ผมจะสร้างหนัง“2553สิ้นยุค:อันธพาลการเมือง” | คมชัดลึก

ถูกเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางด้านการค้าการขายชาวต่างชาติเข้ามาเปิดตลาดมากขึ้น คนไทยที่เคยอยู่กันอย่างมีอัธยาศัย เปลี่ยนไปเหมือนคนแปลกหน้า กลุ่มวัยรุ่นตามย่านการค้าและย่านที่อยู่อาศัยของกรุงเทพฯ จับกลุ่มกันเป็นแก๊ง อวดศักดาเดชข่มขวัญกันและกัน หัวโจกแต่ละย่าน ใช้ย่านที่อยู่หรือสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบมาเป็นสมญานาม แบ่งเขตเรียกค่าคุ้มครองจากร้านค้าเหมือนแผ่นดินไร้อาญา จนเลื่องลือกลายเป็นตำนานให้กล่าวขานอย่าง เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์, แดง ใบเล่ย์, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่ เป็นอาทิ คนพวกนี้ถูกขนานนามว่าเป็น กลุ่มอันธพาล พวกเขาได้สร้างวีรเวรที่ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ขายในแต่ละพื้นที่ต่างหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ในที่สุด จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ก้าวขึ้นมายึดอำนาจทางการเมืองก็ปราบปรามจนสิ้นซาก พฤติกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนั้น ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “2499 อันธพาลครองเมือง” เตือนใจยุวชนว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่าง

 50 ปีผ่านไป ถึงปี 2549 วัฒนธรรมอันดีงามของไทย หาได้รับการปกปักรักษาแต่อย่างใดไม่ กลับถูกทำลายไปน่าเสียดาย ระบอบประชาธิปไตยเป็นการปกครองแต่เพียงในนาม วิถีชีวิตคนไทยเคยอยู่กันฉันพี่น้องและสงบสุข แตกร้าวฉานจนกลายเป็นแตกแยกอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ “อำนาจทางการเมือง” ทำให้คนกลุ่มต่างๆ ที่อยากมีอำนาจ พวกมันพยายามช่วงชิงกันทุกรูปแบบ ทั้งในและนอกระบบ หัวโจกคนสำคัญของกลุ่มที่อยากมีอำนาจต่างแสดงศักยภาพให้ประชาชนว่าพึ่งพาได้ หวังให้ประชาชนเลือกเข้าไปมีอำนาจ แต่บางคนก็เรียนลัด ไม่เลี่ยงกฎหมาย ก็เกณฑ์คนมาสร้างกลุ่มการเมืองนอกระบบ อาศัยช่องของกฎหมายเดินขบวนเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการจนบ้านเมืองวุ่นวายไม่หยุดหย่อน มีทั้ง เหลือง สุวรรณภูมิ, แดง ราชดำริ หรือแม้แต่ ดำ แยกคอกวัว, น้ำเงิน บุรีรัมย์ เป็นอาทิ พฤติกรรมของคนเหล่านั้นไม่ต่างไปจากการกระทำของ กลุ่มอันธพาลการเมือง

 ผมกำลังรอใครสักคน ออกมากระทืบอันธพาล “สี” ต่างๆ ทั้ง เหลือง สุวรรณภูมิ, แดง ราชดำริ หรือแม้แต่ ฟ้า คลองประปา ที่กลายเป็นตัวล่อให้เกิดเรื่อง... อย่างที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เคยทำกับอันธพาลครองเมืองมาแล้ว จากนั้นผมจะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาสร้างหนัง ชื่อเรื่อง “2553 สิ้นยุค : อันธพาลการเมือง”

คลี่ข่าว คลายปม

ภาณุมาศ ทักษณา