ข่าว

โรคประหลาดเปลี่ยนสำเนียงสาวกีวี

โรคประหลาดเปลี่ยนสำเนียงสาวกีวี

17 ก.ค. 2553

สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างยิ่งของมนุษย์ ธรรมชาติจึงออกแบบอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยชั้นเลิศให้แก่สมอง จึงมีโอกาสที่จะเป็นโรค หรือเสียหายได้น้อยมาก แต่หากเกิดความเสียหายกับสมองขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับมนุษย์กันเลยทีเดียว เรื่องนี้สาวใหญ่ชาวนิวซีแลนด์ ช

นางฟอกซ์เกิดและโตที่เมืองอินเตอร์คาร์กิลทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นคนผิวขาวรุ่นที่สามที่เกิดบนแผ่นดินสวรรค์แห่งนี้ ดังนั้นเธอจึงพูดภาษาอังกฤษสำเนียงนิวซีแลนด์อย่างชัดเจนตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อเร็วๆ นี้เองนางฟอกซ์ต้องตกใจเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วพบว่าสำเนียงการพูดของตนเองเปลี่ยนไปกลายเป็นสำเนียงการพูดแบบลูกผสมระหว่างเวลส์ สกอตแลนด์ และลอนดอนทางตอนเหนือ ทั้งที่ในชีวิตนี้เธอยังไม่เคยเหยียบแผ่นดินอังกฤษแม้แต่ครั้งเดียว

สำเนียงการพูดของเธอเปลี่ยนไปขนาดที่ว่าเพื่อนสนิทยังจำไม่ได้ เมื่อนางฟอกซ์โทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทยังถูกวางหูใส่เพราะเพื่อนนึกว่าถูกอำ แต่นายเร็กซ์ สามีของนางบราวน์ชอบใจเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกทำให้วันที่น่าเบื่อของเขากลายเป็นวันที่สดใสขึ้นมาได้

บนโลกกลมๆ ใบนี้มีผู้ป่วยด้วยอาการคล้ายกับนางฟอกซ์เพียงสิบกว่าราย ที่ได้รับการบันทึกไว้ในวงการแพทย์ โดยพบผู้ป่วยด้วยอาการสำเนียงเปลี่ยนรายแรกในปี 2450 และต่อมามีบันทึกการพบผู้ป่วยหญิงชาวอังกฤษที่พูดภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศสหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชน และหญิงนอร์เวย์พูดภาษานอร์ดิกด้วยสำเนียงเยอรมันหลังจากถูกยิงด้วยกระสุนลูกปรายในปี 2484 และเมื่อต้นปีนี้เอง นางซารา โคลวิล ชาวเมืองพลีมัธ ในอังกฤษ กลับพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงจีนหลังจากทนทุกข์ทรมานด้วยโรคไมเกรน ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่เคยเดินทางไปยังประเทศจีนแม้แต่ครั้งเดียว 

แพทย์ระบุว่าโรคสำเนียงเปลี่ยนนี้เกิดจากเหตุสมองได้รับความกระทบกระเทือน รวมทั้งกรณีของนางฟอกซ์ที่เมื่อตรวจด้วยเครื่องเอกซ์เรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็ก (เอ็มอาร์ไอ) แพทย์ก็พบรอยขีดเล็กๆ สองรอยบนสมองส่วนหลัง ซึ่งต้องหาสาเหตุต่อไปว่ารอยดังกล่าวเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
ถ้าคุณเกิดตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าสำเนียงของตัวเองเปลี่ยนไป นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของสมอง แนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์ และกลับมานั่งอย่างภูมิใจว่าเราเป็นหนึ่งในไม่กี่สิบคนในโลกที่มีสำเนียงแปลกไปจากคนอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ