
วาสนะเวศม์ พระนครศรีอยุธยา
เมื่อครั้งที่ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนามหาเถระ) ยังทรงมีพระชนม์อยู่ ได้ทรงหายจากพระอาการประชวรในปี พ.ศ.2528 ได้มีการจัดสร้างสถานสงเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือคนชราที่ได้รับความลำบาก และประสบปัญหาทา
วันที่ 8 พฤษภาคม 2530 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน ทรงทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และ สมเด็จพระสังฆราชประทานชื่อสถานสงเคราะห์แห่งนี้ว่า วาสนะเวศม์ มีความหมายว่า ที่อยู่ของผู้มีบุญ
วาสนะเวศม์ เป็นสถานสงเคราะห์คนชรา ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ครอบครัวเป็นผู้มีรายได้น้อย ไม่สามารถเลี้ยงดูคนชราไว้ในครอบครัว จึงมอบหน้าที่ให้ วาสนะเวศม์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้ดูแลคนชราเหล่านี้
ทุกครั้งที่กลับจากการพาคณะไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองซัวเถา ตั่วเล่าเอี้ย (เจ้าพ่อเสือ) หลวงปู่ไต่ฮงกง (ผู้ให้กำเนิดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง) ข้ามทะเลไปไหว้ ไฮ้ตังม่า (เจ้าแม่ทับทิม) บนเกาะเหมยโจว ผมจะนำค่าใช้จ่ายที่เหลือ และชาวคณะร่วมกันบริจาคอีกส่วนหนึ่ง ไปซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ข้าวหอมมะลิใหม่ นำไปบริจาคให้ คุณโสภาพรรณ ทุมโฆสิต ผู้อำนวยการวาสนะเวศม์ พระนครศรีอยุธยา
ผ้าอ้อมสำหรับเปลี่ยนให้ผู้สูงอายุ ข้าวหอมมะลิใหม่จะนำไปผสมกับข้าวขาว หุงเป็นข้าวสวยหรือข้าวต้ม จะได้นุ่ม คนชราทุกท่านจะได้กินข้าวอย่างมีความสุข ส่วนเงินที่เหลือจะบริจาคให้เป็นค่าฌาปนกิจและถวายพระ หลังจากที่ผู้สูงอายุต้องจากไป บุญกุศลทั้งหลายผมจะมอบให้ผู้ร่วมคณะไหว้เจ้าที่เมืองซัวเถาทุกคนครับ
วันที่ 31 สิงหาคม-4 กันยายน 2553 ผมจะพาคณะไปไหว้สุสาน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำเภอเท่งไฮ้ ชมตำนานเหมาเจ๋อตุง ณ เมืองมหาวิทยาลัยจี๋เหม่ย ไหว้เจ้าแม่ทับทิมที่เกาะเหมยโจว ชมบ้านต้นตระกูลหวั่งหลี ขอพรเจ้าพ่อเสือ (ตั่วเล่าเอี้ย) ชมบ้านเกิดไต่ฮงกง ผู้ให้กำเนิดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ติดต่อโทร.08-1251-9122
อร่อย 200 ปี ที่ตลาดหัวรอ อยุธยา
ออกจากวาสนะเวศม์ ผมต้องพาแม่มะลิไปไหว้หลวงพ่อซำปอกง (พระพุทธไตรรัตนนายก) วัดพนัญเชิงวรวิหาร และหลวงพ่อโต วัดมงคลบพิตร แล้วแวะไป ร้านชายน้ำ (จอมสุรางค์) สั่งน้องหมวย ทำกุ้งแม่น้ำเผา ต้มยำปลาม้า ปลาเนื้ออ่อนทอดราดพริก และทอดมันปลากราย กินจนหมดทุกจาน โทร.0-3525-2013, 08-1696-2439
อิ่มแล้วผมพาแม่มะลิไปดื่มโกปี้เลี้ยง (กาแฟเย็น) ในตลาดหัวรอ ตลาดแห่งนี้เก่าแก่คู่กับ พระราชวังจันทรเกษม ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเตรียมทัพในการสู้ศึกกับทัพพม่า ตลาดหัวรอจึงเป็นศูนย์กลางการค้าขาย ทางแม่น้ำป่าสักมานานกว่า 200 ปี วันนี้ขอพาไปชิมของดีตลาดหัวรอ 3 ร้านครับ
ขนมจีบเจ๊หยู่อี่ ลูกละ 5 บาท อร่อยจนผมต้องนึกถึงฝีมือการทำขนมจีบสูตรเยาวราช จึงถาม "เจ๊หยู่อี่" คุณรัชนี แซ่กิม ว่าได้วิธีทำขนมจีบมาจากไหน เจ๊หยู่อี่บ้านเดิมอยู่แถว วงเวียน 22 กรุงเทพฯ ชีวิตในวัยเด็กวิ่งเล่นอยู่แถวถนนเจริญกรุง ตรอกเท็กซัส ซอยแปลงนาม จึงได้เชฟจากภัตตาคารจีนสอนให้ทำขนมจีบ
เมื่อแม่เบื่อกรุงเทพฯ จึงพาครอบครัวไปอยู่ที่ตลาดหัวรอ ทำไอสกรีมกะทิขาย ทำเกี๊ยวบะหมี่ปูเย็นตาโฟขาย หลังจากที่ตลาดหัวรอมีการปรับปรุงใหม่ เจ๊หยู่อี่ได้พื้นที่ไม่มากนักจึงทำขนมจีบขายสลับกับบ๊ะจ่าง วันไหนพอมีเวลาว่างก็ทำ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าผัดซีอิ๊วขายคู่กับกระเพาะปลา จะไปกินขนมจีบเจ๊หยู่อี่ต้องโทร.08-9409-1356 ถามว่า วันนี้เจ๊หยู่อี่ขายอะไร
หมูหยอง กุนเชียง ก.วัฒนา ร้านนี้เก่าแก่กว่า 50 ปี ผมไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดหัวรอทีไร เดินผ่านหมูหยองร้านนี้ไปอย่างไม่สนใจ คิดว่าหมูหยองกุนเชียงบ้านนอกคงไม่ได้เรื่อง แต่พอคุณอุไร ศิริอารยะพันธ์ ตักหมูหยองให้ผมชิม หั่นกุนเชียงทอดให้ผมลอง อร่อยจนต้องสั่งคุณอุไรตักหมูหยองใส่ถุงมากินกับข้าวต้ม ผมสั่งกุนเชียงโบราณเส้นสั้นๆ มาย่างในเตาอบ ไล่น้ำมันออกให้หมดก็อร่อยจนลืมกุนเชียงมาเก๊าไปเลยครับ ร้านขายหมูหยองกุนเชียงคุณอุไรอยู่ในตึกภายในตลาดหัวรอ โทร.08-7984-5501, 0-3525-1508
เครื่องพริกแกงป้าศรีนวล แผงนี้ขายพริกแกงในตลาดหัวรอเก่าแก่มากว่า 60 ปี คุณปพิชญา ประสมเพชร ลูกสาวป้าศรีนวล เล่าว่า ภัตตาคารร้านอาหารในเมืองอยุธยาจะสั่งซื้อพริกแกงทุกชนิด ไปประกอบปรุงอาหารขายลูกค้า น้องหมวยร้านชายน้ำ (จอมสุรางค์) ใช้เครื่องพริกแกงป่าไปทำ แกงป่าลูกชิ้นปลากรายอร่อยมากครับ มีทั้งพริกแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด แกงส้ม แกงเนื้อ แกงไก่ และที่พี่น้องมุสลิมในอยุธยามาซื้อไปใช้คือ พริกแกงมัสมั่น ที่หอมเครื่องเทศมาก โทร.08-9910-6903
"อ.ไชยแสง กิระชัยวนิช"