ข่าว

วืดวงจรปิดจับภาพมือบึ้มราชดำริไม่ชัด

วืดวงจรปิดจับภาพมือบึ้มราชดำริไม่ชัด

27 ก.ค. 2553

คดีบึ๊มกองขยะป้ายรถเมล์หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริยังไร้เงาหมายจับมือบึ๊ม วืดภาพกล้องวงจรปิดยังไม่ชัด "บิ๊กอ๊อด" ขอเวลาตำรวจ งมหาหลักฐานเชื่อมโยงพฤติการณ์กลุ่มคนร้ายสักระยะ ด้าน"ผบช.น."ฉุนขาด บอกคนร้ายเป็นพวกโรคจิตคิดทำลายประเทศ มีทั้ง"หัวหงอกและหัวดำ"

(27ก.ค.) เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา(สบ10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ประ ชุมเร่งรัดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีระเบิดถังขยะป้ายรถประจำทางหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงประกอบด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการสืบสวน พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานเป็นผู้ช่วยงานด้านการสืบสวน พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

 พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี ผู้บังคับการสันติบาล 2 พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผู้บังคับการสืบสวนนครบาล พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 5 พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.ลุมพินี และชุดสืบสวน บก.น.5 และสืบสวน สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ต่างนำข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้จากการสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆมารายงานให้ที่ประชุมรับทราบซึ่งหลักฐานทางคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว

 พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า เป็นการติดตามความคืบหน้าทางคดีซึ่งในงานสืบสวนก็ดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่สามารถทำให้รู้ตัวคนร้ายชัดเจน แต่ก็คืบหน้าในหลายจุด ขอให้ตำรวจทำงานก่อน ส่วนการออกหมายจับก็ต้องรอสักระยะเพราะภาพที่ได้มาก็ยังไม่มั่นใจ แต่ตำรวจก็ต้องสงสัยไว้ก่อน ตำรวจก็พยายามไม่ให้หลุดรอดในส่วนของสำนวนการสืบสวนสอบสวนแต่อย่างใด

 " การทำงานของตำรวจทุกส่วนค่อนข้างเป็นระบบทุกจุด พยายามปฏิบัติการเชิงรุก และคดีเก่าๆก็ไปรื้อฟื้น เพื่อหาพยาน หลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงกันได้คดีนี้พบว่า ผู้ประกอบระเบิดมีความชำนาญเป็นพิเศษ เรามุ่งการสอบสวนไปที่กลุ่มที่เคยก่อเหตุมาแล้วซึ่งมีข้อมูลอยู่ เพราะคนทำพวกนี้มีไม่กี่กลุ่ม และคนธรรมดาทำไม่ได้อยู่แล้ว ต้องเป็นคนที่ผ่านการเรียน การฝึกมาพอสมควร ซึ่งเราก็มีชุดที่ไปศึกษารายละเอียด ศึกษาการเชื่อมโยงส่วจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มต้องสงสัย 4 กลุ่มก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น ตอนนี้ยังบอกไม่ได้เพราะในส่วนที่แบ่งเป็นกลุ่มต้องสงสัยในช่วงชุมนุม ก็เป็นข้อมูลส่วนหนึ่ง และจะต้องเข้าไปตรวจสอบ และติดตามความเคลื่อนไหวก่อนหน้านั้นแล้ว " ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าวและว่า

 คดีนี้ตราบใดที่ยังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ ก็ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ชัดเจนได้ว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งขอให้ตำรวจทำงานก่อน โดย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ก็มีความเป็นห่วงและถามความคืบหน้ามาโดยตลอด แต่การสืบสวนก็ต้องใช้เวลา มันจะรวดเร็วอย่างที่เราคิดคงเป็นไปไม่ได้ บางคดีก็ดูเหมือนง่าย แต่เมื่อสืบไปแล้วมันยาก บางคดีดูเหมือนยาก แต่แตะติดนิดเดียวก็ขยายผลได้หมด ซึ่งสื่อมวลชนก็มีเครือข่ายเช่นเดียวกัน หากมีอะไรที่เป็นประโยชน์แก่พวกเรา ก็ขอให้บอกด้วย ตำรวจจะได้ลงไปตรวจสอบ ว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร"

 พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวต่อว่า การทำงานในปัจจุบัน รูปแบการทำงานน่าจะเปลี่ยนไป คือ นอกจากเสนอข่าวการทำงานของตำรวจแล้ว ข้อมลต่างๆที่เรารับฟังจากประชาชน ผิดถูกไม่เป็นไร แต่ควรมีการประสานงาน เชื่อว่าการทำงานในรูปแบบใหม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ในส่วนของตำรวจสิ่งใดให้สื่อมวลชนได้ก็ให้ทันที แต่การให้ ก็ต้องดูในเรื่องระดับชั้นความลับด้วย เพื่อประโยชน์ของทางราชการ แต่รู้ว่าสื่อมวลชนก็จ้องเสนอข่าว

 สำหรับภาพผู้ต้องสงสัยที่ตรวจพบในกล้องวงจรปิดนั้น พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวว่า ตรงนี้ต้องเช็คและตรวจสอบอีกครั้งเราพยายามเก็บพยาน หลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเราต้องเอามาประกอบ โดยตอนนี้กำลังจะหาว่าถุงที่เขาใส่มาเป็นถุงใดกันแน่ เมื่อทราบชนิดถุง ขนาดถุง ประเภทของถุงที่ถือมา เพราะต้องใส่ถุงมาแน่ในการหิ้วมาเพื่อปิดบังอำพราง โดยจากการตรวจสอบได้ให้พยานเก็บชิ้นส่วนในที่เกิดเหตุและพยายามมาต่อ ว่าถุงที่คนร้ายหิ้วมาเป็นถุงชนิดใด ขนาดใด เพื่อประกอบกับผู้ต้องสงสัยได้

 "ในส่วนภาพของกล้องวงจรปิดก็ได้มาพอสมควรแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับความละเอียดของผู้ตรวจ โดยมีทีมที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยเฉพาะ โดยเป็นการแบ่งงานกันทำให้ชัดเจน ทั้งชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุ การหาพยานแวดล้อม ประจักษ์พยาน ก็จะใช่พาะตำรวจท้องที่ (สน.ลุมพินี) ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย หาพยานอย่างเดียว กองสืบสวน แบ่งหน้าที่ก็รับหน้าที่การตรวจสอบติดตามผู้ต้องสงสัย โดยแบ่งหน้าที่ชัดเจนทุกหน่วย ทั้งกองบังคับการสืบสวน กองกำกับการสืบสวน สันติบาล บช.ก. ก็ช่วยกันทำงาน ตอนนี้ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการก่อน โดยยังไม่ได้รับการประสานจากดีเอสไอแต่อย่างใด " พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวและว่า

 คดีนี้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สัณฐาน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ดูงานสอบสวน เป็นผู้ตรวจสอบว่า พยานหลักฐานก่อนว่าเข้าก่อการร้ายไหม ถ้าเข้าเราก็ส่ง แต่อำนาจการสอบสวนเราก็มี เราก็สืบสวนได้ สนับสนุนได้ เพราะเป็นหน่วยงานราชการเหมือนกัน ต้องช่วยกันทำงาน ไม่ได้เกี่ยงกัน แต่เบื้องต้นเราต้องรวบรวมหลักฐาน เพื่อให้ชัดเจนก่อนว่าเข้าก่อการร้ายหรือไม่ ถ้าไม่เข้าก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวน รวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมคนร้ายต่อไป"

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้พบภาพชายต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด 1 คน ลักษณะถือถุงขยะสีดำ และมีผ้าปิดหน้า ซึ่งกำลังตรวจสอบอย่างละเอียดว่าน่าจะใช้คนร้ายที่เอาระเบิดมาวางหรือไม่ โดยยังไม่พบความเชื่อมโยงในส่วนอื่นๆ ที่ชัดเจนมากกว่านี้ จนสามารถออกหมายเรียกได้

 ด้าน พล.ต.ท. สัณฐาน กล่าวว่า ตำรวจทำงานกันอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อยและการสืบสวนสอบสวนทางคดีก็ทำต่อไป ทำได้อยู่แล้ว มีอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว แต่หากการสอบสวนเข้าข่ายการก่อการร้ายก็อาจต้องส่งให้ดีเอสไอดำเนินการ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) แต่ตอนนี้เป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งเราก็ได้เกาะติดมาตลอด ส่วนกรณีที่โฆษกนายกรัฐมนตรี ออกมาตำหนิการทำงานของตำรวจว่า ปล่อยปละละเลยหย่อนยานจนเกิดเหตุร้ายขึ้นนั้น ตรงนี้ขอชี้แจงว่า ตำรวจทำเต็มที่อยู่แล้ว คนจ้องกับคนป้องกันโอกาสก็ต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในกองขยะ

 " คดีนี้มีความเชื่อมโยงกับคดีเก่า เพราะพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายเป็นแบบเดียวกัน ถ้าดูให้สัมพันธ์กันก็เป็นคนร้ายชุดเดียวกัน มอบหมายให้ รอง สุเมธ เป็นผู้ตรวจสอบในรายละเอียดตรงนี้ ส่วนจะมีการก่อเหตุอีก 3 จุดตามที่เป็นข่าวหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้แต่เราป้องกันไว้หมดแล้ว แต่อย่างที่บอกก็คือ คนโรคจิต ที่คิดประทุษร้ายต่อประเทศชาติยังมีอยู่ เมื่อไหร่ที่พวกนี้กลับตัวกลับใจ ถึงจะเลิก บางคนแก่แล้วยังคิดอยู่ทำอยู่แบบนี้ แย่มาก " ผบช.น.กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด