ข่าว

ผู้ตรวจการชี้จารุวรรณพ้นตำแหน่งผู้ว่าสตง.แล้ว

ผู้ตรวจการชี้จารุวรรณพ้นตำแหน่งผู้ว่าสตง.แล้ว

27 ส.ค. 2553

ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้ "จารุวรรณ" พ้นเก้าอี้ผู้ว่าฯสตง.แล้ว ส่งศาลปกครองชี้ขาดพร้อมขอคุ้มครองชั่วคราวให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ก่อนปัญหาบานปลายกระทบงานตรวจสอบองค์กรอื่น

(27ส.ค.) นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงข่าวกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ยื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่าคำสั่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าฯสตง.ให้รักษาการแทนผู้ว่าฯสตง.เป็นคำสั่งที่มิชอบโดยกฎหมาย ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณาข้อกฎหมายเบื้องต้นเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะตามข้อเท็จจริงคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯสตง. มีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ถือว่าได้พ้นจากตำแหน่งแล้ว

 ดังนั้นการอ้างว่ายังเป็นผู้ว่าฯสตง.อยู่ แล้วออกคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้ว่าฯสตง.ให้รักษาราชการแทนผู้ว่าฯสตง. จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นวันนี้ (27 ส.ค.) ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้ยื่นคำฟ้องไปยังศาลปกครอง พร้อมขอให้คุ้มครองชั่วคราว โดยให้ศาลสั่งให้คุณหญิงจารุวรรณ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา

 นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่า แม้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีความเห็นว่าคุณหญิงจารุวรรณพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ปัญหายังไม่ยุติเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าสถาบันใดจะมีความเห็นออกมาก็ไม่มีใครฟังใคร กลับออกมาโต้แย้งความเห็นที่ไม่ตรงกับความคิดของตัวเอง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่ามีเพียงสถาบันศาลเท่านั้นที่จะมีความเห็นชี้ขาดได้ และเห็นว่าศาลน่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากปัญหาภายในสตง.นอกจากจะส่งกระทบความเชื่อมั่นของประชาชนแล้ว การไม่ได้ข้อยุติว่าใครมีอำนาจลงนามในการทำงานก็จะทำให้เกิดปัญหาและความเสียหายในการตรวจสอบองค์กรอื่นๆด้วย อย่างไรก็ตาม หากศาลตัดสินว่าคุณหญิงจารุวรรณ ยังมีอำนาจปฏิบัติหน้าที่เรื่องก็จบ ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาการก็ไม่ต้องทำงาน แต่ถ้าตัดสินไปอีกทางหนึ่งปัญหาก็จบอีกเช่นกัน เพราะจะชี้ว่าคุณหญิงจารุวรรณยังทำปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

 “อยากให้ศาลปกครองชี้ขาดว่าคุณหญิงจารุวรรณ ยังมีสถานภาพผู้ว่าการฯอีกหรือไม่ ถ้าศาลชี้ว่าพ้นจากหน้าที่ไปแล้ว หรือยังมีสถานภาพอยู่ ก็ได้คำตอบเป็นข้อยุติทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาศาลปกครองเคยพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับองค์กรอิสระมาแล้ว ส่วนในการกรณีนี้ศาลจะพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ และเชื่อว่าในสัปดาห์หน้าศาลปกครองอาจจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา” ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าว

 นายปราโมทย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากปัญหารักษาการผู้ว่าฯสตง.แล้ว ขณะนี้ยังมีปัญหาการสรรหาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) และผู้ว่าฯสตง.ซึ่งยังมีความขัดแย้งเรื่องข้อกฎหมายว่า ควรจะใช้กฎหมายฉบับเดิมหรือรอกฎหมายใหม่ ดังนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินจึงทำหนังสือไปยังนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในฐานะผู้เกี่ยวข้องในการสรรหาคณะกรรมการคตง.และผู้ว่าฯสตง.ให้เป็นผู้สรรหา เนื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญการสรรหาดังกล่าวสามารถทำได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องรอกฎหมายใหม่ออกมาบังคับใช้ แต่หากประธานวุฒิสภามีความเห็นแย้งกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยต่อไป เพื่อให้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ข้อยุติโดยเร็ว