
จับตา"รอมฎอน"ใต้แผนพิทักษ์เมือง...สกัดโจรใต้
"ซะฮะบัซ เซาะมะอุ วับตัลละติลอุรูก วะษะบาตัลอัจญ์รุ อินชาอัลลอฮฺ" เสียงดูอาร์หรือการขอพรของชาวมุสลิมเพื่อละศีลอด ก่อนรับประทานอาหารค่ำในช่วงเดือนรอมฎอน ที่มีความหมายว่า "ความกระหายได้หมดไปแล้ว เส้นโลหิตก็เปียกชื้น ผลบุญก็ได้รับแล้ว ด้วยความประสงค์ของอัลล
"รอมฎอน" หรือเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม ที่มุสลิมทั่วโลกจะใช้ช่วงเวลาประมาณ 1 เดือน ในการอดอาหารตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ไปจนถึงหลังพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งเป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม ที่ต้องการให้มุสลิมฝึกฝนความอดทน รวมทั้งในช่วงเวลาดังกล่าวชาวมุสลิมจะต้องปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดด้วย และในปีนี้เดือนแห่งความศักดิ์สิทธิ์คาดว่าจะเริ่มต้นระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคมนี้ ซึ่งสำนักจุฬาราชมนตรีจะเป็นผู้ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลา 1 เดือนนับจากนี้ พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา จะเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ตามสถิติมักจะเกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าช่วงปกติเกือบเท่าตัว เนื่องจากว่ากลุ่มผู้ก่อความรุนแรงมีความเชื่อที่ผิดๆ ว่าหากพวกเขาใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการก่อเหตุความรุนแรงแล้ว จะทำให้การก่อเหตุของพวกเขาได้รับผลสำเร็จหรือได้บุญมากขึ้นสองเท่า !?!
ประกอบกับก่อนหน้านี้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกมาแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ หลังจากพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.กรงปินัง อ.รามัน จ.ยะลา อ.ยะรัง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี รวมทั้ง อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส โดยพบว่ากลุ่มแนวร่วมก่อเหตุรุนแรงได้หวนกลับเข้าพื้นที่ เพื่อเตรียมเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฎอน และมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มแนวร่วมดังกล่าวนี้ กลับเข้าพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุด้วย
"ในช่วงนี้ใกล้เดือนถือศีลอดของชาวมุสลิมหรือเดือนรอมฎอน ซึ่งในปีที่ผ่านๆ มาพบว่ามีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นค่อนข้างมาก จึงได้กำชับหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวัง และประสานงานกับหน่วยข้างเคียง เพื่อควบคุมสถานการณ์เอาไว้ให้ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บันนังสตา หลังจากเกิดการวิสามัญฯ กลุ่มก่อความไม่สงบเสียชีวิตไป 2 ราย เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับสถานการณ์การตอบโต้ของกลุ่มคนร้ายอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมของสถานการณ์ในพื้นที่ จากที่ได้รับรายงานในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมาพบว่า สถานการณ์ลดลงไป 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้พอสมควร แต่ก็ยังคงมีสถานการณ์เกิดขึ้นอยู่เป็นช่วงๆ ตามจังหวะของฝ่ายตรงข้าม" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) ให้ความเห็น
จากกรณีดังกล่าวมาตรการรักษาความปลอดภัยตามแผนพิทักษ์เมือง 53 จึงถูกนำมาใช้เพื่อเตรียมรับมือเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น โดยภาพรวมของแผนนี้จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รวมทั้งฝ่ายปกครอง สนธิกำลังในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่เขต อ.เมืองของทั้ง 3 จังหวัด ที่จะมีกำลังทั้งสามฝ่าย รวมทั้งภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการระวัง ป้องกัน ตรวจสอบบุคคล วัตถุต้องสงสัย รวมทั้งยานพาหนะ ที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะนำมาก่อเหตุ
การปฏิบัติงานตามแผนจะใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเป็นหลัก โดยจะมีกำลังจากฝ่ายปกครองและภาคประชาชนเป็นส่วนสนับสนุน ภารกิจหลักคือป้องกันเหตุในเขตเมือง ที่จะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะเข้ามาก่อเหตุ รวมทั้งตามจุดต่างๆ ในเขตเมืองก็จะมีฝ่ายปกครองและภาคประชาชนช่วยกันตรวจสอบสิ่งผิดปกติ ซึ่งมีการวางเครือข่ายในการทำงานและประสานงาน หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็จะสามารถตอบโต้ รวมทั้งปฏิบัติการได้ทันท่วงที โดยแผนดังกล่าวมีความเชื่อว่าจะสามารถป้องกันเหตุในพื้นที่สำคัญๆ ได้
เหตุการณ์ความรุนแรงจะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเวลาที่มุสลิมผู้เคร่งครัดถือศีลอดหรือไม่ ไม่มีใครสามารถตอบได้ แต่ความร่วมมือร่วมใจกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน ที่สร้างความสามัคคีและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีที่อาจจะนำไปสู่ความสงบสุขของพื้นที่ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้
นครินทร์ ชินวรโกมล