ข่าว

หนุ่มบินไทยซิ่งเก๋งเสยท้ายกระบะเรือเอกดับ

หนุ่มบินไทยซิ่งเก๋งเสยท้ายกระบะเรือเอกดับ

04 ก.ย. 2553

เรือเอกลูกประดู่พาครอบครัวรวม 5 ชีวิต นั่งกระบะมุ่งหน้าเข้าจังหวัดโคราช ระหว่างทางถูกเก๋งหนุ่มการบินไทยพุ่งเสยท้าย ตกข้างทางอัดก๊อปปี้เสาไฟฟ้าขาดสองท่อน พี่สาวภรรยาดับคาที่ ส่วนที่เหลือเจ็บยกคัน

(4ก.ย.) เวลา 05.45 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท กม.179 เส้นทางสัตหีบ - ระยอง บริเวณหน้าร้านเซ็นทรัลคลีนปาร์คคาแคร์ ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็ก สีบอร์นทอง ทะเบียน บพ-1466 ระยอง พุ่งชนอัดก๊อปปี้ติดคาอยู่กับเสาไฟฟ้าสภาพพังยับเยิน ส่วนผู้โดยสารที่นั่งมาในรถจำนวน 5 ราย พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยเหลือนำตัวออกมาจากตัวรถทราบชื่อคือ เรือเอก ปรีชา ฉ้วนกลิ่น อายุ 42 ปี สังกัด กองพันรถสะเทือนน้ำสะเทือนบก กองพลนาวิกโยธิน คนขับ นางสินใจ ฉ้วนกลิ่น อายุ 41 ปี ด.ญ. กมลวรรณ ฉ้วนกลิ่น อายุ 5 ขวบ นางถนอม พลหนองคูณ อายุ 58 ปี และนางพะเยา สัตตะพันธ์ อายุ 49 ปี อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล

 เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล และนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ นอกจากนี้ที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์เก๋ง นิสสัน รูเบริ์ด สีน้ำงเงิน ทะเบียน 6ธ - 5104 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างทางสภาพด้านหน้าซ้ายพังยับเยิน โดยมี สิบเอก มณฑล โหราศาสตร์ อายุ 47 ปี พนักงานการบินไทย เป็นคนขับ

 จากการสอบถาม เรือเอกปรีชา คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า ขณะที่พาครอบครัวนั่งรถออกจากบ้านพักในแฟลตส่วนกลางฐานทัพเรือสัตหีบ เดินทางไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดโคราช โดยมีภรรยาและบุตรสาวนั่งหน้า ส่วนที่เหลือนั่งอยู่ในแคป ขณะที่รถได้วิ่งออกมาได้เพียง 5 กิโลเมตร มาถึงที่เกิดเหตุขณะนั้นรถได้วิ่งอยู่ในเลนซ้าย ได้มีรถยนต์เก๋งของ สิบเอกมณฑล วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนบริเวณด้านท้ายรถอย่างจัง ทำให้รถเสียหลักพุ่งตกข้างทางอัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้าอย่างยังจนขาดสองท่อน แต่นับเป็นความโชคดีที่รถได้ค้ำยันเสาไฟฟ้าไม้ให้หักโค่นลงมาทับ ไม่เช่นนั้นอาจต้องสูญเสียมากกว่านี้อย่างแน่นอน