ข่าว

ชมโครงการ  "ชั่งหัวมัน" แปลงปลูกของพ่อหลวง

ชมโครงการ "ชั่งหัวมัน" แปลงปลูกของพ่อหลวง

23 ก.ค. 2553

“...คนที่ไปดูได้เห็นว่า เริ่มต้นด้วยไม่มีอะไรเลย แต่ว่าต่อมาภายในวันเดียว ทุกคนที่อยู่ในท้องที่นั้นก็เข้าใจว่าต้องช่วยกัน และยิ่งในสมัยนี้ ในระยะนี้ เราต้องร่วมมือกันทำ เพราะถ้าไม่มีการร่วมมือกันก็ไม่ก้าวหน้า ไม่มีความก้าวหน้า ฉะนั้นการที่ท่านได้ทำแล้วมี

 ครั้งนี้เรามาเที่ยว "โครงการชั่งหัวมัน" อันเป็นแปลงเพาะปลูกของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชประสงค์ที่ต้องการสถานที่ทำการเกษตรแบบปลอดสารพิษ และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การเกษตรสำหรับผู้ที่สนใจ

 แม้ว่าหลายคน ก็มักใช้คำว่า ช่างหัวมัน ในความหมายที่พาลไปนึกถึงการที่ไม่ต้องใส่ใจอะไรมากนักกันเกือบทั้งนั้น น้อยคนนักที่จะเอาคำนี้มาใช้เป็นชื่อ เพราะจากถนนลูกรังเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่แห้งแล้ง อ่างกักเก็บน้ำหนองเสือที่สามารถกักเก็บน้ำได้เพียงน้อยนิด จนแทบจะไร้ประโยชน์ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ละแวกนั้นเริ่มหมดความหวัง เพราะแทบจะไม่มีพืชชนิดใดที่ทนความแห้งแล้งได้ ยกเว้นต้นยูคาลิปตัส ไม้ยืนต้นต่างถิ่นที่ทนแล้งได้ดี

  ณ ที่แห่งนี้เองที่พระองค์ท่านได้มีพระราชประสงค์ซื้อที่ดินบริเวณนี้ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นที่ดินจำนวน 250 ไร่ และมีชื่อเรียกขานว่า โครงการชั่งหัวมัน ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองคอกไก่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

 เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นของพระองค์ท่าน ชาวบ้านก็อาสามาถวายงานรับใช้พระเจ้าแผ่นดินเพื่อให้ท่านมีความสุขจากความร่วมมือร่วมใจ ในพื้นที่ปลูกพืชผักแบบผสมผสานทั้งพืชท้องถิ่นอย่างเช่น ชมพู่ มะนาว และอีกนานาชนิด เพื่อให้มีผลผลิตหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ขายในพื้นที่ปลูก ผลผลิตจะถูกนำส่งไปขายยังร้านโกลเด้นเพลซ 7 สาขาทั้งในหัวหินและกรุงเทพฯ

 ลมเอื่อยๆ พัดให้กังหันลมไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ ที่มีประมาณ 20 ต้น พลังงานสะอาดนี้จะถูกจ่ายเข้าสู่ระบบโดยมีการไฟฟ้าเป็นผู้รับซื้อ

 ปัจจุบันมีคนที่ทราบข่าวแวะเวียนมาชมแปลงเพาะปลูก ที่โครงการมีจักรยานสีสันสดใสไว้ให้ใช้บริการมีทั้งแบบขี่คนเดียวและแบบสองคน ที่สำคัญไม่ควรที่จะเด็ดผลผลิตใดๆ ทั้งสิ้นเพราจะทำให้พืชได้รับความกระทบกระเทือนจนทำให้ผลผลิตเสียหายและไม่ต่อเนื่อง

 วันนี้สายพระเนตรอันยาวไกลของพระองค์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เพียงไม่กี่เดือนหลังเริ่มโครงการ ความสามัคคีสามารถสร้างพื้นที่ที่แห้งแล้งให้เป็นแปลงเกษตรที่ให้ผลผลิตขึ้นมาได้ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรให้ผู้สนใจเอาไปปรับใช้ในที่ดินของตนเอง ทำให้กินดีอยู่ดีอย่างพอเพียงตามความประสงค์ของพระองค์

"กิตตินันท์ รอดสุพรรณ"
[email protected]