ข่าว

ขอดเกล็ด : พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา"เสียฟอร์มไม่ได้"

ขอดเกล็ด : พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา"เสียฟอร์มไม่ได้"

31 ก.ค. 2553

ผ่านเหตุการณ์กระชับพื้นที่ได้ไม่กี่เดือน พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 ยังจดจำเรื่องที่เคยเผชิญด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตอนขับรถไปร่วมประชุมที่ สน.ลุมพินี ต้องชี้แจงเวลาผ่านด่านตรวจของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่รู้กี่ด่าน มิหนำซ้ำระเบิดยังเฉี่ยวหันไ

 ผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้ก็ตั้งหลักทำงานสืบสวนสอบสวนอยู่ในห้องทำงาน กก.สส.น.5 ถึงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ตั้งใจจะพาภรรยาไปทำบุญถวายสังฆทาน ก็ได้รับภารกิจใหม่ ต้องไปนั่งเฝ้าดูพฤติกรรมสายการเมืองขั้วตรงข้ามรัฐบาลพาผู้ร่วมอุดมการณ์มาเต้นแอโรบิกที่สวนลุมพินี

 ระหว่างหาข่าวก็ขยับแข้งขยับขาไปตามเสียงเพลง ไม่นานเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น พอรับสายก็หูผึ่งกับข่าวที่ได้รับ

 "นายครับมีเหตุระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ ครับ"

 พอวางสายก็รีบบึ่งรถคู่ใจไปที่เกิดเหตุเห็นรถกู้ชีพโรงพยาบาลและมูลนิธิเปิดไซเรนวิ่งกันขวักไขว่ ด้วยสัญชาตญาณนักสืบก็วิเคราะห์เหตุการณ์ว่า น่าจะมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่กี่นาทีก็ถึงที่หมายรีบลงจากรถไปตรวจสอบ

 ไม่นานผู้บังคับบัญชาและกระจอกข่าวก็กระหน่ำโทรเข้ามา พ.ต.อ.สมบัติ ตอบเป็นแนวทางเดียวกันว่า "ยังไม่ทราบว่ามีผู้บาดเจ็บกี่คนและมีผู้เสียชีวิตหรือไม่ แต่น่าจะเป็นระเบิดปิงปองเพราะหาสะเก็ดไม่เจอ"

 แต่พอเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.เข้าเคลียร์พื้นที่และเก็บชิ้นส่วนระเบิดเรียบร้อยแล้ว ผกก.สส.น.5 เห็นทางปลอดโปร่งไม่มีเหตุตูมตามอีกลูกเลยเข้าไปสอบถามรายละเอียดจนรู้ว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องดัดแปลงมาจากเอ็ม 67 จึงหยิบโทรศัพท์โทรกลับไปรายงานผู้บังคับบัญชาใหม่

 วันนั้นนายตำรวจใหญ่ถูกเรียกไปประชุมที่ สน.ลุมพินี กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบ 4 ทุ่ม พอออกจากห้องประชุมก็เจอหน้ากระจอกข่าวเลยถูกเหน็บแนมแสบๆ คันๆ ในฐานะที่รู้จักมักคุ้นกันดี

 "ไหนบอกว่าเป็นระเบิดปิงปองไงครับ ทำไมมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย"

 พ.ต.อ.สมบัติยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะกระซิบเบาๆ "พยานบอกว่าเสียงระเบิดไม่ดังมาก แล้วตอนแรกก็ไม่เจอสะเก็ด แต่ตอนนั้นยังไม่กล้าเข้าไปดู ต้องรอหน่วยเก็บกู้ก่อน"

 "เรียกว่าห้ามเสียฟอร์มว่างั้นเถอะ"

 ผกก.สส.น.5 ยิ้มตาหยีก่อนจะกระมิดกระเมี้ยนตอบว่า "ใช่" แล้วก็ขอตัวกลับไปเรียกประชุมวางแนวทางสืบสวนให้ลูกน้องต่อ