เอกชนชี้รัฐหาเจ้าภาพแก้พระวิหารค้านเปิดช่องตาเฒ่า | คมชัดลึก

 (6ส.ค.) นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานหอการค้า จ.ศรีสะเกษ  กล่าวถึงแนวคิดเรื่องการจัดตั้งองค์กรอิสระมาทำหน้าที่แก้ปัญหาเขาพระวิหาร ว่า  เป็นแนวคิดที่ดีที่จะมีการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน  ฝ่ายรัฐบาลขอให้สำนึกว่าเราเป็นคนไทยด้วยกันจึงควรมีแนวทางที่จะรักษาอธิปไตยของเราให้ยังคงอยู่ ขณะเดียวกันความเป็นบ้านพี่เมืองน้องก็ยังคงอยู่จึงควรหาวิธีการที่จะทำตรงส่วนนี้กลับคืนมาแล้วทำการค้าขายร่วมกันเหมือนเดิม

 “จริง ๆแล้วปัญหาเรื่องเขาพระวิหารนี้น่าจะมีเจ้าภาพหลักมาทำงาน เพราะในห้วงระยะเวลา 1 ปีต่อจากนี้ไป การดำเนินการต่าง ๆจะต้องระมัดระวังและต้องมีความเชื่อมั่น  มีการวางแผน ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเราจะไปแนวทางไหนเพราะถ้าผิดพลาดนิดเดียวเท่ากับว่าเราจะย้อนไปเป็นเหมือนเมื่อปี 2505 อีกครั้งหนึ่ง  จึงอยากฝากถึงรัฐบาลขอให้จัดเจ้าภาพที่ชัดเจนมาทำงานตรงนี้โดยเร็ว” นายศรีวรรณ กล่าว

            ส่วนโอกาสที่พื้นที่เขาพระวิหารจะสามารถบริหารจัดการร่วมกันทั้งสองฝ่ายเหมือนกับช่องสะงำจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น  นายศรีวรรณ กล่าวว่า กรณีช่องสะงำที่ผ่านมาประเทศไทยเราได้ให้อะไรกัมพูชาไปเยอะมากไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ให้เงินกู้ในการดำเนินการสร้างถนนระยะทาง 130 กม. ดังนั้นการบริหารจึงจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งเพราะว่าการเดินทางระหว่างเขาพระวิหารกับช่องสะงำมันจะเป็นคนละรูปแบบจึงยากที่จะทำเหมือนกันได้ แต่ถ้าหาเจ้าภาพหลักหรือองค์กรอิสระที่สามารถเข้ามาทำงานตรงนี้ได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี

            ส่วนเรื่องการเปิดช่องตาเฒ่า เป็นด่านการค้าแทนตลาดผามออีแดงนั้น นายศรีวรรณ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่จะตัดสินแต่โดยส่วนตัวมองว่า ถ้าสามารถเปิดอีกแห่งหนึ่งขึ้นมาได้ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเท่าไหร่  น่าจะปรับปรุงใน 2 ส่วนที่มีอยู่และแก้ปัญหาให้แล้วเสร็จเสียก่อน 

            กรณีที่นายวีระ   สมความคิด แกนนำพันธมิตรประชาธิปไตย จะเดินทางมาเขาพระวิหารวันที่ 7 ส.ค.  นายศรีวรรณ กล่าวว่า เรื่องการปกป้องอธิปไตยเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ก็น่าจะให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น  หากท่านวีระจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งตรงนี้ก็ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน การแสดงเป้าหมายออกมาชัดเจน ก็ต้องไม่ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น  ถ้าทำได้อย่างนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีและยินดีที่จะเป็นส่วนร่วมตรงนี้ด้วย