
ทุบกระจก-กวาดทรัพย์บริษัท"ปุ้ย"พิมลวรรณช่อง3
โจรกรุงอาละวาด ทุบกระจกบริษัท"ปุ้ย"พิมลวรรณพิธีกรรายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" ขนทรัพย์สินทั้งคอมพ์-มือถือ-เงินสดมูลค่า 8 หมื่นบาท หลบหนีไร้ร่องรอย ด้านสามีครวญต้องเสียเงินซ่อมแซมนับแสนบาท ระบุเตรียมรีบติดกล้องวงจรปิด-เหล็กดัดป้องกันโจรก่อเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 15 ก.ค.ร.ต.ท.สุพจน์ มะลิเลิศ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โคกคราม รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกเข้าไปลักทรัพย์ภายในบริษัทชัช นักเก็ต จำกัด เลขที่ 99/2 หมู่ 9 ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ สน.โคกคราม ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง เปิดเป็นบริษัทจำหน่ายไก่ทอดเฟรนชายด์ ยี่ห้อ “ชิกเก้น นักเก็ต บาย ปุ้ย”ของนางพิมลวรรณ หุ่นทองคำ หรือ“ปุ้ย" พิธีกรรายการ “ผู้หญิงถึงผู้หญิง”ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
เจ้าหน้าที่พบว่า กระจกประตูหน้าบริษัทถูกทุบแตกเป็นรูขนาดใหญ่ พื้นด้านหน้าพบอิฐบล็อกขนาดใหญ่ตกอยู่ด้านหน้า นอกจากนี้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในชั้นล่างของบริษัทพบร่องรอยการรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย มีชะแลงตกอยู่ 2 อัน ไขควงแบบยาว 1 ด้ามวางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝง และนำหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ ก่อนประสานไปยังเจ้าของบริษัทให้เดินทางมาตรวจสอบทรัพยสินที่หายไป
นายชัชพงษ์ หุ่นทองคำ อายุ 41 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทชัช นักเก็ต จำกัด สามีของนางพิมลวรรณ เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไป กล่าวว่าตนเพิ่งเปิดบริษัทเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าและให้ลูกค้ามาทดลองชิมสินค้าได้เพียง 3 เดือน ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัย จึงยังไม่เข้าที่เข้าทาง กล้องวงจรปิดก็ยังไม่ได้ติดตั้ง ปกติจะเปิดบริษัทเวลา 09.00 น.และปิดเวลา 17.00 น.ของทุกวัน แต่หากมีงานก็จะปิดในเวลา 18.00-19.00 น.ส่วนในเวลากลางคืนก็จะไม่มีใครอยู่ที่บริษัท
นายชัชพงษ์กล่าวต่อว่า จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งพักอยู่ใกล้เคียงกับบริษัททราบว่า ช่วงเวลา 01.00 น.มีชายต้องสงสัยมาเดินวนไปมาด้วยท่าทางมีพิรุธอยู่ที่หน้าบริษัท ก่อนจะทำทีเข้าไปสอบถามเวลาจากพยาน หลังจากนั้นไม่นานเห็นมีชายต้องสงสยัขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ สีน้ำเงิน แบบผู้หญิงรุ่นเก่า หมายเลขทะเบียน ฉ 5518 อุทัยธานี มาจอดเหมือนดูลาดเลาที่บริเวณร้านอาหารบ้านสวนน้ำ ห่างจากบริษัทประมาณ 50 เมตร จนนานผิดสังเกต หลังจากนั้น ประมาณเกือบ 02.00 น.พยานคนเดิมก็เห็นว่ามีชาย 2 คนกำลังขนของออกจากบริษัทไปขึ้นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ที่จอดอยู่หน้าบริษัทแบบผิดสังเกต ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
กรรมการผู้จัดการบริษัทชัช นักเก็ต จำกัดกล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจได้เดินทางมาตรวจสอบที่บริษัท พบว่า กระจกประตูหน้าบริษัทถูกทุบแตกเป็นรูขนาดใหญ่จนคนสามารถลอดเข้าไปได้ แต่หลังจากนั้น ทางสายตรวจได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบเหตุอีกเหตุหนึ่งที่ร้านอาหารใกล้เคียง จึงยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบในบริษัท กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.มีสายตรวจอีกชุดหนึ่ง เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคนร้ายกำลังมุดออกมาจากรูกระจกพอดี โดยคนร้ายปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไร ก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ในซอยด้านข้างบริษัท แล้วขับย้อนศรมุ่งหน้าไปเลี้ยวเข้าซอยที่เป็นทางลัดไปออกซอยนวลจันทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามไป แต่ตามไม่ทัน
นายชัชพงษ์กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อตนไม่ได้ ทำให้ต้องติดต่อไปที่ช่อง 3 ช่วงเช้า ทางโปรดิวเซอร์รายการแจ้งให้ภรรยาตนทราบ ก่อนจะบอกให้ตนรีบมาตรวจสอบทรัพย์สินภายในบริษัททันที พบว่า ทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไปประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะชั้นล่างจำนวน 3 เครื่อง เงินสด 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รวมมูลค่า 80,000 บาท แต่รวมมูลค่าความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมทั้งหมดก็ตกประมาณ 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีเครื่องถ่ายเอกสาร-แฟกซ์ ราคานับแสนบาท ที่ตั้งอยู่ชั้นล่างก็ถูกคนร้ายตัดสายไฟไว้เพื่อเตรียมขนย้าย และเมื่อตนขึ้นไปตรวจสอบที่ชั้น 2 พบว่า คนร้ายขนทรัพย์สินมาวางกองรวมกันไว้ เพื่อเตรียมขนย้ายแล้วด้วย หากไม่มีคนเห็นแล้วแจ้งตำรวจเสียก่อน คาดว่า ทรัพย์สินน่าจะหายเกลี้ยงทั้งบริษัทแน่นอน
นายชัชพงษ์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันแล้ว หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความกับตำรวจที่ สน.โคกคราม อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีรถที่มาจอดไว้ติดต่อบริษัทด้านข้างบริษัทตนถูกทุบกระจกลักทรัพย์สินไปด้วย หลังจากนี้ คงติดตั้งกล้องวงจรปิด และติดเหล็กดัดอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก