
"พงศพัศ"ย้ำก.ตร.จัดโผตำรวจยึดหลักอาวุโส
"พงศพัศย้ำ สกพ.ประกาศบัญชีอาวุโสระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. - ผบช.แล้ว จากนั้นแต่ละหน่วยจะประกาศระดับ รอง ผบ.ช.- ผบก. แจงตำแหน่งว่างระดับรอง ผบ.ตร. 6 ตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. 11 ตำแหน่ง และ ผบช. 19 ตำแหน่ง เชื่อคณะกรรมการ ก.ตร. พิจารณาตามกฎ ก.ตร.การแต่งตั้ง ยึดลำดับอาว
(20ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะโฆษกตร. แถลงกรณีสำนักงานกำลังพล หรือ สกพ. ตร. ประกาศบัญชีอาวุโสเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ ผช.ผบ.ตร. - ผบก.และ รองผบก. ขึ้นตรง ตร.ว่า ปกติแล้วการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ผ่านมาได้พิจารณาความอาวุโสตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งมาโดยตลอด แต่ปีนี้เป็นปีแรก ทาง ตร.ได้ประกาศบัญชีอาวุโสข้าราชตำรวจทั่วประเทศก่อนการแต่งตั้ง รวมถึงใช้หลักธรรมาภิบาล และกฎ ก.ตร.เกี่ยวกับการประพฤติ ปฎิบัติตน หรือกระบวนยุติธรรมต่างๆ มาเป็นหลักในการพิจารณา
โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ตร.ประกาศบัญชีอาวุโสตั้งแต่ระดับ รอง ผบช.ขึ้นไปถึง ผช.ผบ.ตร. และแต่ละหน่วยจะประกาศบัญชีอาวุโสระดับ รองผบช.- รองผบก. ลงไป ตรงนี้จะทำให้พี่น้องข้าราชการตำรวจสามารถตรวจสอบลำดับอาวุโสของตัวเองได้ ทางเวปไซด์ของกองกำลังพล และกองสารนิเทศ ถ้าเห็นว่าลำดับอาวุโสของตนเองไม่ถูกต้องหรือจำเป็นจะต้องแก้ไขให้ดำเนินการภายใน 7 วัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป เพราะหลังจากนั้นแล้ว คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. จะมีการประชุม ก.ตร.เพื่อแต่งตั้งต่อไป
"ในส่วนของ ตร. ได้ประกาศบัญชีอาวุโส 3 ส่วนด้วยกัน ตรงนี้เป็นภาพรวมที่ ก.ตร.จะพิจารณาแต่งตั้งก่อนคือระดับ ผบช.ขึ้นไป บัญชีแรกเป็นบัญชีอาวุโสระดับผช.ผบ.ตร. ที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็น รองผบ.ตร. รวมทั้งหมด 6 ตำแหน่ง บัญชีที่สองเป็นบัญชีระดับ ผบช. ที่จะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นผช.ผบ.ตร. รวม 11 ตำแหน่ง ทั้งสองบัญชีนี้ ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้ง จะต้องพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส สำหรับบัญชีที่3 เป็นบัญชีลำดับอาวุโสของ รองผบช. ทั่วประเทศ ซึ่งปีนี้จะมีการพิจารณาแต่งตั้งขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบช. รวมทั้งหมด 19 ตำแหน่ง ในส่วนนี้ตามกฎ ก.ตร. ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละ 33 เศษให้ปัดขึ้น ดังนั้นจำนวนที่ว่าง 19 ตำแหน่งให้พิจารณาเรียงลำดับอาวุโสทั้งหมด 7 คน ที่เหลือเป็นเรื่องของการพิจารณาตามความเหมาะสม ความรู้ความสามารถ การประกาศบัญชีอาวุโสเป็นความตั้งใจของ ก.ตร.ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม และใช้หลักการณ์นี้ในการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกแต่ว่าหลังการแต่งตั้งแล้ว ก.ตร.จะมาพิจารณาซึ่งทีเกิดขึ้นและผลที่ตามมา เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไร ในการแต่งตั้งครั้งต่อๆ ไป” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว
เมื่อถามว่า ข้าราชการตำรวจบางนายที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จะมีการเสนอขอตำแหน่ง มีความเป็นไปได้หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ความจริงกฎ ก.ตร.เป็นกฎหมาย ก.ตร.ก็ทราบดีว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ตนว่าเมื่อทุกฝ่ายได้รับทราบทั่วกันการพิจารณาดำเนินการก็ต้องเป็นไปตามกฎ ก.ตร.ที่ ก.ตร.ได้กำหนดขึ้นเอง ตนเชื่อว่าพี่น้องข้าราชการตำรวจก็ต้องติดตามดูว่า คณะกรรมการ ก.ตร.ได้ดำเนินการในสิ่งที่ตนเองได้กำหนดไว้หรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า หากการแต่งตั้งไม่เป็นไปตามบัญชีอาวุโส ใครต้องเป็นฝ่ายชี้แจง พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ถ้าการพิจารณาแต่งตั้งกำหนดออกมาแล้ว ตนในฐานะโฆษก ก.ตร.ก็คงต้องออกมาชี้แจง ถ้าเกิดมีผู้เสียหายที่เกิดจากการแต่งตั้งก็มีสิทธิ์ไปฟ้องร้องต่อศาลตามกฎหมายได้ ตรงนี้เป็นหลักการปฎิบัติโดยทั่วไป
เมื่อถามว่าการออกมาประกาศบัญชีอาวุโสต่อสาธารณะในครั้งนี้เพื่อป้องกันการล้วงลูกจากนักการเมืองด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วมีอยู่หลายส่วนด้วยกันที่มีการพูดคุยกันใน ก.ตร. ประเด็นคือ หลักธรรมาธิบาล หลักของความโปร่งใส ยุติธรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการตำรวจเป็นจำนวนไม่น้อย ก.ตร.จึงอยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ เพราะกระบวนการบริหารบุคคลนั้น การแต่งตั้งเป็นหัวใจการสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจเพื่อที่จะต้องปฎิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนต่อไป