ข่าว

มาร์คมอบรางวัลผู้ส่งออกช่วยศก.เข้มแข็งดีเด่น

มาร์คมอบรางวัลผู้ส่งออกช่วยศก.เข้มแข็งดีเด่น

23 ส.ค. 2553

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2553 ( Prime Minister's Export Award 2010)ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์

 โดยมีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์มาร่วมงานอย่างพร้อมหน้า ทั้งนี้สำหรับรายชื่อผู้เข้ารับรางวัล “ผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น” ประจำปี 2553 จำนวน 29 บริษัทรวม 35 รางวัล

 รางวัลประเภทผู้ส่งออกไทยดีเด่น มี 5 รางวัลแบ่งตามมูลค่าการส่งออกดังนี้ 1. กลุ่มมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 100 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด 2. กลุ่มมูลค่าการส่งออกมากกว่า 100-500 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด 3. กลุ่มมูลค่าส่งออกมากกว่า 500-1,000 ล้านบาท ได้แก่ ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด(มหาชน) 4. กลุ่มมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1,000-5,000 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท โอสถสภา จำกัด และ 5. กลุ่มมูลค่าการส่งออกมากกว่า 5 พันล้านบาทขึ้นไป ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)

 ราวัลประเภทที่ใช้ตราสินค้าของตนเอง มีทั้งสิ้น 6 รางวัล 6 บริษัท ได้แก่ บริษัทกิฟฟารีน สกายไลน์ แลบบอราทอรี่ แอนด์เฮลล์แคร์ จำกัด , บริษัท อีสเทิร์น โพลีแพค จำกัด ,บริษัท สันต์ไทย จำกัด ,บริษัท มอนตี้ แอนด์ ท็อทโก้ จำกัด ,บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด และบริษัท เค.เอ็ม.อุตสาหกรรมเครื่องเขียน จำกัด

 รางวัลประเภทสินค้าที่มีการออกแบบดี 19 รางวัล จาก 14 บริษัท แบ่งตามกลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์( Decorative Items ) ได้แก่ บริษัท นิวอารี่วา จำกัด ,บริษัท เอสเธธิค จำกัด และบริษัท อินเนอร์รูม จำกัด กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์( Furniture ) ได้แก่ บริษัท ดีสวัสดิ์ อุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท เท็กซ์ไทล์แกลอรี่ จำกัด กลุ่มสินค้าแฟชั่นและสิ่งทอ ได้แก่ บริษัท มูฟ จำกัด , บริษัท โอซูซิ จำกัด และบริษัท ปริญ คอลเลลคชั่นส์ จำกัด กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ บริษัท บาธรูมดีไซน์ จำกัด และบริษัท เซเรบั่ม ดีไซน์ จำกัด ที่ได้รับรางวัลจากสินค้า 2 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์สินค้าอาหารและบรรจุภัณฑ์สินค้าสุขภาพและความงาม ได้แก่ บริษัท หาญโปรดักส์ จำกัด และบริษัท ปราณลี คอร์ปอเรชั่น จำกัด

  รางวัลประเภทธุรกิจบริการส่งออกดีเด่น มี 5 รางวัล จาก 5 บริษัท แบ่งตามกลุ่มธุรกิจบริการ ดังนี้ กลุ่มธุรกิจบริการการศึกษานานาชาติ ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติบริติช ภูเก็ต กลุ่มธุรกิจบริการรักษาพยาบาล ได้แก่ รพ.บำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)และ บริษัท บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล เดลทัล เซ็นเตอร์ จำกัด(คลีนิก) และกลุ่มธุรกิจบริการโลจิสติกส์ ได้แก่ บริษัทวี-เซิร์ฟ โลจิสติกส์ จำกัด

 นายกฯ กล่าวหลังมอบรางวัลโดยชื่นชมผู้ประกอบการว่า มีส่วนร่วมในการส่งเสริม พัฒนาและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ซึ่งรางวัลนี้มีการดำเนินการมาเป็นเวลา 18 ปี ไม่เพียงเป็นการยกย่องผู้ประกอบการที่มีความสำเร็จ แต่เป็นการยกย่องผู้ส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่อง เพราะการส่งออกมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าและส่งออกมากว่าจีดีพีของประเทศไทย จึงมีความสำคัญในการพัฒนาและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ที่เราต้องทำงานร่วมกันหลายฝ่าย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นหน่วยงานหลัก แต่ยังมีหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องคอยให้การสนับสนุน

 “ภาคเอกชนมีความสำคัญโดยตรงในระบบเศรษฐกิจ และถ้าพัฒนาการผลิตและบริการ รวมทั้งสินค้าทุกขั้นตอน จะทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และทำให้เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง จะยกระดับทั้งรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน”นายกฯ กล่าว

 นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทย ที่ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่ทว่าตัวเลขการส่งออกและตัวเลขต่างๆได้บอกถึงความเข้มแข็งที่ทำให้ฟื้นตัวได้อย่างชัดเชน ตนจึงขอชื่นชมผู้ประกอบการ กระทรวงพาณิชย์ และเอกชนที่สนองนโยบายของรัฐบาล ให้ความสำคัญกับภาคการส่งอออก ช่วยขยายตลาดเพื่อแย่งส่วนแบ่ง เพิ่มมูลค่าของสินค่าและได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้า ซึ่งอนาคตที่รอข้างหน้ามีความท้าทายอย่างมาก เพราะประชาคมอาเซียนในอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นโอกาสและความท้าทาย เพราะมีประชากรเกือบ 500 ล้านคน มีมูลค่าเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จึงเป็นโอกาสที่ท้าทายใหม่ ๆ

 อย่างไรก็ตามการแข่งขันในตลาดโลกมีความรุนแรง การที่เราจะสำเร็จอย่างต่อเนื่องต้องอาศัยความรู้ความสามารถในการพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นที่พอใจ ต้องใช้ประโยชน์จากการได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และการขนส่ง ซึ่งรัฐบาลจึงมีการลงทุนเรื่องโลจิสติกเพื่อให้เกิดความได้เปรียบ ซึ่งทราบว่าภาคเอกชนเองก็จัดการเรื่องกระจายสินค้าได้ดีด้วยเช่นกัน