
ทูตไทยบินกลับเขมรเร่งฟื้นสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
ก.ต.การันตีทูต"ประศาสน์"ชำนาญด้านเขมร เก่งเขตแดนเหมาะสมกลับไปสานสัมพันธ์ต่อ ทูตไทยบินกลับพนมเปญแล้วชี้งานหลักเร่งฟื้นสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
(24ส.ค.) แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า สาเหตุการส่งนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ เดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศกัมพูชาอีกครั้ง เนื่องจากการเรียกทูตกลับ ในกรณีความสัมพันธ์ไทย - กัมพูชา เป็นนโยบายรัฐบาลกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของทูต เนื่องจาก 1 )ทูตไม่ได้มีปัญหากับรัฐบาลกัมพูชาจึงสามารถกลับไปทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม
2 )หากแต่งตั้งทูตใหม่ มีระเบียบปฏิบัติค่อนข้างใช้เวลา หากเปรียบเทียบระยะเวลาที่มีอยู่ การส่งเอกอัครราชทูตคนเดิมไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ต่อเนื่อง น่าจะทันต่อเหตุการณ์ที่มีอยู่ 3 ) ส่วนตัวท่านประศาสน์ หากพิจารณาในเรื่องคุณสมบัติและความเหมาะสม ค่อนข้างชำนาญในเรื่องประเทศกัมพูชา ซึ่งตอนที่ทูตประศาสน์ถูกเรียกกลับมาไทย ท่านก็กลับมาดูแลงานด้านเขตแดน
นอกจากนี้หากนับระยะเวลาที่ทูตประศาสน์อยู่ในตำแหน่งเอกอัครราชทูต ประจำกรุงพนมเปญ เพียง 9 เดือนเท่านั้น ปกติต้องอยู่ครบวาระเป็นเวลา 4 ปี สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ไม่เปลี่ยนเอกอัครราชทูตคนใหม่เมื่อกัมพูชาส่งสัญญาณจะผูกสัมพันธไมตรี ฝ่ายไทยก็ต้องรีบตอบรับและแสดงไมตรีจิตกลับอย่างทันที เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้า
ทูตไทยบินกลับเขมรเร่งฟื้นสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
ต่อมาเวลา 16.15 น. นายประศาสน์ กล่าวก่อนจะเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า งานหลักคือการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่การเดินทางไปครั้งนี้ต้องรอสาส์นตราตั้งก่อน จึงจะทำหน้าที่ได้ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมคนไทยที่ถูกจับกุมหรือทำหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม การให้ความช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชาเป็นหน้าที่สถานทูตไทยอยู่แล้ว และจะทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ก็จะเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในไทย ซึ่งจะเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 581 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 10.00 น. วันที่ 25 ส.ค.