
พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ
ระยะนี้เราท่านคงได้ยินพระนามของพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ อยู่บ่อยๆ จากการที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวังของพระองค์เป็นโบราณสถานแห่งหนึ่ง และในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนมหาวิทยาลัยทูบิงเงน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ ประสูติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2427 ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับที่ 44 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาทิพย์เกสร ซึ่งเป็นธิดาเจ้าราชวงศ์กับเจ้าอุบลวรรณา ซึ่งเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ เป็นพระราชโอรสรุ่นเล็กในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เสด็จไปศึกษาในต่างประเทศเป็นชุดท้าย โดยได้ตามเสด็จฯ ไปในการประพาสยุโรป ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2440 ขณะมีพระชนมายุ 13 พรรษา ร่วมด้วยเจ้านายอีก 4 พระองค์ คือสมเด็จเจ้าฟ้าสมมุติวงศ์วโรทัย (กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์) สมเด็จเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร (กรมหลวงลพบุรีราเมศร์) พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ (กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร) และพระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส (กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์) พระโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
ในตอนแรกพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐทรงศึกษาในระดับประถมและมัธยมที่ประเทศอังกฤษ แต่ในปี 2443 เจ้าจอมมารดาทิพย์เกสรสิ้นพระชนม์ จึงเสด็จกลับมาเมืองไทยเพื่อจัดการพิธีศพพระมารดาและประทับอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 8 เดือน แล้วจึงเสด็จกลับไปศึกษาต่อที่อังกฤษ แต่ก็มีปัญหาบางประการพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้ย้ายไปเรียนต่อที่เยอรมนี ซึ่งปรากฏว่าพระองค์เจ้าดิลกนพรัฐทรงทุ่มเทพระองค์ให้แก่การศึกษาเป็นอย่างมาก ทรงมีความรู้ความเชี่ยวชาญในภาษาเยอรมันเป็นอย่างดี จนได้เข้าศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยมิวนิก และย้ายไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยทูบิงเงน
พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยทูบิงเงน เมื่อปี พ.ศ.2450 และทรงทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “เกษตรกรรมในสยาม : บทวิเคราะห์ทางประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ” ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ในชนบทของไทย จากอดีตจนถึงรัชสมัยรัชกาลที่ 5
ทั้งนี้ ทรงเป็นคนไทยคนแรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ และเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก รวมทั้งเป็นคนไทยคนแรกที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทย
พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ เสด็จกลับประเทศไทยในปี พ.ศ.2450 ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จกลับจากการประพาสยุโรป ครั้งที่ 2 พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐได้เข้ารับราชการที่กระทรวงมหาดไทย ในตำแหน่งปลัดกรมพิเศษ แผนกอัยการต่างประเทศ เจ้ากรมเลขานุการ และเจ้ากรมพลำถัง (กรมการปกครอง) และผู้ช่วยปลัดทูลฉลอง ตามลำดับ
พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐทรงอภิเษก (บางแห่งว่าทรงหมั้น) กับเจ้าศิริบังอร ณ เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในความอุปการะของพระชายาเจ้าดารารัศมี แต่ต่อมาเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าศิริบังอรทำให้จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำที่วังสวนสุนันทา เหตุการณ์นี้ทำให้พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมาก
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามว่ากรมหมื่นสรรควิสัยนรบดี แต่ภายหลังจากที่ได้รับการสถาปนาเพียง 2 เดือน ก็ทรงปลงพระชนม์ชีพด้วยพระแสงปืน ณ วังที่ประทับ เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2455 ขณะมีพระชนมายุได้ 28 พรรษา
ล่วงมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ