะความเสี่ยงที่ต้องทำหน้าที่เป็นพ่อพิมพ์และแม่พิมพ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้และปลอดภัยที่สุด " นายธนน กล่าว

 สำหรับประเด็นการปิดโรงเรียนชั่วคราวนั้นเป็นอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษานั้นๆที่กำหนดวันเวลา หรือ มาตรการต่างๆได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีการปิดเรียนอย่างน้อย 3 วันซึ่งในระหว่างนี้อาจต้องเรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อกำหนดแผนและมาตรการดูแลความปลอดภัยใหม่อีกครั้ง

โจรใต้ตัดต้นยางชาวนราฯเจ้าของเหยียบระเบิดบาดเจ็บ
 
 เมื่อเวลา 09.45 น.เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดชาวบ้านได้รับบาดเจ็บที่บริเวณภายในสวนยางพาราบ้านป่าไผ่ หมู่ 5 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยคนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องแบบกับดักเหยียบ น้ำหนักประมาณ 1-2 กก.ฝังไว้บริเวณหัวมุมข้างรั้วในสวนยางพารา พบหลุมระเบิดและเศษชิ้นส่วนของสะเก็ดระเบิดจำนวนหนึ่งจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

 ส่วนผู้บาดเจ็บชาวบ้านได้นำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ทราบชื่อคือนายดำ ไตรรัตน์ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 5 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ถูกระเบิดที่ข้อเท้า  จากการสวบสวนเบื้องต้นทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้ายเข้าไปลักลอบตัดทำลายต้นยางพาราของนายดำได้รับความเสียหายจำนวนมาก ช่วงเช้านายดำพร้อมด้วยลูกสาว ได้เข้าไปดูต้นยางพาราที่ถูกคนร้ายตัดทำลายทิ้งด้วยความเสียดาย ขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปที่สวนจึงได้เหยียบระเบิดที่คนร้ายฝังไว้จนเกิดเหตุระเบิดขึ้นทำให้ นายดำได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ยิงนักการภารโรงปัตตานีครูผวาปิดโรงเรียน
   
           เมื่อเวลา 04.10 น.วันที่ที่ 7 กย. ร.ต.ท.ธวัชชัย คงมั่น ร้อยเวร สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุเผารถจักรยานยนต์ ที่ข้างบ้านเลขที่ 1/5 ม.1 บ้านน้ำบ่อ ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ ริมถนนในหมู่บ้าน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยกำลังทหาร ตำรวจ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า ชาวบ้านได้ช่วยกันเอาน้ำราดจนไฟดับแล้ว ก่อนเข้าไปอาจเป็นกลลวงของคนร้าย จึงได้ประสานชุดเชี่ยวชาญเก็บกู้วัตถุระเบิด และชุดตัดสัญญาน รวมทั้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี

                  หลังจากตัดสัญญานจึงเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าพบรถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นรถยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน สีดำขาว ทะเบียน กลง ปัตตานี 230 และอีกคัน ยี่ห้อออนด้า เวฟไอ สีดำ ทะเบียน กยง ปัตตานี 478ถูกเผาเสียหายทั้งหมด

                 จากการสอบสวนทราบว่า บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านของนายมาฮามัด มะลี อายุ 21 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และเป็นพนักงานขับรถของ อบต.น้ำบ่อ พักอยู่กับพี่สาว ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟไอ เดินทางกลับมาจากเข้าเวรที่ อบต.เพื่อกลับบ้านรับประทานอาหารเตรียมถือศิลอดในวันรุ่งขึ้น โดยจอดตั้งไว้ที่เกิดเหตุ ซึ่งมีรถอีกคันของพี่สาวตั้งอยู่แล้ว

                 ขณะที่กำลังจะกินข้าว ได้กลิ่นไหม้และควันคลุ้งที่ข้างบ้านออกมา เห็นรถจยย.ไฟไหม้ จึงตะโกนเรียกชาวบ้าน แต่ยังไม่กล้าออกมา กลัวคนร้ายซุ่มยิง เมื่อเห็นชาวบ้านช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟ ก็ได้ลงมาช่วยดับด้วยประมาณ 15 นาที ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ทั้ง2 คันเสียหายใช้การไม่ได้ ซึ่งคนร้ายก็ไม่มีใครเห็น เชื่อว่าคนร้ายได้ดักรออยู่แล้ว พอกลับมา คนร้ายก็ดึงท่อน้ำมันออก จากนั้นจุดไฟเผาดังกล่าว ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการก่อกวนของกลุ่มร้ายที่พยายามสร้างสถานการณ์ใต้

              ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.อ.อำนาจ ดี ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย ที่หน้าโรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น ม. 5 บ้านชะเมาสามต้น ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงพร้อมกำลังตำรวจ ทหาร ฉก.ปัตตานี 26และ อาสาสมัคร เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

               ปรากฏว่าเป็นที่มืดและเปลี่ยว ส่วนประตูทางเข้าหน้าโรงเรียนพบคนเสียชีวิตนอนอยู่ ทราบชื่อว่า นายมาหามะ สาและ อายุ 55 ปี นักการภารโรงโรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น อยู่บ้านเลขที่ 56/1 หมู่ที่ 1 ต . เตราะบอน อ . สายบุรี จ . ปัตตานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสั้น 9 มม.เข้ากลางหลัง รวม 3 นัด ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 9 มม. 3 ปลอก
 
              จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นภารโรง ที่ขยัน ชอบอยู่ที่โรงเรียน และยามค่ำคืนมักจะมาดูและเฝ้าโรงเรียน พร้อมกับ ชรบ. แต่ช่วงถือถือศิลอดมาไม่แน่นอน วันเกิดเหตุ ได้เดินทางเพื่อตรวจดูโรงเรียน พอถึงหน้าประตู ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มอยู่บริเวณป่าละเมาะ เมื่อได้โอกาสคนร้ายได้มาด้านหลังผู้ตาย จากนั้นกระหน่ำยิงกลางหลัง 4 นัด เป็นเหตุให้ภารโรงเสียชีวิตทันที ส่วนคนร้ายหลบหนีไป
 
               ผู้สื่อข่าวปัตตานีรายงานว่า จากเหตุที่มีคนร้ายยิงภารโรงเสียชีวิต ทำให้บรรดาครูต่างๆที่สอนในโรงเรียน ทราบข่าว มีภารโรงถูกยิงหน้าโรงเรียน ทำให้ครูขัวญเสีย และหวาดกลัวที่จะมาสอนในโรงเรียน จึงไม่มาโรงเรียน ทำให้ โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนโดยปริยาย ส่วนเด็กนักเรียนทราบข่าวจึงเดินทางกลับ แต่ก็ยังไม่มีกำหนดเปิด

                    ส่วนอีกรายผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พ.ต.อ.อำนาจ ดี ผกก.สภ.สายบุรี พร้อมกำลังเดินทางกลับ สภ.สายบุรี ระหว่างทาง ก็ได้รับรายงานอีกว่ามีเหตุยิงกัน หน้าบ้านเลขที่ 75/1 บ้านช่องแมว หมู่ที่ 4 ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกราย พบผู้เสียชีวิตตายจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ทราบชื่อว่า นายสะรี เจะหะ อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม อาก้า เข้าบริเวณหน้าอก และใบหน้า เสียชีวิต ห่างที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 12 ปลอก

 จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ผู้ตาย กำลังยืนเล่นอยู่หน้าบ้าน เพื่อเตรียมจะไปละหมาด ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ซุ่มอยู่ป่าละเมาะข้างทาง ได้ใช้อาวุธปินอาก้า กราดยิงจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป ส่วนสาเหตุอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือสถานการณ์ใต้

โจรใต้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงรถตำรวจสภ.ท่าธง

 เมื่อเวลา 11.26 น.ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายซุ่มยิงรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของสถานีตำรวจภูธรท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายยะลา – บ้านโต๊ะปาเก๊ะ ม.13 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา  หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.อุดม หลวงเทพ สารวัตรเวรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลาได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะสายตรวจของ สภ.ท่าธง อ.รามัน หมายเลขทะเบียน ชผ.100 4 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนน โดยมี ส.ต.ท.รัตนะ เมฆใหม่ และ ส.ต.ต.สุรชาติ สังข์สิงห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าธง ยืนรออยู่ข้างรถที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบว่า รถยนต์สายตรวจถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่บริเวณโคมไฟหน้าได้รับความเสียหาย ส่วนตำรวจทั้ง 2 นายไม่ได้รับบาดเจ็บ

 สอบสวนทราบว่า ขณะที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ขับรถยนต์สายตรวจกลับจากทำภารกิจในตัวเมืองยะลา และกำลังมุ่งหน้ากลับไปยังสถานีตำรวจภูธรท่าธง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ  คนร้ายไม่ทราบจำนวน ซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่รถยนต์คันดังกล่าวขณะขับผ่าน  เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วม RKK ชุดใหม่ ที่ก่อเหตุเพื่อเตรียมสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ในช่วงเทศกาลฮารีรายอ