
เครนปากซอยสุขุมวิท19ล้มทับคนงานดับ2สาหัส3
แขนเครนไซด์งานปากซอยสุขุมวิท 19 ล้มทับคนงานก่อสร้างดับ 2 สาหัส 3 พบคนขับเครนมักง่าย ใช้คนงานซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนใช้ตะขอเกี่ยวถุงยกขึ้นไปกินด้านบน แต่พลาดไปเกี่ยวนั่งร้านจนแขนเครนขาดตกลงมาจากชั้น 8
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 ส.ค. ร.ต.ท.อดิศักดิ์ เหล่าดี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุเครนล้มทับคนงานได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณไซต์งานก่อสร้างปากซอยสุขุมวิท 19 ติดสถานีรถไฟฟ้าอโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.ท.ศรุต ระยานนท์ รอง สวป.สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตคลองเตย และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นไซต์งานของ บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างรับเหมาก่อสร้างอาคารศูนย์การค้า ลานจอดรถและโรงแรมสูง 36 ชั้น ของ บริษัท แอล แอนด์ เอช พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จากการตรวจสอบพบแขนเครนยกวัสดุก่อสร้างความยาวประมาณ 20 เมตร หักจากหอบังคับเครนซึ่งมีความสูงจากพื้นดินเท่าตึก 10 ชั้น ลงมาพาดบริเวณพื้นที่ก่อสร้างบนชั้นที่ 8 ของตัวอาคาร ส่งผลให้นั่งร้านได้รับความเสียหายส่วนคนขับเครนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงไปก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่กลับพบพิรุธทางคดี คือ ตรงจุดเกิดเหตุไม่มีคนงานหลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังพบเศษชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ มันสมองและเส้นผมมนุษย์ถูกเผา โดยใช้น้ำมันและเศษผ้าเป็นเชื้อเพลิง คล้ายต้องการปิดบังซ่อนเร้นหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับคดี จึงให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบปากคำ นายชาญศิลป์ คงมังคละ อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยภายในโครงการ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะทำงานอยู่ในออฟฟิศชั้นล่างได้ยินเสียงดังคล้ายวัตถุขนาดใหญ่ตกกระแทกพื้นจากด้านบน สักพักเห็นคนงานช่วยกันทยอยลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บลงมาขึ้นรถกระบะไปส่งโรงพยาบาล จึงรีบขึ้นไปตรวจสอบด้านบน พบว่าเป็นเหตุแขนเครนหักตกลงมาบนชั้นที่ 8 ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นทราบว่า คนขับเครนแค่อยากดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง จึงใช้ให้คนงานที่อยู่ด้านล่างซื้อให้ จากนั้นก็บังคับตะขอลงมาเกี่ยวถุงใส่เครื่องดื่มดึงขึ้นไปบนหอบังคับ แต่จังหวะที่กำลังดึงขึ้นไปนั้น ตะขอได้เกิดเหวี่ยงไปเกี่ยวกับนั่งร้านระหว่างทาง จนแขนเครนเสียศูนย์แกว่งและหักลงมาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับเครนได้หายไปโดยไม่มีใครพบเห็นอีกเลย
ต่อมา ร.ต.ท.อดิศักดิ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อ ว่าสามารถตามไปอายัดศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ได้บนรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีฟ้า ทะเบียน ณน 1974 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ข้างสนามเทนนิสภายในโรงพยาบาลคามิลเลียน จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายสุธา เยาวนาถ อายุ 47 ปี และ นายสมบูรณ์ กุลนา อายุ 45 ปี โดยสภาพศพทั้ง 2 ราย มีบาดแผลแตกที่กะโหลกศีรษะ และถูกห่อร่างด้วยผ้าใบกันแดดขนาดใหญ่ซุกซ่อนไว้ท้ายรถกระบะ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส อีก 3 ราย ชื่อ นายวรากร จรัสแพ้ว อายุ 39 ปี นายบรรจง กุลภู่ อายุ 35 ปี และนายสมเกียรติ จันทกุล อายุ 29 ปี ทั้งหมดถูกนำตัวเข้าไปรักษาที่ห้องไอซียูของโรงพยาบาลดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายสมบัติ กุลนา อายุ 40 ปี น้องชายนายสมบูรณ์ ผู้ตายได้รีบเดินทางมาดูศพ ก่อนเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.สร้อยสน กุลนา อายุ 30 ปี น้องสาวซึ่งทำงานอยู่ที่ไซต์งานเดียวกันกับพี่ชายได้โทรศัพท์มาบอกว่า เครนล้มในพื้นที่ทำงาน ทำให้พี่ชายถูกแขนเครนทับศีรษะจนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ เมื่อตนเดินทางไปดูก็พบศพพี่ชายถูกใส่ในรถกระบะขนไปไว้ที่โรงพยาบาลคามิลเลี่ยนแล้วแทนที่จะรอตำรวจไปตรวจสอบก่อน อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทรับเหมาเดินทางมาดูแลอีก ตนเกรงว่าการตายของพี่ชายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ส่งมอบศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ไปผ่าชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ ก่อนเชิญตัววิศวะกรผู้ดูแลโครงการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ส่วนคนขับเครนนั้นจะประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และหากพบว่าเป็นความบกพร่องของผู้ใดอีกก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป