ตรังหนุนชาวสวนปาล์มรวมตัวหวังระบบสหกรณ์ช่วยดันราคา | คมชัดลึก

 นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดตรังมีโรงงานน้ำมันปาล์ม 4 แห่ง อยู่ใน อ.สิเกาทั้งหมด ถือว่าเพียงพอรองรับผลปริมาณผลผลิตที่มีอยู่ ทำให้จังหวัดอยู่ในอันดับ 4-5 ของแหล่งผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศไทย แต่พบว่าเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในจังหวัดตรัง จะอยู่ในลักษณะของต่างคนต่างทำ และขาดการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ ดังนั้นทางจังหวัดตรังจึงสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มีอำนาจต่อรอง ผลผลิตได้รับการพัฒนา เมื่อนำไปขายให้แก่ทางโรงงานก็มีราคาดียิ่งขึ้น

 ทั้งนี้ ได้มอบให้เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด และสมาคมเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ร่วมประชุมเพื่อวางแผนการนำผลผลิตป้อนเข้าสู่โรงงานอย่างเป็นระบบ และวางระบบให้เป็นสหกรณ์มากขึ้น พร้อมทั้งตั้งเป้าเพิ่มสหกรณ์ปาล์มน้ำมัน จากที่มี 4 แห่งให้เป็น 6 แห่ง หรือมากกว่านี้ในอนาคตเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร และสร้างคุณภาพของปาล์มน้ำมันให้มีราคาดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดตามมา

 อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าพื้นที่การปลูกยางพารามีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่การปลูกปาล์มน้ำมัน และการปลูกพืชสวนลดลง แต่เนื้อที่การทำสวนปาล์มที่มี 1.7 แสนไร่นั้นถือว่ายังเพียงพอ ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการจัดการของเกษตรกร ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้นำกากปาล์มน้ำมัน 3% ไปผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ หรือเป็นพลังงานทดแทน รวมทั้งการนำน้ำเสียจากทางโรงงานไปผลิตเป็นปุ๋ยและอาหารสัตว์ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย

 นายมานิต วงษ์สุรีย์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรังน้ำมันปาล์ม จำกัด โรงงานผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.ตรัง กล่าวว่า บริษัทเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 3,000 ราย ที่นำผลผลิตมาจำหน่ายให้แก่ทางโรงงานวันละ 1,000 ตัน ทำให้กิจการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้มีรายได้เข้าสู่โรงงานกว่าปีละ 4,000 ล้านบาท