
'กีร์'ครวญเพลง...โรงแรมขะแมร์
นับตั้งแต่ทหารกระชับพื้นที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ "กี้ร์" อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแดงฮาร์ดคอร์ก็อันตรธานไปจากสังคมไทย ?!!
มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะ ถูกจับบ้าง ถูกวิสามัญฆาตกรรมไปก็มี แต่ก็ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้สักทีว่าข่าวแต่ละกระแสจริงเท็จเป็นอย่างไร
ช่วงหลังๆ มานี้มีข่าวเข้ามาเป็นระยะๆ ว่าทั้งกี้ร์ และ "แรมโบ้อีสาน" สุภรณ์ อัตถาวงศ์ รวมทั้งแกนนำแดงคนสำคัญๆ หลบพักร้อนอยู่ที่กัมพูชา
เป็นที่รับรู้กันดีในหมู่คนไทยว่า ผู้นำกัมพูชามีสายสัมพันธ์อันดีและสุดแสนจะแนบแน่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธมาตลอดก็ตาม
ในบรรดากระแสข่าวนานาที่โหมกระพือจากฝั่งขะแมร์เข้ามาเมืองไทย ดูเหมือนข่าวชิ้นหลังจะมีน้ำหนักมากที่สุด
"กี้ร์-โบ้" ไม่ได้เร้นกายหายไปไหนไกลเกินกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่กำลังมีข้อพิพาทกับประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดมีนักเสี่ยงโชคกลุ่มหนึ่งไปพบเห็นอดีตนักร้องดัง เจ้าของบทเพลง "ใจไม่ด้านพอ" อันกระเดื่องเลื่องลือสร้างให้เขาได้ชื่อว่า "เคยเป็น" นักร้องขวัญใจคนไทย ไปครวญเพลงอยู่ใน รร.ซิตี้ อังกอร์ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เมื่อคืนวันที่ 8 สิงหาคม 2553
อริสมันต์ร้องถึง 2 เพลง ก่อนจะลงจากเวทีไปสมทบกับคนไทยที่นั่งร่วมโต๊ะนับสิบคน แล้วนั่งดื่มกินอยู่นานราวครึ่งชั่วโมงก่อนจะหายออกไปจากโรงแรม ?!!
มีข่าวที่ยืนยันได้จากคนไทยที่ไปทำธุรกิจในกัมพูชา รวมถึงบรรดาเซียนพนันกระเป๋าหนัก ผู้เดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-กัมพูชา เหมือนไปเสาชิงช้ากับสนามหลวงเป็นว่าเล่น
"กีร์-โบ้" อยู่ในกัมพูชาอย่างสุขสบายเท่าที่คนหนีคดีจะสุขได้
ทั้งสองและแกนนำคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านพักรับรองของคนใหญ่คนโตกัมพูชา ละแวกนครวัด-นครธม จ.เสียมราฐ แวดล้อมด้วยกำลังทหารคุ้มกันการันตีความปลอดภัย
ลำพังแค่ชื่อเจ้าบ้านก็ทำให้ "คนนอก" ไม่อยากเข้าไปยุ่งอยู่แล้ว ยิ่งมีทหารคอยคุ้มกันยิ่งไปกันใหญ่
มีข่าวออกมา 2 กระแสว่า กำลังทหารส่วนนี้เป็นของเจ้าบ้านที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้เป็นที่ยิ่ง กับอีกสายว่าเกิดจากการว่าจ้างโดยนายใหญ่ลงทุนควักกระเป๋าเจียดจ่ายค่าแรงเปรียบเหมือนสินน้ำใจ
ใครไม่ "ซี้ปึ๊ก" ชนิดกอดคอเดินแล้วคิดย่างกรายเข้าไป ยากยิ่งกว่าเข้าถ้ำเสือ !?!
แต่สำหรับคนรู้ใจมีเส้นสายถึงทั้งนายใหญ่และเจ้าบ้านสามารถเข้านอกออกในได้สบายเหมือนบ้านตัวเอง
ถึงแม้จะกินดีอยู่ดีเกินกว่าสภาพนักโทษหนีคดี ทว่าการจับเจ่าอยู่ในบ้านก็สร้างความอึดอัดกระสับกระส่ายได้ไม่น้อย ยิ่งคนเคยไปไหนมาไหนได้สะดวกดายก็ยิ่งคับข้องใจ
ข่าวจากแวดวงนักเที่ยวและแสวงโชคอีกนั่นแหละที่ยืนยันว่า ครั้งคราใดที่กี้ร์และโบ้เครียดอยากผ่อนคลาย พวกเขาสามารถแจ้งเจ้าบ้านพาทหารคุ้มกันออกมาข้างนอกได้
ทว่าไม่ใช่จะไปเตร็ดเตร่ที่ไหนก็ได้ตามอำเภอใจเหมือนเมื่อครั้งอยู่เมืองไทยสยายปีกครองเมือง เพราะเจ้าบ้านคนใหญ่คนโตปฏิเสธเสียงแข็งตลอดมา โต้ตอบข้อครหา "ให้การช่วยเหลือและที่พักพิงแกนนำแดง" ?!!
ด้วยเหตุนี้ รร.ซิตี้ อังกอร์ จึงเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่แกนนำแดงพลัดถิ่นจะระบายเครียดได้ แถมยังเป็นจุดนัดพบระหว่างแกนนำแดงกับสมัครพรรคพวกฝั่งไทยที่ต้องการติดต่อพวกเขาได้พบปะหารือกัน
ถึงแม้เหตุการณ์ทำนองนี้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ คนไทยบางคนเห็น คนกัมพูชาส่วนหนึ่งรับรู้ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่มย่ามสอดรู้สอดเห็นทำเหมือนเป็นเรื่องชาวบ้านร้านตลาดทั่วไป
เพราะจะว่าไปโรงแรมแห่งนี้ก็ใช่ของคนอื่นคนไกล เป็นของคนใกล้ยิ่งกว่าใกล้เจ้าของเรือนรับรองหลังงามนั่นเอง
คงจำกันได้เมื่อครั้ง "อ้อ-อ้าย" หนีคดีระเบิดพรรคภูมิใจไทยไปเขมร ทั้งสองก็พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้
เหตุการณ์นี้คงเข้าทำนอง "ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น" หรือไม่ก็ "หนีช้างอย่าให้ห่างต้นไม้"
ที่ไหนจะปลอดภัยได้เท่าที่ที่เขาเห็นเราเป็นศัตรูเดียวกัน แถมยังเยาะเย้ยถากถางให้เจ็บช้ำน้ำใจเล่นได้ด้วย...จริงไหม "กี้ร์-โบ้" ?!!