ชมรมผลิตสบู่บ้านป่าใหม่... สานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง | คมชัดลึก

  วันนี้ "บ้านป่าใหม่" เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จในโครงการกองทุนแผ่นดินแม่ ที่มีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นตัวกลาง

 "กองทุนแม่" ตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ผ่านเลขาธิการ ป.ป.ส. ไปมอบให้แก่หมู่บ้านที่มีความพร้อมที่จะยกระดับเป็น "หมู่บ้านกองทุนแม่" ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็น "ชุมชนเข้มแข็ง" ที่จะป้องกันไม่ให้ลูกหลานหรือคนในชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และทุกคนในหมู่บ้านสามารถยังชีพด้วยระบบเศรษฐกิจพอเพียง

 สมเด็จบรมพระราชินีนาถ ทรงเริ่มพระราชทานเงินตั้ง "กองทุนแม่" เมื่อปี 2545 จำนวน 672 หมู่บ้านในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความรุนแรงในเรื่องยาเสพติด และถึงวันนี้จำนวน "กองทุนแม่" เพิ่มขึ้นเป็น 10,360 หมู่บ้าน ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ

 ประดับ ไกรทอง ผู้ใหญ่บ้านป่าใหม่ เล่าถึงความสำเร็จว่า เมื่อหมู่บ้านได้เงินเริ่มต้นจาก "กองทุนแม่" รวม 8,000 บาท เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ที่ประชุมหมู่บ้านก็มีมติการใช้เงินว่าจะทำอย่างไร ซึ่งสิ่งแรกที่หมู่บ้านคิดก็คือ ทำอย่างไรจึงจะขยายวงเงิน และสุดท้ายก็เลือกใช้วิธี "แลกเงิน" โดยชาวบ้านจะนำเงินธนบัตรใบละ 50 บาท บ้าง 100 บาท บ้าง หรือกระทั่ง 20 บาท มาแลกธนบัตรใบละ 20 บาทจาก "กองทุนแม่" ที่มีอยู่ 8,000 บาท พร้อมนำเงินที่ได้รับพระราชทานไปเป็น "เงินศักดิ์สิทธิ์" ในระยะเวลาไม่นาน ก็ขยายเป็นกว่า 3 หมื่นบาท มากพอที่จะให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ ชาวบ้านป่าใหม่  ประสบความสำเร็จในการบริหารเงินนี้จนได้รับรางวัล "หมู่บ้านกองทุนแม่ดีเด่น" 2 ปี ติดต่อกันคือ ปี 2551 และ 2552

 "เงินจำนวนนี้เรามุ่งมั่นให้เป็นเงินขวัญถุงเพื่อให้เกิดปัญญา" ผู้ใหญ่บ้านป่าใหม่กล่าว และระบุว่า เงินจำนวนนี้ทำให้ชาวบ้านหลายคนอยู่ในภาวะลืมตาอ้าปากและมีงานทำ โดยเงินจำนวนนี้ถูกนำไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนทุกเรื่อง ไม่ได้มีเพียงเรื่องป้องกันยาเสพติด หากแต่ยังรวมถึงการ "สร้างอาชีพ" ให้ชาวบ้าน

 หนึ่งในผลงานที่ทำให้บ้านป่าใหม่ได้รับรางวัล "หมู่บ้านกองทุนแม่ดีเด่น" 2 ปีซ้อน คือ "โครงการทำสบู่และน้ำยาอเนกประสงค์" ของกลุ่มแม่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านป่าใหม่ ซึ่งมี สนธยา ไกรทอง ประธานกลุ่มแม่บ้านหมู่ 3 เป็นแกนนำ กลุ่มแม่บ้านหมู่ 3 ได้รับเงินมาจากการเสนอแผนงานการผลิตสบู่และน้ำยาอเนกประสงค์ไปยังกองทุนแม่จำนวน 2,000 บาท จากนั้นได้นำเงินนั้นไปซื้ออุปกรณ์สำหรับผลิตสบู่ ขณะที่สมาชิกหลายคนเดินทางไปเรียนรู้วิธีการทำ หรือการผสมสูตรสบู่และน้ำยาอเนกประสงค์ และมีแม่บ้านจำนวนมากร่วมลงทุนด้วยในฐานะ "ผู้ถือหุ้น" คนละ 100 บาท

 สำหรับสบู่ที่กลุ่มแม่บ้านผลิต จะผลิตออกมาในปริมาณที่ไม่มากนัก เพราะขายกันในหมู่บ้าน โดยสมาชิกซื้อขายกันเองในราคาก้อนละ 13 บาท ซึ่งเงินที่ขายได้ทั้ง 13 บาทจะนำเข้าเป็นเงินของกลุ่มแม่บ้าน ส่วน "คนนอก" ที่มาเยือนก็จะซื้อได้ในราคาก้อนละ 20 บาท ซึ่งสมาชิกที่เป็นคนขาย ก็จะได้ส่วนต่างทันที 7 บาท ส่วนที่เหลืออีก 13 บาทก็นำเข้าเป็นเงินของกลุ่มแม่บ้าน และไม่นานหลังการตั้งชมรมขึ้นมา เงินกองทุนกลุ่มผลิตสบู่ก็ขยายจาก 2,000  บาท เพิ่มเป็นกว่า 1 หมื่นบาท

 "เราไม่ได้เน้นว่าจะต้องได้เงินเยอะ แต่เราต้องการให้สมาชิกมีงานทำ จะได้ไม่ว่าง ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งสมาชิกมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายและมีคนที่เคยติดยาเสพติดมาเข้าเป็นสมาชิกและช่วยทำงาน เรามีคนเหล่านี้ร่วมกันสนับสนุนภารกิจของกลุ่มกว่า 40 คน" ประธานกลุ่มแม่บ้านหมู่ 3 เล่าให้ฟัง

 ชมรมผลิตสบู่และน้ำยาอเนกประสงค์ของกลุ่มแม่บ้านหมู่ 3 จึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของ "กองทุนแม่" ที่ทำให้ "บ้านป่าใหม่" ได้รับรางวัล "หมู่บ้านกองทุนแม่ดีเด่น" ติดต่อกัน 2 ปี