ข่าว

 โต๊ะบีแด...แม่ของลูกๆ ชายแดนใต้

โต๊ะบีแด...แม่ของลูกๆ ชายแดนใต้

11 ส.ค. 2553

"เด็กในหมู่บ้านนี้เกือบทุกคน ฉันเป็นคนทำคลอดมากับมือทั้งนั้น ทุกคนที่ฉันทำคลอดก็จะเรียกฉันว่า 'เมาะ'..." เจ๊ะซง ลาเต๊ะ หญิงชราวัย 70 ปี โต๊ะบีแดประจำหมู่บ้านกากง ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา เกริ่น

 "โต๊ะบีแด" เป็นภาษาถิ่นมลายู หมายถึง "หมอตำแย" ซึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีโต๊ะบีแดเหลืออยู่น้อยเต็มที เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้หญิงมีครรภ์ส่วนใหญ่หันใช้บริการทำคลอดกับโรงพยาบาลมากกว่า

 แต่คงไม่ใช่ที่หมู่บ้านกากงเพราะชาวบ้านเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่นี่ยังคงผูกพันกับการทำคลอดกับโต๊ะบีแด ?!!

 โต๊ะบีแดเจ๊ะซง ลาเต๊ะ เริ่มทำหน้าที่หมอตำแยจากการเป็นลูกมือในวัย 25 ปี จนสามารถทำคลอดได้เองครั้งแรกเมื่ออายุได้ 30 ปีกว่าๆ และทำหน้าที่นี้มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 40 ปี ตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา มีเด็กที่ผ่านการทำคลอดโดยฝีมือของโต๊ะบีแดเจ๊ะซงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 คน และทุกคนจะเรียกเธอว่า "เมาะ" หรือ "แม่" ในภาษาภาคกลาง ด้วยเหตุนี้เจ๊ะซงจึงเปรียบเสมือนแม่ของลูกๆ แทบทั้งหมู่บ้านกากงก็ว่าได้

 สาเหตุที่ชาวบ้านกากงส่วนใหญ่ทำคลอดกับเจ๊ะซงเพราะรู้สึกสบายใจมากกว่าไปคลอดที่โรงพยาบาล โต๊ะบีแดไม่ได้มีหน้าที่แค่ทำคลอดเท่านั้น แต่กรรมวิธีดูแลครรภ์และเตรียมพร้อมก่อนคลอดก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เจ๊ะซงสอนบรรดาสาวๆ คุณแม่มือใหม่ให้รู้จักวิธีการเบ่ง การหายใจ รวมถึงคอยให้กำลังใจระหว่างคลอดด้วย

 เหตุนี้เองที่สานสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับโต๊ะบีแด ก่อนจะขยายต่อมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน แม้ว่าจากบ้านกากงไปโรงพยาบาลในตัวเมืองยะหาจะกินระยะทางแค่ 10 กว่ากิโลเมตรก็ตาม

 ส่วนค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้มากมายอะไร เจ๊ะซงบอกว่า มีเท่าไรให้เท่านั้น ไม่มีก็ไม่เอา ข้อกำหนดเดียวคือค่าครู 36 บาทต้องจ่าย ?!!

 จะว่าเจ๊ะซงไม่มีความรู้ด้านการสาธารณสุขยุคใหม่เลยก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว เนื่องจากเธอเคยเข้ารับการอบรมทำคลอดจาก รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา ไม่ว่าจะเป็นการตัดสายสะดือ ทำความสะอาดเด็กหลังคลอด รวมถึงการแก้ปัญหาเด็กคลอดผิดปกติ เช่น เอาก้นออก ในรายที่คลอดยากมากๆ เท่านั้นที่เจ๊ะซงจะส่งไปคลอดที่โรงพยาบาล เพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือพรักพร้อมกว่า

 เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก มักเกิดในกรณีเด็กตัวใหญ่แล้วแม่ตัวเล็ก หรือเด็กเอาขาออกมาก่อน ตั้งแต่ทำคลอดมามีเพียง 2 รายเท่านั้น และทั้งสองรายปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก ?!!

 "ในความรู้สึกของฉันเด็กทุกคนเป็นลูกฉันหมด ฉันรักทุกคนเหมือนลูก มีความสุขมากที่มีลูกๆ อยู่เต็มบ้าน หลายคนเติบโตไปเป็นทหาร ตำรวจ มีงานดีๆ ทำก็ชื่นใจ มีความสุขทุกครั้งที่เห็นความก้าวหน้าของพวกเขา" โต๊ะบีแดเจ๊ะซงเล่าอย่างภูมิใจ

 "นิอิลมี แวและ" อาจารย์ ร.ร.บ้านกาตอง ขยายความเพิ่มว่า สาเหตุที่เด็กๆ คลอดโดยฝีมือหมอตำแยเจ๊ะซงเรียกเธอว่า "เมาะ" หรือ "แม่" เพราะโต๊ะบีแดเปรียบเหมือนแม่คนที่สอง แม่ผู้ให้กำเนิดเองก็ปลูกฝังเด็กทุกคนให้เรียกเธอว่าเมาะกันทุกคน  

 "ซากาวียะ เละอะ"  หนึ่งในผู้ที่เจ๊ะซงทำคลอดเธอออกมา แล้วยังทำคลอดลูกของเธออีกด้วย เล่าว่า ตอนตั้งครรภ์ได้ 2 เดือนก็มาหาเจ๊ะซงและได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ กระทั่งอายุครรภ์ได้ 7 เดือนก็มาให้เจ๊ะซงตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ตลอด 2 เดือนก่อนคลอดเจ๊ะซงจะดูแลเธออย่างดีกระทั่งคลอด เลยไปจนถึงการอยู่ไฟหลังคลอดด้วย

 "ชาวบ้านที่นี่ไว้เนื้อเชื่อใจและมีความผูกพันกับโต๊ะบีแดมาตั้งแต่เด็ก ต่างจากการคลอดที่โรงพยาบาลเราไม่รู้จักใครเลย ทั้งหมอทั้งพยาบาล แต่กับที่นี่เราผูกพันกันมาตั้งแต่เกิด" ซากาวียะบอก

 ด้าน นพ.ทินกร บินหะยีอารง ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา บอกว่า โต๊ะบีแดถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านและเป็นวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้าน โรงพยาบาลให้การสนับสนุนด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการทำคลอด และการคำนึงถึงความสะอาดระหว่างทำคลอด แนะนำให้สวมถุงมือยาง รวมถึงใช้วัตถุที่ผ่านการฆ่าเชื้อ เพื่อให้แม่และลูกมีความปลอดภัยสูงสุด
 
 "หน้าที่ของโต๊ะบีแดจะมีส่วนช่วยดูแลหญิงมีครรภ์ได้อย่างใกล้ชิดกว่าโรงพยาบาล เพราะโต๊ะบีแดก็คือชาวบ้านในหมู่บ้านนั่นเอง หลังจากคลอดแล้วก็ยังมีหน้าที่ดูแลหญิงหลังคลอดด้วย"

 แม้สังขารจะล่วงเลยไปตามวันเวลา แต่เจ๊ะซงก็ยังทำหน้าที่หมอตำแยประจำหมู่บ้านต่อไปจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว และเตรียมผ่องถ่ายวิชาให้แก่ลูกสาวคนที่สองที่พอจะมีแววเป็นตัวตายตัวแทนได้

 จากอดีตถึงปัจจุบันและอนาคต สายสัมพันธ์ระหว่างลูกๆ กับโต๊ะบีแดแห่งหมู่บ้านกากงจะดำเนินต่อไปไม่มีวันสิ้นสูญ 
 
 ตำนานโต๊ะบีแดเจ๊ะซง..แม่ของหมู่บ้านกากงจะคงอยู่ตลอดไป !?!

 นครินทร์ ชินวรโกมล : เรื่อง
 ภาพจรูญ ทองนวล : ภาพ