อาจารย์หม่อม แนะ "ยากบ้าง เดาบ้าง เด็กฉลาด" | คมชัดลึก

 งานเขียนและแปลของหม่อมทั้ง 6 เล่มได้แก่ ความฝัน, ซุปก้อนหิน, คำถามสารพัน สร้างสรรค์ปัญญา, เพลินคิดพลอยฝัน, เรียวฝันของแคนดี้ และ พจนานุกรมภาพ “รอบตัว” ล้วนเป็นผลงานแสดงคุณค่าของภาษาไทย ซึ่งหม่อมดุษฎี บอกว่าภาษาเป็นสะพานทอดไปสู่สาระทั้งปวงในชีวิต ต้องให้เด็กๆ อยากจดจำ อยากรู้ เด็กเดาภาษาจากรูปภาพ หรือน้ำเสียงของคนเล่าให้ฟังได้ ดังนั้นช่วงอายุ 0-7 ปีจึงเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะรับอะไรได้หลายอย่าง

 ทว่าหลายคนที่เคยสัมผัสงานเขียนของหม่อมอาจมองว่าเป็นหนังสือที่ใช้ภาษายากเกินไปสำหรับเด็ก มีคำศัพท์ไม่ชินหูชินตาเพียบ อาทิ คำว่า ระยาบระยับ, อุทกธารา, อัฏฐบาน, ยะย่าง ฯลฯ ขนาดผู้ใหญ่เองอ่านแล้วยังงงวย แล้วจะคาดหวังอะไรกับภูมิความรู้ของเด็กตัวเล็กๆ 

 "หนังสือเด็กไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาง่ายมากๆ เด็กเรียนรู้เร็ว อย่างเรื่องเรียวฝันของแคนดี้ ความจริงแปลเฉยๆ ก็ได้ แต่แปลแล้วดูแห้งจัง จึงคิดว่าน่าจะทำอะไรมากกว่านี้ จึงเขียนเป็นทำนองร่าย ใช้ภาษาพูดและภาษาเขียน ให้เด็กรู้จักลักษณะของนักเลงภาษาไทย มีการเล่นเสียงและสัมผัส บางโรงพิพม์ก็ว่ามันยากไปไหม เราอยากให้เด็กใช้จินตนาการ และความสามารถในการเดา ไม่จำเป็นต้องให้รู้ทุกคำ" อาจารย์หม่อม แจง

 ไม่ยากเกินไปที่จะเรียนรู้ อย่างท้ายเล่มของเรื่องเรียวฝันของแคนดี้อาจารย์หม่อมไม่ใจร้ายเกินไป ได้อธิบายความหมายของศัพย์ยากๆ ให้เข้าใจ หรือในหนังสือพจนานุกรมภาพรอบตัว ก็รวบรวมคำศัพท์พร้อมภาพอธิบายความหมายดูแล้วเข้าใจง่าย โดยหม่อมเป็นห่วงว่าทำอย่างไรให้เด็กเข้าถึงภาษาอย่างแท้จริง การมีหนังสือยากปะปน น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำให้เด็กมีพัฒนาการ ทักษะ และจินตนาการมากขึ้น จึงอยากบอกครู หรือพ่อแม่ว่า "อย่ากลัวหนังสือยาก!!"

 "ดิฉันอยากรื้อฟื้นคำเก่าๆ เกรงว่าจะสูญหาย วัยรุ่นทุกวันนี้พูดคุยกันทางอินเทอร์เน็ตฟังแล้วไม่เพราะเลย ไม่ใช่ภาษาไทย ภาษาเราต้องนิ่มนวลเสนาะหู ยิ่งเป็นคำกลอนก็ยิ่งทำให้เด็กจำง่าย อยากให้มีหนังสือที่สอนให้เด็กคิดเป็น เราส่งลูกไปโรงเรียนเพื่อมุ่งหาคำตอบ แต่ต้องหัดให้ขี้สงสัยด้วย และก่อนที่พ่อแม่จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังต้องฝึกอ่านให้คล่องก่อน สำคัญต้องฝึกให้เด็กรู้จักนิ่งบ้าง เด็กต้องอยู่นิ่งให้เป็นแล้วจะฉลาด" นักการศึกษาปฐมวัยรุ่นคุณย่า แนะทิ้งท้าย