
หมายจับกับบรรจง-ตุ๋นร้านทอง หลอกขายหยกปลอม
ในช่วงภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ มีมิจฉาชีพประเภทหลอกลวง ต้มตุ๋น เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทีมงานหมายจับกับบรรจงได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของร้านทองแห่งหนึ่งว่า ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่หลอกนำอัญมณีประเภทหยกมาขายให้ แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นของปลอม ทำให้เสียเงินไปหลักแสนบาทจากการถูกหลอกครั้งนี้
ร้านทองที่ว่านี้ มีชื่อว่า ร้านทองแสงทองใบครับ อยู่ภายในซอยสุขุมวิท 71 กรุงเทพมหานคร นายพันสรวง ฮ่อคนดี เจ้าของร้านเล่าว่า วันหนึ่งขณะเปิดร้านตามปกติ ก็มีหญิงคนหนึ่งคลุมผ้าสีดำแบบชาวมุสลิม อายุประมาณ 35 ปี เดินเข้ามาในร้าน และหยิบหยกเม็ดจำนวนหนึ่ง ซึ่งผ่านการเจียระไนแล้ว มาเสนอขาย โดยอ้างว่ามีความจำเป็นต้องการใช้เงินด่วน เพราะต้องนำเงินไปรักษาสามี ซึ่งนอนป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคไตอยู่ที่โรงพยาบาล
“หยกที่เธอนำมาเสนอขายให้ เธอบอกว่าเป็นของสามีที่ซื้อมาเก็บไว้นานหลายปีแล้ว ประกอบกับมีใบการันตีรับรองจากสถาบันที่ได้รับความเชื่อถือแห่งหนึ่ง ตอนนั้นใจผมก็นึกสงสารเห็นใจ เพราะตัวเองก็ป่วยเป็นโรคเบาหวานเหมือนกัน เลยรับซื้อเอาไว้” นายพันสรวงบอกกับทีมงาน
ครั้งแรกเจ้าของร้านทองรับซื้อเอาไว้จำนวนหนึ่ง และจ่ายเงินค่าหยกไปร่วมแสนบาท แต่ก็ไม่ได้เอะใจว่าจะเป็นของปลอม
ปรากฏว่าในวันถัดมา หญิงคนดังกล่าวได้ย้อนกลับมาที่ร้านทองแห่งนี้ และนำหยกมาอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งไพลิน มาเสนอขายให้เจ้าของร้านอีก โดยบอกว่าไม่ต้องการเก็บไว้แล้ว อยากขายให้ทั้งหมด เพราะต้องใช้เงินในการรักษาสามีจำนวนมาก ซึ่งเจ้าของร้านก็รับซื้อไว้อีก รวมแล้วทั้งหมดที่เธอนำหยกมาขายให้ได้เงินไปเกือบ 2 แสนบาท!!
นายพันสรวงเล่าว่า โดยปกติที่ร้านทองแห่งนี้ เวลามีคนนำทองมาขายจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์สแกนหาค่าของเนื้อทองว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งมีการชั่งน้ำหนักทองด้วย แต่ในกรณีของอัญมณี เบื้องต้นจะใช้วิธีส่องดูประกายแสง ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญ หากไม่แน่ใจก็จะส่งตรวจที่สถาบันรับรองอัญมณี แต่กรณีนี้เขาเองก็ยอมรับว่าพลาด ที่ไม่ตรวจสอบให้ละเอียด เพราะหญิงคนดังกล่าวดูแล้วไม่มีพิรุธใดๆ ให้คิดได้ว่าจะเป็นมิจฉาชีพ ประกอบกับความสงสารเห็นใจ จึงช่วยซื้อไป
เจ้าของร้านทองแสงทองใบมารู้อีกทีว่าถูกหลอก ก็ตอนนำหยกส่วนหนึ่งไปตรวจสอบกับสถาบันที่ออกใบการันตีรับรองหยกจำนวนนี้ ซึ่งได้คำตอบว่าเป็นหยกปลอมที่ฉีดสีให้ดูสวยงาม และน้ำหนักหยกก็ไม่ตรงกับใบรับรองที่ออกมา จึงเชื่อว่าคนร้าย นำใบรับรองแท้มาสวมกับหยกปลอมหลอกขายร้านทองแห่งนี้
“ของปลอมแบบนี้ จริงๆ แล้วซื้อขายกันเม็ดละไม่กี่ร้อยบาท แต่ผมกลับซื้อมาในราคาเม็ดละหมื่นกว่าบาท” พันสรวงเล่าให้ฟังพร้อมชี้ไปที่หยกสิบกว่าเม็ดที่นำมาให้ทีมงานดูด้วยความเจ็บใจ
“ผมเสียความรู้สึก เพราะต้องการช่วยเขา เอาเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย ความเป็นความตายมาหลอกกัน ทำให้ผมสงสาร ทำอย่างนี้แล้ว ต่อไปคนในสังคมคงไม่กล้าจะช่วยเหลือใครกันอีก เพราะคิดว่าตัวเองจะถูกหลอกหรือเปล่า ผมเองก็คงเข็ดไปเลย” พันสรวงบอกทิ้งท้ายกับทีมงาน
คดีนี้มีการแจ้งความเอาไว้แล้วครับ ที่ สน.พระโขนง ซึ่งกล้องวงจรปิดในร้านสามารถจับภาพมิจฉาชีพหญิงรายนี้ไว้ได้ พบเห็นก็แจ้งเบาะแสที่ตำรวจหมายเลข 0-2332-2361-6 ครับ ส่วนร้านทองอื่นๆ ก็ระมัดระวังไว้ด้วยนะครับ ก่อนจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
สุดท้ายทางชมรมชาว อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ฝากบอกชาวรือเสาะทั่วประเทศ เชิญร่วมงาน “รือเสาะสังสรรค์ 2009” วันที่ 28 มีนาคม 2552 ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ รัชดาฯ เวลา 18.00 น. รายได้ส่วนหนึ่งช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบปัญหาภัยก่อการร้ายใน จ.นราธิวาส ครับ สอบถามรายละเอียดที่คุณสมพล บัณฑรเศรษฐ์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-9992-1281
แจ้งเบาะแสทีมงานหมายจับกับบรรจง 0-2751-5409 อีเมล [email protected]